ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เจอกันทั้งชั้น เมื่อไม่ได้กลับห้องมานาน จึงรู้สึกว่าทั้งชั้นแปลกไป


เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา สถานที่เกิดเหตุคืออพาร์ทเม้นแห่งหนึ่ง คุณเอกได้อาศัยอยู่ที่อพาร์ทเม้นแห่งนี้...เนื่องจากถูก บ.ส่งมาทำงานที่ประเทศฮ่องกงเป็นเวลา 2 ปี อพาร์ทเม้นที่คุณเอกอาศัยนั้นตัวตึกใหญ่พอสมควร แต่ว่าห้องพักแต่ละห้องถูกซอยออกเป็นห้องเล็กๆ เวลาเปิดประตูหน้าห้องออกไปจะเป็นโถงระเบียงทางเดินซึ่งยาวทอดไปถึงลิฟท์ โถงทางเดินนี้จะผ่านทุกห้องบนชั้นนั้น ช่วงที่คุณเอกย้ายมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ ทุกอย่างก็ปกติดี

เวลาล่วงเลยไปกว่า 2 เดือนคุณเอกถูก บ.เรียกตัวกลับไปที่เมืองไทยอยู่ประมาณ 5 วันแล้วก็ต้องกลับมาใหม่ ...เรื่องราวทั้งหมดก็เกิดขึ้นหลังจากที่กลับมาอยู่รอบที่ 2 นี้ วันนั้นหลังจากเอกเดินทางจาก กทม มาถึงฮ่องกงเป็นเวลาช่วงบ่ายแล้ว วันนั้นเอกรู้สึกเพลียมากๆ พอเดินทางมาถึงที่พักก็หลับเป็นตายในทันที คืนนั้นเอกต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ ระหว่าที่เดินกลับมาจากห้องน้ำก็ได้ยินเสียงเหมือนมีใครกำลังวิ่งอยู่ที่โถงทางเดินนอกห้อง เอกก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก คิดว่าอาจจะเป็นพวกวัยรุ่นวิ่งเล่นกันหลังจากกลับมาจากเที่ยว จึงตัดสินใจเดินกลับไปนอนต่อ แต่ระหว่างที่กำลังเคลิ้มยังไม่หลับดี
เอกยังได้ยินเสียงวิ่งบนโถงทางเดินอยู่ตลอดเวลา วิ่งแบบกลับไปกลับมา พอนอนฟังนานๆเข้าเริ่มจะหงุดหงิด แต่เนื่องจากความเพลียมีมากกว่าจึงผลอยหลับไป

ตื่นมาตอนเช้าวันนั้นเป็นวันหยุด เอกก็เลยเดินจากอพาร์ทเม้นตัวเองออกไปซื้อของเข้าบ้าน หลังจากกลับเข้ามาเป็นเวลาทุ่มเศษๆ เอกเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติในอพาร์ทเม้นชั้นที่เขาอาศัยอยู่ นั่นคือมันเงียบ เงียบมากกว่าทุกครั้ง...อย่างน้อยก็เงียบมากกว่าตอนที่เอกจะกลับไปเมืองไทยแล้วกลับมาใหม่ เอกเริ่มสังเกตได้ว่าชั้นที่เขาพักอาศัยอยู่นั้น หลายๆห้องไม่ได้เปิดไฟ ก็เริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หลังจากเก็บของในห้องแล้วก็เลยเดินลงมาชั้นล่างมองหา รปภ. ที่คุ้นเคยกันดี

เพื่อจะสอบถามว่าคนเก่าๆที่อาศัยอยู่ในชั้นเดียวกันหายไปไหนกันหมด แต่ก็ไม่เจอ รปภ.ที่เจอเป็นคนใหม่ เอกลองถามอะไรดูก็ตอบอย่างเดียวว่าไม่รู้เรื่อง จึงพยายามไม่ใส่ใจ เข้านอน เพราะวันรุ่งขึ้นจะต้องไปทำงานแต่เช้า คืนนั้นระหว่างที่เอกกำลังหลับอยู่ก็ได้ยินเสียงเดิม เสียงเหมือนมีใครสักคนกำลังวิ่งอยู่บนโถงทางเดินหน้าห้อง เป็นเสียงแบบคืนแรกที่เอกได้ยินเลย วิ่งกลับไปกลับมา เอกลองมองไปที่นาฬิกาเวลาขณะนั้นประมาณตี 1 เศษๆ เสียงคนที่วิ่งไปมานั้นยังคงดังอยู่ วิ่งกลับไปกลับมา เหมือนกับว่าวิ่งไปจนสุดทางตึกฝั่งนึงแล้ววิ่งกลับมาสู่ตึกอีกฝั่งนึง

