ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ตุลาคม, 2017

แม่ชีหัวขาด

ที่ตึกนอนนักเรียนหญิงกำลังเตรียมตัวนอน บ้างจัดเตียง บ้างพักผ่อนเล็กๆ น้อยๆ อ๋อมซึ่งเพิ่งย้ายมาจากที่อื่นได้ไม่กี่วันนั่งคุยกับต้นข้าวเกี่ยวกับ เรื่องน่ากลัวบางอย่างที่นี่  "บ้าดิ ไม่มีจริงหรอกแม่ชีหัวขาด" อ๋อมว่า "มีแต่ในหนังผีแค่นั้นแหละ"  "แต่ ว่า" ต้นข้าวพูดพลางมองไปรอบๆ ตัวหวาดๆ "รุ่นพี่ที่เล่าให้ฉันฟังมา เขายืนยันเลยนะว่าเคยมีคนเห็นซิสเตอร์หัวขาดจริงๆ แล้วแถมยังฆ่าคนตายมาหลายคนแล้วด้วย"  อ๋อมส่ายหน้า "ไม่เข้าใจเลยว่าทำไม โรงเรียนเราเป็นโรงเรียนศาสนาแท้ๆ ดันมางมงายเรื่องผีแบบนี้ แล้วยิ่งถ้าเป็นผีซิสเตอร์จริงล่ะก็ ทำไมต้องออกมาอาละวาดฆ่านักเรียนด้วยล่ะ ซิสเตอร์มีแต่จะคอยช่วยเหลือปกป้องนักเรียนมาก กว่านะ" "เธออ่ะ ไม่รู้อะไร" ต้นข้าวพูดต่อ "ซิสเตอร์คนที่ตายน่ะ เป็นชีลับนะ ไม่เคยออกมายุ่งกับใครหรอก ไม่ว่าจะเป็นคนภายนอก นักเรียน หรือแม้แต่ซิสเตอร์ด้วยกันเอง"  "ชีลับ ที่หมายถึงเจ้าสาวของพระเจ้าใช่ไหม" อ๋อมทำท่าคิดตาม "ถ้าเป็นชีลับก็ต้องสวดภาวนาอยู่แต่ในอารามสิ ยิ่งไม่น่าจะมาเป็นผีอาละวาดใหญ่เล

"ศิษย์อาจารย์ใหญ่" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากวิญญาณผู้ห่วงใย

ดิฉันมีอาชีพรับราชการ เป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออก งานในหน้าที่ที่รับผิดชอบดูแลประจำ คืองานสอนวิชากายวิภาคศาสตร์ ทั้งในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ วิชานี้ว่าด้วยการศึกษาร่างกายของมนุษย์ทุกๆ ระบบในร่างกาย โดยภาคปฏิบัติได้เรียนกับผู้อุทิศร่างกายที่เราเรียกว่า "อาจารย์ใหญ่" พวกเราทุกคนที่ทำงานด้านนี้ด้วยความรักและศรัทธาต่อวิชาชีพ และเคารพนับถือต่ออาจารย์ใหญ่ทุกๆ ท่านที่ได้ร่วมบริจาคร่างกายให้เป็นวิทยาทานต่อลูกหลานผู้ศึกษาทางด้านการแพทย์ของไทยทุกๆ คน โดยธรรมชาติแล้วไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า กลัวกับสิ่งที่ไม่เห็นมากกว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้า! สำหรับดิฉันไม่ลบหลู่หรือท้าทายใดๆ ศรัทธาเท่านั้นที่ทำให้ดิฉันยังปฏิบัติหน้าที่อย่างมีความสุขที่ได้ทำมาจนทุกวันนี้ ถึงแม้ความเสี่ยงที่ได้รับจากการที่ต้องอยู่ในห้องเรียนจะมีผลต่อสุขภาพของผู้สอนเช่นดิฉัน มากกว่านักศึกษาเสียอีกค่ะ ในแต่ละปี ดิฉันจะได้ข่าวการเสียชีวิตของผู้ที่ร่วมอุดมการณ์ สอนในวิชาเดียวกันเสียชีวิตจากการเป็นโรคมะเร็งเกือบทุกๆ ปี ดิฉันเองก็คงไม่พ้นเหมือนกัน! ตึกเรียนที่ดิฉันทำงานเป็นอาคารอายุสิบปีเศษ ห้องเรียนปฏิบ

