ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กระเทยปะทะผี...ผีอยากโดนกระเทยเตะไม๊


สวัสดีเราเป็นกระเทยนะ เราอยากจะเล่าเรื่องลี้ลับให้เธออ่าน เราเคยเรียนที่ภูเก็ต เมื่อตอนนั้น เราเริ่มแต่งตัวเป็นหญิงแล้วล่ะ ืแต่เรายังไม่ได้แปลงเพศ เราไปเรียนพร้อมเพื่อนอีก2คนนะ แต่อยู่กันคนละคณะ และเพื่อนเราที่ไปด้วยกัน2คน ก็เป็นชาย

ตอนนั้นเราแต่งตัวเป็นหญิงแล้ว เราเลยไม่อยากอยู่ห้องเดียวกับเพื่อน2คน แต่พอตั้งใจจะอยู่คนเดียวหอพักมันจะเต็ม เพราะคนมาอยู่กันเยอะ เราก็เลยไปได้ห้อง อยู่ที่แห่งหนึ่ง แถวๆการประปา อยู่ติดป่าเลยตอนนั้นเราเองก็ยังไม่ได้สวยอะไร เลยไม่ได้กลัวมาก รูปลักษณ์เรา ใครเห็นก็รู้ว่าเราเป็นกระเทย
มันเป็นห้องพักที่เป็นห้องแถวติดๆกัน แล้วห้องของเราอยู่ท้ายสุด ติดกับป่าที่รกร้าง จริงๆสภาพมันไม่ค่อยน่าอยู่หรอก เพราะค่อนข้างเปลี่ยวในตอนกลางคืน และรู้สึกว่าไอ่2ห้องก่อนถึงห้องเรา จะไม่มีใครอยู่ ถูกล๊อคทิ้งเอาไว้เฉยๆ

เราเห็นว่าค่าเช่าถูกดีและเราไม่มีทางเลือกเยอะแยะ เราก็เลยตกลงเช่า เราขนของเข้าไปวันแรก ตกค่ำเราก็เหนื่อยเลย เพื่อนที่มาช่วยมันก็กลับไป

“เห้ย อยู่ได้แน่นะอีเทย คนเดียว เปลี่ยวชิหายแถวนี้”

“เออ กูอยู่ได้ สบายมาก ไม่พรือ ไม่เป็นไร”

“งั้นพวกกูกลับก่อน ก่อนนอนก็ไหว้พระเจ้าที่เจ้าทางมั่งนะ”

พอเพื่อนกลับแล้ว เรารู้สึกว่า เงียบจัง แลดูวังเวง เราก็ไม่ได้ละนะ ก็กลับความเงียบด้วยเสียงเพลง แล้วเราก็เต้นบริหารหุ่นไปด้วย เราก็เปิดเพลงดังใช้ได้ พอเต้นๆอยู่ก็

“ตึง ปั้ง !!!”

มันดังมาจากห้องข้างๆ ที่เราเห็นว่าปิดตายอยู่น่ะนะ เราก็คิดว่า เอ่ สงสัยเจ้าของห้องอาจจะกลับมาแล้วหรือเปล่า เราเลยเบาเสียงเพลงให้ จนเราง่วงนะ เราก็เลยปิดไฟนอนหลับ ตอนนั้นเราลืมไปเลยเรื่องไหว้พระหรืออะไร แล้วเตียงนอนเรา มันจะติดกับผนังห้อง ที่เชื่อมกับห้องข้างๆ พอเรานอนๆอยู่ หูแนบผนังใช่มะ ก็มีเสียงดัง

“ครืดดดดดด ครืดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดด”

มันเหมือนมีใครเอาอะไรขูดกับผนังห้องอีกด้านอ่ะ จนเราตื่น เราก็หงุดหงิดอยู่นะ ก็เลยกลิ้งเอาหูหนีออกมานอนอีกฝั่งของเตียง เราไม่รู้เหมือนกันตอนนี้มันตีเท่าไหร่ แต่เหลือบไปเห็นตรงหน้าต่างอีกด้านของห้องเรา ด้านที่ติดกับป่านั่นล่ะเพราะเราเป็นห้องสุดท้ายไง เลยมีหน้าต่าง ติดบานเกล็ด1บาน เราก็เปิดระบายอากาศไว้ มันมีตาข่ายลวด

