ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา


เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย

เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง

พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่องใช้ หรือบางคนแต่งตัวเตรียมออกไปเที่ยวหน้ามอ แต่วันนั้นทุกอย่างดูเงียบตั้งแต่ช่วงใกล้ 2 ทุ่ม ทุกคนกลับเข้าหอกันเร็วมากและทุกห้องต่างพากันปิดประตูหลังห้อง

พอถึง 3 ทุ่มเราเปิดประตูหลังห้องออกมาแล้วพูดกับเมทเราว่า “วันนี้ไม่มีคนอยู่หน้าหอเลย ปิดหลังห้องกันหมดด้วย” เมทเราก็บอกว่า “ใครจะกล้าออกไปไหนวันนี้ อย่าว่าแต่ปิดหลังห้องเลย แต่ละห้องต่างเก็บผ้ากันเรียบไม่เหลือทิ้งไว้” (หลังห้องของหอเราจะเป็นอ่างล้างจานและที่ตากผ้า) หลังจากนั้นเราก็ปิดประตูห้อง เรานอนเล่นมือถืออยู่ซักพัก เราก็เริ่มง่วงและปวดตาจากแสงหน้าจอมือถือด้วยเลยบอกเมทว่าจะนอนแล้ว เราน่าจะหลับช่วง  5 ทุ่ม ซึ่งปกติเราจะเข้านอนเร็วเพราะเป็นคนหลับยากมากกกกกก
แต่วันนั้นพอวางมือถือปุ๊บก็หลับเลย พอตอนเช้าเรามีเรียนตอน 9 โมง แต่เมทเราเรียน 8 โมง เลยเข้าไปอาบน้ำก่อน พอเมทอาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัว แล้วระหว่างนั้น ก็บอกเราว่า “ต่อไปนี้เปิดไฟนอนได้มั้ย แล้วก็ไม่เอาผ้าม่านตรงหลังห้องขึ้นนะ” เราเลยบอกว่าถ้าไม่ปิดไฟเราจะนอนไม่หลับ “มีอะไรรึป่าว?”

หลังจากที่เราถามแบบนั้นออกไปเมทเราก็เล่าให้ฟังว่า..เมื่อคืนตอนเกือบๆ ตี 2 กำลังเล่นไอแพดอยู่ ก็แชทกับแฟนตามปกติ แต่สายตาเหลือบไปเห็นอะไรขาวๆ ตรงหน้าต่างหลังห้อง ก็เลยวางไอแพดแล้วหันไปดูเต็มๆ เห็นเป็นหน้าคนขาวๆ ตรงบริเวณหน้าต่าง แบบหัวตั้งตรงขอบล่างของหน้าต่าง เราก็เลยบอกไปว่า “คิดมากไปรึเปล่า เพราะห้องเราอยู่ตรงชั้น 1 อาจจะมีคนปีนมาแกล้งก็ได้” เมทเราตอบกลับว่า “จะเป็นไปได้ไง ตรงหน้าต่างเป็นอ่างล่างจานนะจะมีใครปีนขึ้นไปตรงอ่างได้ เพราะตรงนั้นมีถ้วยจาน ช้อนส้อม ถ้าเป็นคนก็ต้องมีเสียงสิ” หลังจากที่เห็นว่าเป็นหน้าคนแล้วก็เลยขยี้ตาหลายๆ ครั้ง แล้วก็มองอีกทีก็ยังเห็นอยู่ เป็นหน้าที่นิ่งๆ มองมาที่เมทเรานิ่งๆ เมทเราบอกว่า

“ตะโกนเรียกเราตั้งหลายครั้งเราก็ไม่ตื่น”ไม่รู้จะทำยังไง หันกลับไปมองก็ยังเจออยู่ แต่คราวนี้ ใบหน้านั้นก็ค่อยๆ ลอยห่างออกไปจากหน้าต่าง พอแน่ใจแล้วว่าใบหน้านั้นหายไปเมทเรารีบลุกไปดึงม่านลงและปิดไฟคลุมโปงนอนทันที

เรื่องเล่าจาก สมาชิกหมายเลข 2431055 เว็บไซต์ pantip.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...