ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เรื่องเล่าหลอนๆ แถวลาดกระบัง PANTIP


สวัสดีจ้า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 แล้วเนอะ ที่เราลงไว้ในพันทิพ ... ไม่เกริ่นอะไรมากมายขอเข้าเรื่องเลยล่ะกัน ครอบครัวเรามีอาชีพหลักคือ ต่อเติมบ้าน รับเหมาปูกระเบื้อง งานปูนงานไม้ทั่วไปประมาณนี้ เราก็ได้ไปกับพ่อแม่ในหลายๆจังหวัด เปลี่ยนไซต์งานไปเรื่อย ตอนนั้นช่วงปิดเทอมพอดี เราก็ได้ไปอยู่กับพ่อแม่  แถวนั้นส่วนมากจะมีแต่หอพักนักศึกษาเยอะมาก พ่อกับแม่เราก็ได้มาปูกระเบื้อง ที่หอพักนี้ อยู่ตรงข้ามกับสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง แต่ก็ห่างกันพอสมควร.  

หอพักนี้ยังสร้างไม่เสร็จดีประมาณ 50-50  เพราะงานฉาบภายใน งานฝ้าก็ยังไม่เรียบร้อย หอพักแห่งนี้ติดคลอง มีประมาณ 5 หรือ 4 ชั้น เราไม่แน่ใจ (เพราะนานมากแล้ว) วันแรกที่ย้ายของกันเข้ามาเราก็ จัดแจงเก็บของเข้าที่กันเรียบร้อย  คือก็เดินสำรวจพื้นที่ตามปกติ  ไม่ได้คิดอะไร ... แต่คือน่ากลัวอย่างนึง คือเราต้องพักในตัวหอพักแห่งนี้ เพราะพื้นที่แถวนี้แออัดมาก ไม่มีพื้นที่พอ ที่จะสร้างแคมป์คนงาน เราก็กลัวนะ แต่ไม่ได้นึกถึงผีหรือวิญญาณเลยตอนนั้น กลัวคนมากกว่า เรากับพ่อแม่นอนชั้น 1 ห้องสุดท้ายติดคลอง อาเรานอนห้องติดกันกับเรา  แล้วก็มีหลานพ่อนอนชั้น 3 คนเดียว เรื่องของเรื่องห้องนอนไม่มีประตูด้วย เพราะประตูนี่คือเค้าจะติดแทบขั้นตอนสุดท้ายเลย ถ้าตึกเสร็จ คือพวกเรามาถึงหอก็ช่วงบ่ายก็เพลียๆกันแล้ว คือก็นอนกันแบบนั้น พ่อเลยบอกว่าพรุ่งนี้ค่อยทำประตูล่ะกัน ไอ้เราก็นอนๆแบบระแวงอ่ะ กลัวด้วยแปลกที่ด้วย 

พอประมาณ 6 โมงเช้า ... แต่ท้องฟ้าก็ยังสลัวๆอยู่ ไม่สว่างมาก เรากับพ่อแม่ตื่นกันตั้งแต่ ตี 5 กว่าแล้ว ก็เราตื่นล้างจานปกติ แม่ก็ทำกับข้าว พ่อก็นั่งดูข่าวดูทีวีเรื่อยเปื่อย ก็ต้องตกใจเสียงของ "L" หลานชายพ่อ  มันวิ่งมาถามว่ามีใครขึ้นไปที่ห้องมันมั้ย เป็นผู้หญิงผมยาวๆ ไม่สูงมาก  พยายามจะเข้ามาในมุ้งมันแต่เข้ามาไม่ได้ มันก็เล่าแบบเสียงสั่นๆ เหมือนจะร้องไห้ TT "L" บอกหลักจากที่เจอแบบนั้นก็หลับไม่ลงทั้งคืน ... พอเช้าเลยมาถามพวกเรา  แบบปลอบใจตัวเองไง สรุปไม่มีคนในตึกนั้น มีลักษณะแบบที่มันบอกเลย คือมันบอกว่าผู้หญิงคนนั้นผมยาวมากๆ เราก็บอกมันแบบติดตลกอ่ะ ตรูมั้ง แต่ ผมตรูสั้นแค่ติ่งหูเนี่ย มุงว่าใช่ตรูมั้ยล่ะ (ตอนนั้นเราเรียนอยู่ประมาณป.5-ป.6)  เราก็ขำ