“เห้ย yesแหม่”

เราก็นอนมองนิ่งๆ ในความมืดเนาะ แบบตัวเกร็งไปหมดละ เพราะหน้าใครก็ไม่รู้ แนบอยู่กับบานเกล็ดน่ะ แบบมันมืด แต่ทำไมเห็นเหมือนหน้าคนนั้นติดไฟไว้กับหน้าก็ไม่รู้ เป็นหน้าคนขาวๆยังกับทาแป้งเลยนะ มองเรามา เราก็เลยจ้องกลับ แต่ไม่ขยับ แล้วเราก็ค่อยๆมุดผ้าห่มไปเลย ทีนี้เราก็นอนต่อได้จนถึงเช้า เราก็ไปเรียน เดินผ่านห้องข้างๆ ก็ประตูโดนล๊อคอยู่ เราก็คิดสงสัยนะว่า เจ้าของห้องเขาทำงานอะไร ออกเช้าดีจัง แต่เราก็เลิกสนใจ เพราะทั้งวันนั้นเราต้องตั้งใจกับการเรียนมหาลัยวันแรก แล้วเราก้ไปต่อกับเพื่อนจน4ทุ่ม เพื่อนก็พากันขับรถมาส่งที่หน้าปากทางเข้า

เราก็ขับรถเราเข้าไปคนเดียว มาจอดรถหน้าห้อง เราก็เห็นว่าห้องข้างๆ2ห้องก่อนถึงห้องเรา โดนล๊อคเหมือนเดิม เราก็อาบน้ำแล้วเข้านอนเลย พักเดียวพอเคลิ้มๆ มาอีกแล้ว แต่หนนี้ ไม่ต้องเอาหูแนบแล้วก็ได้ยิน ว่ามันดังมาจากห้องข้างๆ

“ครืดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดด แบบเนี้ยะ เสียงเหมือนใครลากขาเก้าอี้”

ทีนี้เราหงุดหงิดเลยเพราะลากๆหยุดๆ เราก็ไม่อยากมีปัญหาไงเพราะเราพึ่งมาอยู่ใหม่ แต่ทีนี้มันดังแบบนี้ทุกคืนเลย จนคืนนึงเราทนไม่ได้ละ เราก็เปิดประตูห้องออกไปกลางดึก
จะไปเฉ่งไอ้ห้องข้างๆละ แต่ก็นะ

“อ้าว เห้ย ไม่เหมือนที่คิดเอาไว้นี่หน่า” ประตูห้องล๊อคจากข้างนอก ทั้งๆที่ก็นะ เราได้ยินเสียงลาก ครืดๆ อยู่เมื่อกี้เอง เอาแล้วไงทีนี้ เอาไง เราก็เลยเคาะประตูห้องแล้วตะโกนถามเลย

“มีใครอยู่ไม๊คะ ในห้องนี้”

เงียบ..ไม่มีเสียงตอบรับ

“ใครอยู่ในห้องอย่าลากของได้ไม๊คะ เรานอนไม่หลับเด้”

เงียบ…..

เราก็กลับไปนอนต่อ พอเคลิ้มๆ มาอีกแล้ว

ครืดดดด……ครืดดดดดดดดดดดดดดด….ครืดดดดดดดดดดด

เราก็ปรี๊ดแตกแล้วไง ออกไปได้ก็โชว์บทกระเทยโหดเลย โดดเอาเท้าถีบประตู

“ลากหาพ่อหาแม่เหรอ ตามใจจะเป็นผีหรือเป็นคนและ แน่จริงเดินทะลุประตูออกมาตบกับกุมา ผีเหิ้ย”
เราลั่นฉาวๆๆ จนห้องแรกๆที่มีคนอยู่ เขาคงตกใจ พากันเปิดประตูออกมาตะโกนถามเรา