ประสบการณ์ขนหัวลุกจากโรงงานที่ปากน้ำ

"ลูกพ่อขุน" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากโรงงานที่ปากน้ำ...ผมทำงานเกี่ยวกับการออกแบบให้กับโรงงานแห่งหนึ่งแถวสมุทรปราการ ห้องทำงานของผมอยู่ด้านในสุดของตัวตึก 3 ชั้น ซึ่งยาวเหยียดเหมือนอาคารโรงเรียน แถมห้องนี้ก็อยู่บนชั้น 3 อีกด้วย หลายคนอาจเห็นว่ามันน่ากลัวจนขนหัวลุก แต่ผมชอบเพราะว่ามันสวยดี ตอนค่ำ ทุกคนจะกลับบ้านหมด เหลือแค่ยามกับภารโรง ไฟฟ้าบนตัวตึกก็เปิดอยู่ตรงระเบียงไม่กี่ดวง มันเป็นช่วงเวลาที่หัวคิดผมมักจะแล่น ดังนั้น ผมจึงมักอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เพียงลำพังบนตึกอันเวิ้งว้าง ห้องผมกว้างขวางไม่ใช่ย่อย เพราะไม่ได้มีแค่ผมคนเดียวนี่ครับ เรานั่งทำงานกันหลายโต๊ะ ตอนกลางคืนก็ดับไฟบางส่วน เปิดสว่างแต่ตรงที่ผมนั่ง...เคยมีคนถามว่าไม่กลัวเรอะ? กลัวอะไรล่ะ? ถ้าเขาหมายถึงผีละก็ผมหัวเราะเลย โธ่! ก็ไม่เชื่อว่าผีมีจริงซะอย่าง แล้วจะต้องกลัวผีไปทำไม? ความลำบากลำบนของที่นี่มีอยู่ประการเดียว คือเวลาจะเข้าห้องน้ำต้องเดินไปไกลตามระเบียงยาว ไปลงบันไดทางสุดตึกโน่น เพื่อเข้าห้องน้ำรวมที่ชั้น 2 ทำไมไม่สร้างที่ชั้น 3 ด้วยก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ส่วนมากผมขี้เกียจ ถ้าต้องมาเข้าห้องน้ำผมก็จะรวบรวมข้าวข

เรื่องเล่า..จากทางหลวง (สายเอเซีย ชะอวด-พัทลุง-หาดใหญ่) PANTIP

เมื่อช่วงเดือนสิบที่ผ่านมา  ดิฉันกลับบ้านที่พัทลุง  ตามประเพณีปฏิบัติของลูกหลานชาวใต้  เพื่อไปทำบุญส่งตา-ยาย ที่บ้าน  สำหรับคนใต้  ในช่วงสารทเดือน10นั้น  ก็เหมือนวันพบญาติกลายๆ   พอเจอกัน  ได้รวมญาติกัน  ก็มีเรื่องราวให้ต้องคุยกันมากมาย   และก็รวมถึงเรื่องผีสางด้วย   เพราะเรื่องส่งตา-ยาย ก็เกี่ยวกับผีสาง  เลยไม่แคล้วที่จะวกไปคุยเรื่องนั้นกัน  ส่วนตัวของดิฉันเองนั้น   ญาติๆรู้อยู่แล้วว่าดิฉันสัมผัสอะไรแบบนั้นได้  เขาเลยไม่ค่อยมาเซ้าซี้ถามเรื่องผีกับดิฉันมากนัก  การเล่าในครั้งนั้น  ที่ญาติๆดิฉันสนใจ  เป็นการเล่าให้ฟังจากลูกพี่ลูกน้องของดิฉัน  คือ พี่จิน  พี่แกไม่ได้เป็นคนมีสัมผัสอะไรหรอก   ออกจะแนวๆไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้มาแต่เดิมด้วยซ้ำ  แต่หลังๆ แกก็เหมือนแบ่งรับแบ่งสู้ว่ามันมีจริงๆ เพราะพี่จินแกเจอมากับตัว   พี่จินแกก็นั่งเล่าให้ฟังไม่ยาวมาก  แต่ละเรื่องก็สั้นๆนะ  แต่ก็ทำแกมึนตึ้บจนบัดนี้ ว่าที่แกเจอถ้าไม่ใช่ผีแล้วคืออะไร พี่จิน บ้านแกอยู่ชะอวด  จ.นครศรีธรรมราช   เอาจริงๆก็ไม่ไกลจากบ้านดิฉันเท่าไหร่  เพราะแค่ข้ามคลองไป ก็เป็นดินแดนนครแล้ว   พี่จินอายุเกือบๆ30  แกทำงานอยู่ที่โรงงาน