เราคิดว่ามันคงนั่งรถเหนื่อยเพลีย แล้วจินตนาการไปทั่ว (เราก็กลัวนะแต่ปลอบใจตัวเอง) TT เรื่องมันคงจบแค่นั้น ถ้าลุงคนข้างบ้านไม่บังเอิญเดินผ่านมา ได้ยินที่เราคุยกัน...ลุงเลยพูดขึ้นมาว่าไม่เคยฟังข่าวหรอ ?? ที่ผู้หญิงโดนฆ่าตายแล้วเอามาโยนทิ้งน้ำ เห็นมั้ยสะพานตรงนั้นแหละที่คนร้ายเอาศพมาทิ้ง  
ลุงก็ทำท่าทำทางชี้นิ้วไปที่สะพานนั้น ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เราพักเท่าไร !!! เราก็มองหน้ากับ "L" แบบโกหกหรือเปล่าว่ะ  แต่งเรื่องอะไรมาหลอกตรูอีกเนี่ย  แค่นี้ก็กลัวขนหัวลุกแล้วลุงงงง. TT เวลาก็ผ่านไปจนงานเสร็จ ไอ้ "L" เนี่ยก็ไม่เจอเหตุการณ์แปลกๆอะไรอีก พองานเสร็จ พ่อแม่เราก็ย้ายที่ทำงานจากตรงนั้นมาไม่ได้ไปแถวนั้นอีก  จนเราลืมเรื่องนี้ไปสนิท โรงเรียนก็เปิดเทอมเราก็กลับไปเรียนตามปกติ ไม่ได้

นึกถึงเรื่องนี้อีกเลย เรื่องมันไม่ได้จบแค่นั้น เราเป็นคนที่ชอบฟัง The Shock  ชอบอ่านเรื่องผีมากเป็นชีวิตจิตใจ คืนนั้นนอนไม่หลับ เป็นอะไรก็ไม่รู้ ทำยังไงก็ไม่รู้สึกง่วงสักนิด เราก็เลยนอนฟัง The Shock ย้อนหลังในยูทูป กะว่าฟังไปเพลินๆ เดี๋ยวก็คงเคลิ้มหลับเองล่ะเนอะ TT  พอฟังจบไปหลายเรื่องไม่หลับอ่ะ ทำไงดี  ไอ้ใจเราอ่ะอยู่ดีๆก็นึกถึงเรื่องที่ไอ้ "L" มันเจอผู้หญิงคนนั้น นึกถึงเรื่องที่ลุงข้างบ้านเล่าให้ฟัง  

เลยเสิร์ซหาจนเจอเหตุการณ์นึงที่มีคนมาเขียนไว้ในบล็อคๆหนึ่งคือ  เราคิดว่าเหตุการ์ณเดียวกันแน่นอน สถานที่ก็ใช่ (เนื้อเรื่องก็ประมาณนี้) เรื่องนี้เกิดตอน สิงหาคม พ.ศ. 2548 เป็นเวลาเที่ยงคืนหลังจากกลับจากซีคอนฯ นั่งรถประจำทางมาลงแถวซอยจินดา ซื้อของเซเว่นเล็กๆน้อย มันก็คลองที่เดินผ่านบ่อยๆ ข้ามไปคณะเกษตร เลี้ยวถนนฉลองกรุง เพื่อเดินไปต่อที่คณะวิศวะ วันนั้นแวะไปนอนกับเพื่อนเพื่อที่จะไปทำงานที่ อ.แกลง ในตอนตี 5 

คืนนั้นไม่มีพระจันทร์ ไฟบนสะพานก็มืด ปกติมันติดสว่างสลัวๆ เราก็เดินข้ามแบบสบายใจมองไปตามคลอง ที่มืดๆมองหันซ้ายเห็นโรงน้ำแข็งเก่าๆที่อยู่ไกลๆ อากาศเย็นๆ สบายๆ พอเริ่มเดินเกือบกลางสะพาน  โดยไม่คาดคิดไฟดับทั้งสะพานซีกซ้าย มันตกใจนิดๆ เพราะเดินมืดๆอาจสะดุดสะพานที่ชันได้ พอเดินต่อไปค่อนสะพานในช่วงที่โค้งลง ไฟมันก็กระพริบวูบหนึ่ง ในจังหวะที่เรามองลงไปในคลองที่มีผักตบชวา แล้วก็ต้องสะดุ๊ง! ขนลุกชัน ตัวอ่อนเสียงอ่อนไป ในริมคลองที่เป็นผักตบชวาที่มันเยอะๆ กลับมีผู้หญิงเปลือยลอยหงายอยู่ เหมือนมองมาทางเรา 