“อ้าวๆๆ อีสาว เป็นอะไรละนั่น”

“ก็มันลากของกับพื้น ครืดๆๆๆทั้งคืน ไม่ได้หลับได้นอนแล้วพี่ ใครมันอยู่ในนี้อ่ะ”

“ห๊าะ อะไรนะ”

เขาก็มีทีท่าตกใจกันหมด แล้วคนนึง เค้าก็มาลากเราไปหน้าห้องเขา แล้วบอกเราว่า ไอ้2ห้องนั้นน่ะ มันไม่มีใครอยู่มาตั้งนานแล้ว มันไม่มีใครอยู่ได้เลย เพราะเคยมี หญิงคนนึง หนุ่มคนนึง มาเช่าห้องนั้นติดกัน ทั้งคู่ไม่รู้จักกัน แต่ต่อมา คนโสด กับคนโสด พอเจอหน้ากันทุกวันเข้า ก็เลยได้รักกัน จนได้เป็นผัวเมียกัน
จนผู้หญิงคนที่เช่าห้องที่อยู่ติดห้องเราเนี่ยท้อง พอท้อง ผู้ชายก็หนีไปมีเมียใหม่ ทิ้งผู้หญิงคนนั้นไว้คนเดียว เธอก็เลยเอาเก้าอี้ มาผูกคอตายที่กลางห้องกับขื่อ กว่าจะมีคนไปเจอก็เพราะมีกลิ่นเน่าเหม็นลอยออกมา ตายทั้งกลมด้วย

เจ้าของก็ปิดข่าว พอตอนหลังมีคนมาเช่าห้องทั้ง3ห้องนั้น รวมห้องเราด้วย ก็อยู่กันไม่ได้สักคน ยิ่งคนที่เช่าห้องที่ผู้หญิงคนนั้นผูกคอน่ะ โดนหนักกว่าพวกเช่าห้องข้าง เพราะตกดึก อีผีก็มาผูกคอห้อยโตงเตงให้คนเช่า ร้องกรี๊ดดดดดด วิ่งหนีกลางดึกก็มีมาแล้ว เอาพระมาเชิญมาไล่ก็ไม่ไป เราก็กลัวแต่ง่วงมาก แล้วดึกขนาดนั้นเราจะไปนอนไหนได้ เราก็เลยเดินกลับห้อง พอเดินผ่านหน้าห้องนั้น เราก็ยันโครมไปอีกที

“ต่างคนต่างอยู่ดิ YESแหม่ ผีอยากโดนกระเทยเตะไม๊”

แล้วเราก็เดินกลับเข้าไปนอนเลย หลังจากนั้นเราก็โดนหลอกน้อยลงนะ เวลามีเสียงดังมาเราก็ตวาดใส่เลย ด่ามันด้วย แต่ตอนหลังเราก็ย้ายไปอยู่หอ เพราะทนไม่ไหว จะทนไหวได้ไง ก็นางเล่นโผล่หัวออกมาจากผนังห้องหลอกเราบ่อยๆ แรกๆเราก็กลัวปนตกใจ ว่าหัวคนโผล่มาจากผนังห้อง

หลังๆมา เราโดดถอยมาตั้งหลักแล้วก็

“หื๊มๆๆๆ มืงจะเอากับกูใช่ไม๊ มืงรู้จักส้นตินกระเทยไทยน้อยไปแล้ว”

เราก็พุ่งเข้าหาเหวี่ยงบาทา ตั้งใจจะเตะให้หัวกระเด็นไปที แต่ก็วืดทุกครั้ง เพราะนางหดหัวกลับ แล้วทำแบบนี้บ่อยมาก ถ้าไม่เสียงก็ยืดมาแต่หัวนี่ล่ะ บางคืนก็เอากลิ่นเหม็นมาแกล้ง เราเลยย้ายไปอยู่หอ ไม่ได้กลัวนะ แต่รำคาญ ไม่ได้นอนดี ทุกวันนี้ ไม่รู้ยังอยู่หรือเปล่า ไม่ได้กลับไปดู


จบๆๆค่ะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