ด้วยความสงสัยตั้งแต่เมื่อคืนเอกจึงลองนอนฟังดูดีๆ เสียงนั้นวิ่งกลับไปกลับมาจริงๆ  จึงตัดสินใจเดินเอาตาไปแนบกับช่องตาแมวที่ประตู ระหว่างที่มองดูอยู่นั้นเสียงฝ่าเท้า 2 เท้าที่วิ่งอยู่นั้น ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
แต่จังหวะที่กำลังจะผ่านช่องมองตาแมวนั้นเสียงวิ่งเข้ามาใกล้จนกระทั่งผ่านไป แต่สิ่งที่เอกมองเห็นคือความว่างเปล่าเท่านั้น ครั้งนี้เอกเริ่มรู้สึกแล้วว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเหตุการณ์ที่ผิดปกติแน่นอน เพราะว่าเสียงวิ่งที่กำลังห่างห้องเอกออกไปนั้นไม่มีตัวตน เอกจึงตัดสินใจว่าถ้าเสียงนั้นจะวิ่งกลับมาอีกเขาจะเปิดประตูออกไปดู ในระหว่างที่ยืนรออยู่หน้าประตูเพื่อจะฟังว่าเสียงที่วิ่งไปสุดตึกนั้นจะวิ่งกลับมามั้ย และแล้วเสียงนั้นก็วกกลับมา

เพียงแต่ว่ามันอยู่ห่างจากห้องของเอกพอสมควร เอกจึงตัดสินใจค่อยๆแง้มประตูออกไปดู หันไปทางซ้ายซึ่งจะเป็นเสียงที่วิ่งกลับมาพอดี โถงทางเดินของอพาร์ทเม้นนี้ก็ไม่กว้าง เพียง 2 ม. นิดๆเท่านั้นเอง เอกมองฝ่าความมืดไปที่เสียงที่กำลังดังใกล้เข้ามา เขาเริ่มเห็นเป็นเงาลางๆ เป็นเงาของผู้ชายคนหนึ่งกำลังวิ่งเข้ามา ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่ว่าหลังจากที่เอกเห็นครั้งแรกก็ถึงกับขาแข็ง พูดไม่ออก เพราะร่างที่กำลังวิ่งมาใกล้ห้องของเอกนั้นลักษณะเป็นผู้ชายชาวจีน วิ่งในลักษณะมือซ้ายแกว่งไปตามร่างกายที่วิ่ง
แต่มือขวาชูอยู่เหนือศรีษะ ถืออะไรอยู่สักอย่าง และพอใกล้เข้ามาระยะไม่ถึงสัก 10 ม. เอกก็เห็นถนัดตา สิ่งที่ชายคนนั้นกำลังถืออยู่ ก็คือเชือกที่รัดคอตัวเองลักษณะเหมือนกันคนที่ตายมานานแล้วหลายวันเนื่องจากลิ้นจุกปาก ตาถลนออกมา

ชายคนนั้นสวมกางเกงชั้นในแค่ตัวเดียว มีเชือกพันอยู่ที่คอ มือขวาจับเชือกชูขึ้น แล้ววิ่งผ่านหน้าเอกไป
เอกค่อยๆงับประตูลงอย่างเบาที่สุด ตอนนี้เอกเข้าใจแล้วว่าทำไมคนที่อาศัยอยู่ชั้นเดียวกันกับเขาถึงหายไปหลายห้อง

คืนนั้นเอกล็อกประตูอย่างแน่นหนา แล้วก็นั่งๆนอนฟังเสียงที่ชายคนนั้นวิ่งอยู่หน้าห้องโถงกลับไปกลับมาทั้งคืน พอฟ้าเริ่มสว่างเอกก็รีบเปิดประตูห้องลงไปถามความจริงกับคนด้านล่าง คำตอบที่ได้รับคือ ช่วงที่เอกกลับมาทำงานที่ กทม ได้ไม่กี่วัน คนบนชั้นนั้นมีชายคนหนึ่งฆ่าตัวตายอยู่ในห้อง เนื่องจากทะเลาะกับภรรยา และภรรยาของเขาพาลูกหนีออกไป จึงคิดสั้นฆ่าตัวตาย...

ขอบคุณ คุณเอก THE SHOCK

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...