ขาเริ่มอ่อนเพราะคิดมันต้องไม่ใช่คนเป็นๆแน่ๆ เพียงชั่วระยะที่ไฟติด ประมาณอึดใจเดียวมันดับทั้งสะพาน โอ้ย ในใจคิดว่า กูเจอผี หรือเจอศพว่ะ กลั้นใจเดินต่อลงสะพาน ขาสั่นๆ ใจเต้นตุ๊บๆ ไม่กล้ามองข้างล่าง  พอเดินถึงข้างล่าง เจอน้องๆ ชายหญิงใส่กางเกงเลทั้งคู่เดินมาพอดี ก็รีบเดินไปในความมืด เข้าไปพูดด้วยเสียงสั่นกับน้องๆ ว่า "น้อง เมื่อกี้พี่ไม่รู้ว่า พี่เจอศพ หรือเจออะไรลอยในคลอง น้องไปดูกับพี่หน่อยซิ" น้องๆผู้ชายจับมือผู้หญิงที่จับแขนยืนข้างๆ แล้วพูดเสียงสั่น "อะไรนะพี่ ตรงไหนพี่" แต่น้องผู้หญิงท่าทางกลัวที่เห็นเราเสียงสั่น

เราก็นพากันเดินขึ้นไปกลางสะพานที่มืด ไฟเริ่มกระพริบพอเห็นสลัวบ้าง น้องสองคนจะเดินกลับหออยู่แล้ว ก็จำใจไปดูกับเรา "ไอ้เราก็ชี้ มือลงตรงบริเวณนี้ ที่เห็นผู้หญิงแก้ผ้าลอยมองหน้าเรา" น้องผู้ชายกล้าๆกลัวมองลงไป เห็นอะไรมืด น้องผู้หญิงพูดออกมา "ไม่เอา กลับหอเถอะ " น้องผู้ชายพูดกับผมว่าที่ไม่กล้ามองสักเท่าไร "พี่ผมว่า ผักตับชวามั๊ง ไม่เห็นอย่าอื่นเลย" เราก็อึ้ง สักพักไฟทั้งสะพานดับอีก
ทีนี้ก็ต่างคนต่างคนก็รีบเดินไปให้พ้นสะพานไปคนละทาง เพราะเริ่มตกใจกันแล้ว ไอ้เราก็เดิรแผ่เมตตาในใจยาวตลอดทางระยะเกือบกิโล ที่ไฟข้างทางสว่างและมืดเป็นช่วงๆ เดินผ่านไปในคณะวิศวะ ไปยังที่พัก 

พอเจอรุ่นน้องที่นอนอยู่ในห้อง เลยไปปลุกมัน "เฮ้ย เมื่อกี้พี่ไม่รู้เจอผีหรือเจอศพว่ะ เอ็งไปดูกับพี่หน่อย" น้องที่เป็นคริสต์ ที่ค่อนข้างง่วงนอนมาก มันก็ดูเวลา ตี1 มันก็ไม่กล้าไปด้วย ก็พูดว่า "พี่ เราแผ่เมตาให้เขาก็พอแล้ว อย่าไปดูเลย เดี๋ยวเขาตามมา" เราก็อยากรู้และกลัวด้วย ฟังมันพูดแล้วนอนลง แล้วมันก็นำแผ่เมตตา สัพเพ สัตตา ในก็คิดน้อง คนละศาสนาดันกลัวผี แผ่เมตตาเป็นซะอีก เฮ้อ

คืนนั้นนอนฝันเห็นคนลอยในน้ำตลอดคืน พอตีสี่กว่าๆไปอาบน้ำ ไฟที่พักก็ดับด้วย จุดเทียนอาบ อาบไปเสียวไป พอแต่งตัวเก็บสัมภาระนั่งมอเตอร์ไซด์ ก็คิดบอกว่าเมื่อคืนไม่รู้เจอผีหรือเจอศพ ขณะที่มอเตอร์วิ่งไปสะพานนั้น วินมอไซด์พูด ว่าไม่เคยมีคดีนะพี่ เดี๋ยวสายๆก็จะไปดูที่คลองให้พี่ก็ได้ ผมก็ขึ้นรถบริษัทไปทำงานที่ แกลง สายๆ รุ่น้องโทรมาเล่าด้วยความตื่นเต้น "พี่ๆ เขาเจอศพแล้วพี่ มอไซด์ไปเจอ" ค่อยสบายใจหน่อยว่าเขาแค่ขอความช่วยเหลือเท่านั้นเอง  ไม่ได้จะมาทำอะไรเรา ขอให้ไปสู่สุคติ  ไม่นานนักผมก้กับไปเดินผ่านสะพานนั้นอีกเป็นประจำในเวลากลางคืน คิดว่าลุงคนนั้นคงแต่งเรื่องมาหลอกขำๆ   แต่ที่ไหนได้คือมันมีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริงๆ !!!