ประสบการณ์หลอน พระวัดป่า - PANTIP

วันนี้ขออนุญาติยืมล็อกอิน มาเล่าเรื่องหลอน...จขกท.ได้มีโอกาสเข้าไปช่วยงานในสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง  ตกช่วงบ่าย 3 พระที่ท่านอยู่ก็จะมารวมกันทำกิจคือกวาดตาด (กวาดลานวัด) หลังจากนั้นก็จะรวมตัวกันฉันน้ำปานะ พอดีมีพระบวชใหม่ อยากฟังประสบการณ์หลอนจากพระรุ่นพี่ มีพระอาจารย์อยู่ท่านหนึ่ง ท่านเลยเล่าประสบการณ์ตอนไปบำเพ็ญที่วัดป่า..... เขต จ.กาฬสินธ์  เมื่อหลายปีก่อน จขกท. เคยติดตามพระ ไปเที่ยวดูหนหนึ่ง แต่ไม่ได้ค้างคืน เพราะสภาพพื้นที่ไม่ค่อยน่าภิรมย์ คือขนาดกลางวันนี่ ยังวังเวง ที่นี่แล้วสภาพภูมิศาสตร์ เป็นป่ายาง และ ตะเคียนขนาดใหญ่ 200 กว่าไร่ ตะเคียนมีหลายร้อยต้นแต่ละต้น 2 คนโอบ มีหมู่บ้านล้อมรอบห่างออกไป เวลาบิณฑบาตร ต้องเดินลัดทุ่งนาไปหมู่บ้าน 3 - 4 ก.ม. ภายในวัดแห่งนี้ ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง ต้องพึ่งเทียนกับไฟฉายเป็นหลัก  ตามปกติในภาคอีสานจะมี เขตป่าช้าสำหรับฝังศพใหม่ๆ คือฝังไว้ก่อนเผาทีหลัง หรือบางศพก็เก็บกันแบบข้ามปี แทบทุกชุมชน ที่นี่ก็เช่นกัน เป็นทั้งวัด เป็นทั้งป่าช้า และที่พิเศษยิ่งกว่านั้น  คือ เป็นป่าผีตายโหง คือ ตามประวัติจากคำบอกเล่าของชาวบ้าน  สมัยก่อน ป่าครึ้มแห่งนี้ มีหมู่บ้านอย