ข่าวอ้างอิง...ขืนใจฆ่าสาวซีพีทิ้งน้ำทั้งเปลือย

โดย วัน อังคาร ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2548 08:46 น. ข่มขืนฆ่าสาวซีพีโยนศพทิ้งคลองก่อนเกยตื้นมาติดใต้สะพานข้ามคลองประเวศบุรีรมย์ พ่อแม่ทราบข่าวรุดมาดูเผยลูกสาวมีอาชีพแต่งหน้าเค้กในโรงงานทำเบเกอรี่ของซีพี ก่อนเกิดเหตุออกไปกดเงินเพื่อซื้อนมมาให้ลูกกลางดึกก่อนหายตัวไป ตร.สันนิษฐานคนร้ายลวงไปข่มขืนแล้วฆ่าก่อนโยนศพทิ้งคลอง

เมื่อเวลา 06.15 น. วันที่ 8 ส.ค. ร.ต.ต.ธีรพล กลอกระโทก ร้อยเวรสน.จรเข้น้อย รับแจ้งพบศพหญิงถูกฆ่าตายทิ้งศพใต้สะพานข้ามคลองประเวศบุรีรมย์ ถ.ฉลองกรุง แขวงลำประทิว เขตลาดกระบัง กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชา พร้อมด้วยพ.ต.อ.คมกฤช บัวบาน ผกก.สน.จรเข้น้อย พ.ต.ต.วิชัย สนสกุล สว.สส. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูรุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุภายในคลองพบศพหญิงในสภาพเปลือยกาย มีเพียงเสื้อชั้นในสีแดงคล้องติดที่แขนซ้าย หน่วยกู้ภัยลงไปช่วยกันนำศพขึ้นมาด้านบน ทราบภายหลังชื่อนางจันทิรา ช้างเจริญ หรือเปิ้ล อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 ม.10 แขวงลำประทิว เขตลาดกระบัง สภาพศพรอยถลอกตามลำตัว แขน และใบหน้า เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ก่อนมอบศพให้เจ้าหน้าที่นำส่งสถาบันนิติเวชวิทยา ชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต

ต่อมามีนางปทุม ช้างเจริญ อายุ 62 ปี และนายวิจารณ์ ช้างเจริญ อายุ 53 ปี บิดาและมารดาผู้ตาย เดินทางมาดูศพพร้อมกล่าวด้วยน้ำตาว่า บุตรสาวทำงานแต่งหน้าเค้กอยู่ที่โรงงานทำเบเกอรี่ซีพี ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง 3 ปัจจุบันอาศัยอยู่กับตนและลูกสาวคนเล็กที่เพิ่งเกิดได้ไม่นาน ส่วนลูกชายคนโตไปอยู่กับพ่อซึ่งแยกทางกัน

บิดาและมารดาผู้ตาย กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุเวลา 21.30 น. วันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ลูกสาวออกจากบ้านโดยบอกว่าจะไปกดเงินแล้วหาซื้อนมให้ลูกที่ตลาดคลองถม ย่านลาดกระบัง โดยลูกสาวแต่งกายสวมเสื้อคอกลมสีขาว กางเกงยีนส์ขาสั้น กระทั่งหายตัวไป และมาทราบจากเพื่อนบ้านมาแจ้งให้ตนทราบว่าลูกสาวเสียชีวิต

ด้าน พ.ต.อ.คมกฤช กล่าวว่า จากการตรวจที่เกิดเหตุรอบๆ บริเวณดังกล่าวไม่พบเสื้อผ้าผู้ตาย คาดว่าจะถูกคนร้ายลวงไปข่มขืนแล้วฆ่า ก่อนนำศพทิ้งลงคลองปล่อยให้ไหลมาเกยตื้นที่บริเวณสะพาน สั่งการฝ่ายสืบสวนออกหาข่าวและตรวจสอบตามธนาคารและตู้เอทีเอ็มต่างๆ ว่ามีการกดเงินไปหรือไม่ อีกทั้งได้ให้เร่งติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป .... 

เราเลยลองไปหาข่าวมาคือน่าสลดใจมากๆ ขอให้ดวงวิญญาณของพี่สาวคนนั้นไปสู่สุขคตินะค่ะ นี่เป็นประสบการณ์จริงๆ ไม่ได้มโนหรือแต่งเรื่องขึ้นมาแต่อย่างใด... ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อเราก็ไปบังคับความคิดใครไม่ได้หรอกเนอะ เพราะต่างคนต่างความคิด คิดเสียว่าอ่านสนุกๆล่ะกันนะเพื่อนๆ ใช้วิจารณญาณในการอ่านกันด้วยจ้า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