เรื่องจากรายการตีสิบ ที่กลุ่มนักศึกษาได้ไปเจอดีที่ภูกระดึง

เรื่องจากรายการตีสิบ ประสบการณ์ลี้ลับ ที่กลุ่มนักศึกษา(มหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ)ได้ไปเจอมาที่ภูกระดึง เรื่องเกิดขึ้นจากการที่พวกเขานัด กันไป ท่องเที่ยว พักแรม ที่ภูกระดึง (ตอนก่อนเดินทางไปเที่ยว คุณยายของรุ่นพี่ในกลุ่มท่านก็ได้เตือนให้ไหว้ เจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่า เจ้าเขา ตามประสาผู้ใหญ่ที่เป็นห่วงหลาน) แต่พอมาถึงตอนเช้าที่ภูกระดึงเขาก็ไม่ได้นึกถึงพวกเขาไปกันทั้งหมด 10 คน และไม่เคยมีใครมาเที่ยวภูกระดึงมาก่อนเลย หนึ่งในนั้นชื่อ บอยเป็นคนไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องอาถรรพ์และเป็นคนโผงผาง พูดจาไม่ค่อยดีนัก ตามสไตล์วัยรุ่นห่ามๆ (มาก) ทั่วไป หยาบคายบ้าง ท้าทายบ้าง เพื่อนๆห้ามก็เหมือนยิ่งยุ (เพื่อนๆบอกว่าเขาพูดหยาบมากๆ จนไม่สามารถพูดออกอากาศได้) ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวบนภูกระดึงวันแรก (บอย ก็พูดจาแบบคะนองปากไปเรื่อยๆ) แล้วกลุ่มของพวกเขาก็หลงป่า (เข้าใจว่าช่วงเที่ยวกลุ่มน้ำตก) หาทางออกไม่เจอเป็นเวลานาน พี่ใหญ่ของกลุ่มเริ่มไม่สบายใจ(คนเดียวกับที่ยายบอกให้ไหว้เจ้าที่) จึงไปยกมือไหว้ต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณนั้นด้วยความเข้าใจเองว่าจะต้องขอขมาเจ้าที่เจ้าทางและหลังจากที่ขอขมาแล้วเดินต่อซักพักเขาก็เห

คนถามทาง-คุณโอภากร

เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณโอภากรครับ คุณโอภากรเล่าว่า.. เกือบจะครบ 4 ปี ที่ผ่านเหตุการณ์นั้นมา แต่เรื่องในวันนั้นไม่เคยเลือนลางไปจากใจผม และครอบครัวเลย.. วันนั้นเป็นวันที่ครอบครัวผมจะกลับบ้านที่จังหวัดน่านครับ ไปกัน 4 คน มีพ่อ แม่ ผม และลูกชายของผม เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลาประมาณ 5 โมงเย็น เพื่อจะได้ไปถึงน่านตอนรุ่งเช้าพอดีครับ.. ผมเป็นคนขับครับ ก็ขับรถเดินทางไปตามปกติ จนเข้าสู่จังหวัดพิษณุโลก ก็ได้แวะปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งเพื่อเติมน้ำมัน และพักรถด้วย หลังจากเติมน้ำมัน และเข้าห้องน้ำกันเรียบร้อย ผมก็ไปจอดรถอยู่ตรงหน้าร้านสะดวกซื้อ เราทั้งหมดก็นั่งพักกันที่โต๊ะหินอ่อนข้างๆ รถ คุยกัน กินขนมกันไป.. ระหว่างนั้นก็มีสามีภรรยาคู่หนึ่งเข้ามาทัก เพื่อจะถามเส้นทางไปน่าน เดาว่าคงเห็นรถเราเป็นป้ายทะเบียนน่านน่ะครับ สามีภรรยาคู่นี้เขาบอกว่าเป็นคนน่านเหมือนกัน เพิ่งจะซื้อรถใหม่ป้ายแดงได้อาทิตย์เดียว กำลังจะกลับไปรับลูกสาวที่บ้านเพราะเป็นช่วงปิดเทอม ขับรถก็ไม่ค่อยจะแข็ง และถึงแม้ว่าจะเคยโดยสารรถบัสเดินทางไป-กลับกรุงเทพฯ บ่อยๆ แต่ก็หลับบนรถตลอด พอต้องมาขับเองก็เลยไม่ชินเส้นทาง.. ผมเลยบอกพวกเขาไปว่

ห้องสามสองศูนย์ - คุณผึ้ง

เริ่องราวเกิดขึ้นที่หอพักแห่งนึง เมื่อประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา คุณผึ้งมีเหตุให้ต้องย้ายห้องด่วน แล้วไปเจออพาร์ทเม้นแห่งหนึ่งมีห้องว่าง แถวบางพลี สมุทรปราการ คุณผึ้งจึงได้เข้าไปดูห้อง เบอร์ห้องคือสามสองศูนย์ อยู่ห้องริมสุด สภาพห้องเก่ามาก แล้วชั้นที่คุณผึ้งอยู่ มีคนอาศัยอยู่ประมาณสิบห้อง จากยี่สิบห้อง และห้องข้างๆห้องของคุณผึ้งจะไม่มีคนเช่าอยู่ คุณผึ้งได้ย้ายของเข้าอาศัยและจัดห้องเสร็จเรียบร้อย จนประมาณห้าทุ่ม คุณผึ้งนึกขึ้นได้ว่าลืมไหว้เจ้าที่ จึงได้จุดธูปไหว้เก้าดอก สักพักไฟดับ คุณผึ้งคิดในใจว่าไฟคงจะตก แล้วไฟมันก็ติด คุณผึ้งผิดสังเกตุที่ธูปที่พึ่งจุดไหว้ไปเมื่อสักครู่ ตอนจุด จุดไปเก้าดอก ห้าดอกไหม้ปกติ แต่อีกสี่ดอกกลับไหม้จากตรงกลางขึ้นข้างบน ทั้งๆที่จุดจากข้างบนทั้งเก้าดอก แล้วลมพัดเข้ามาในห้องอ่อยๆ คุณผึ้งจึงคิดในใจว่า ลูกมาดีนะ ลูกมาขออาศัย จากนั้นคุณผึ้งจึงอาบน้ำแล้วเข้านอน ตอนนอนคุณผึ้งได้เปิดประตูระเบียงและหน้าต่างบานเกล็ดเอาไว้เพราะอากาศร้อน ระหว่างที่นอนก็ได้ยินเสียงคนสวดอะไรสักอย่าง แต่ว่าดังมาก จนนอนไม่ได้ คุณผึ้งจึงได้พูดออกมาว่า ใครมาสวดบ้าอะไรตอนนี้ว๊ะ คนกำลังจะหลับ

นัดสยองในญี่ปุ่น - คุณบูม

วันนี้จะมาเล่าเรื่องสยองที่เกิดขึ้นในต่างแดนกันบ้าง เป็นเรื่องที่ส่งเข้ามาจากคุณบูมครับ คุณบูมเล่าว่า.. เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นครับ ซึ่งเพื่อนสนิทของผมที่เป็นคนญี่ปุ่น มาเล่าให้ผมฟังอีกที เพื่อนผมชื่อเอริ (エリ) นะครับ ตอนนั้นเป็นช่วงที่เอริเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว ซึ่งจะต้องทำการขนของออกจากหอ เนื่องจากจะย้ายออกแล้ว.. คืนนั้น ระหว่างที่เอริกำลังจัดเก็บของทั้งหมดทั้งมวลลงกล่อง ก็ไปเจอกับมือถือเครื่องเก่าที่ตกอยู่ใต้เตียง เอริก็เอามือถือเครื่องเก่านั้นมาชาร์จแบต แล้วก็เปิดดูรูป ดูข้อความเก่าๆ ที่เคยคุยกับแฟนเก่า.. สักพักนึง มือถือเครื่องปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ ก็มีสายโทรเข้ามา แต่เป็นเบอร์ที่ไม่คุ้น เอริก็รับสาย ปรากฎว่าเสียงปลายสายคือแฟนเก่าของเอริ ที่เอริกำลังเปิดข้อความอ่านอยู่ ซึ่งก็แอบแปลกใจอยู่เหมือนกัน เนื่องจากว่าไม่ได้ติดต่อกันมาตั้งนานหลายปีแล้ว แต่ทำไมเค้าถึงรู้เบอร์เครื่องใหม่ได้? แต่อีกใจก็คิดว่า เค้าคงไปหาเบอร์มาจากเพื่อนๆ ของเอริได้ไม่ยาก.. การสนทนาเป็นไปอย่างสนุกสนาน ต่างคนต่างก็ยังคิดถึงกัน และก่อนจะวางสาย ทั้งคู่ได้นัดไปเจอกันที่สวนสาธารณะในเมือง ที่เมื่อก่อน

เปิดตำนาน 53 เรื่องผี และสิ่งลี้ลับในจังหวัดสงขลา

เรื่องที่จะนำมาเล่าต่อจากนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนได้รับทราบจากการออกเดินทางไปทำงานวิจัยตามสถานที่ต่างๆในจังหวัดสงขลา เเน่นอนล่ะว่าการออกเก็บข้อมูลงานทางไทยคดีศึกษาในเรื่องต่างๆ ตามสถานที่ต่างๆย่อมต้องได้รับทราบข้อมูลทั้งเชิงประจักษ์ เเละความเชื่อในเเนวทางเฉพาะถิ่น อาทิ ความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องภูติผี เเละดวงวิญญาณ(ลัทธิวิญญาณนิยม) เพื่อนๆหลายๆคนของผู้เขียนเลยขอให้ทำการรวบรวมนำมาเล่าสู่กันฟัง(บ้าง) เพื่อเป็นประสบการณ์เเลกเปลี่ยนกัน ปล. เชื่อก็ได้.....ไม่เชื่อก็ได้..........เเล้วเเต่จะคิดนะครับ 1.หน้าโรงเรียนอุดมศึกษาพานิช......สมัยก่อนล่วงผ่านเลยมามีเรื่องเล่ากันปากต่อปากจากผู้สูงวัยว่าที่เชิงสะพานตอนเช้าตรู่(ราวตี 4-6 โมงเช้า)มักจะมีสาวสวยผมยาวผิวขาวมากๆ ใส่ชุดขาวมายืนโบกรถอยู่ หากใครจอดรถรับ เธอจะหายไปพร้อมกับความซวย หรือเรื่องร้ายๆที่เข้ามาเยือนคนดวงซวยคนนั้น...บรื๋ออออ 2.บริเวณถนนศรีภูวนารถ มีซอยหลายซอยมากๆ มีอยู่ซอยหนึ่งคือซอย 12 ซอยนี้เองมีโรงเก็บหัวหอมร้างอยู่ซอยหนึ่ง เล่าลือกันว่าผีดุมากๆ มีเรื่องเล่าว่าเมื่อหลายสิบปีก่อนมีลูกจ้างโรงเก็บหัวหอมถูกบานประตูเหล็กตกใส่ ทับจนร

402 สยองขวัญ - คุณพลอย

พลอยกับแฟน หาหอพักใกล้ที่ทำงาน ไปถูกใจอยู่ที่หนึ่ง เป็นตึก 5 ชั้นไม่ลิฟท์ ถนนวังหิน-ลาดพร้าว แยกเจ็ด ที่แรกเป็นห้องโล่ง แต่ถ้าจะอยู่เจ้าของจะเอาเฟอร์นิเจอร์มาให้ พลอยเลยถามว่าทำไมไม่มีเฟอร์นิเจอร์ เจ้าของหอบอกว่าเพิ่งทาสี พอถามราคา เจ้าของบอกว่าห้องปกติ 2800 แต่กับพลอยให้พิเศษ 2200 ก็ตกลงจ่ายมัดจำ 5000 อยู่คบ 4 เดือนจะได้มัดจำคืน พลอยออกไปซื้อของแล้วกลับเข้าหอ ได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่เคาเตอร์ด้านล่างดังๆ แต่ไม่มีใครอยู่ พอเดินขึ้นห้องก็เหมือนมีเสียงรองเท้าส้นสูงเดินตามหลัง พอคุณพลอยถึงห้องก็ไขแม่กุญแจ แต่ยังไม่ทันบิดลูกบิด แต่มันก็ดังแก๊กปลดล๊อกเอง แร้วพอเข้าห้องผ้าม่านก้อหลุดจึงไปผูก แล้วไปดูที่ระเบียงก็เห็นผู้หญิงอยู่ห้องข้างๆ ยิ้มให้ พลอยก็เข้าไปอาบน้ำแบบเปิดประตูไว้ สักพักได้ยินเสียงทีวีเปิด แต่พลอยก็เสียบปลั๊กไว้ แต่ยังไม่ต่อสายอากาศ ก็ขึ้นจอสีฟ้าๆ พลอยยังไม่คิดอะไร ก็จะไปนอน สังเกตุเตียงก็มีรอบยุบลงไปเหมือนมีคนนอนทั้งๆ ที่พลอยหรือแฟนยังไม่นอน ไม่นั่งเลย เพราะมาอยู่วันแรก สักพักพลอยก็นอนแล้วกำลังเคลิ้มหลับ เห็นเหมือนคนเดินผ่านทีวี พลอยก็พลิกตัวมามอง ก็ไม่มีใคร สักพักหลับไปก็ฝัน