ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กุมภาพันธ์, 2018

ปอปแม่ชี!!...เรื่องหลอนๆจึงเกิดกับคนในหมู่บ้าน ทำให้ตายไปทีละคนสองคน

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในจังหวัดมหาสารคาม เมื่อประมาณสิบเจ็ดปีที่ผ่านมา คุณย่ารับคุณปางมาเลี้ยงดูที่หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งแต่ยังเด็ก ทุกๆเย็น คุณปางและเพื่อนๆมักจะรวมกลุ่มเตะบอลกันเป็นประจำ เย็นวันหนึ่ง หลังจากเล่นบอลกันจนเหนื่อย คุณปางและคนอื่นๆก็ได้ไปหาซื้ออะไรมานั่งทาน ในกลุ่มจะมีเพื่อนรุ่นพี่สามคน และเพื่อนรุ่นเดียวกับคุณปางสามคน แต่วันนั้น มีรุ่นพี่คนหนึ่งนึกพิเรนทร์ ซื้อเหล้ามานั่งดื่มด้วย พอเมาได้ที่ รุ่นพี่ก็นึกคะนอง เขียนชื่อของตนเองที่ข้างขวดเหล้า แล้วท้าพวกคุณปาง ให้เอาเหล้าขวดนี้ ไปวางไว้ที่ต้นฉําฉาหลังโรงเรียนเก่า ถ้าทำได้จะให้เงินห้าร้อยบาท ซึ่งตอนแรกก็ไม่มีใครกล้ารับคำท้า แต่คุณปางก็พูดกล่อมกับเพื่อนว่า "เงินตั้งห้าร้อยนะเว้ย" คุยกันไปคุยกันมา สรุปว่าเพื่อนทั้งสองคนก็เอาด้วย จึงตอบรับคำท้าของรุ่นพี่ รุ่นพี่ก็ควักแบงค์ห้าร้อยออกมา แล้วพูดว่า "นี่เงิน พวกเอาขวดไปวางไว้ แล้วกลับมาเอาเงิน พรุ่งนี้พวกพี่จะไปดู" โรงเรียนเก่าอยู่ห่างจากที่นี่ประมาณหนึ่งกิโลเมตร หลังโรงเรียนจะเป็นสวนต้นยูคาลิปตัส มีซอยเล็กๆตัดเข้าไปในสวน ลึกเข้าไปในซอยปร

ว่ายน้ำหนีผีจากบ้านร้าง เรื่องหลอนๆจากPANTIP

วันนี้ผมมีประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้มาเล่าให้ฟัง ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวผมเอง ลองอ่านกันดูนะครับ...ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว ตอนนั้นบ้านผมอยู่ตจว. เป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก ทุกวันหยุด ผมกับลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่ง ซึ่งเขาอายุน้อยกว่าผม 4 ปี จะมาเล่นด้วยกันเสมอครับ วันนั้นเป็นวันหยุด ผมกับน้องชาย ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ชวนกันไปเล่นน้ำ ซึ่งเป็นคลองแถวบ้าน คลองมีขนาดไม่กว้างและน้ำก็ไม่ลึกครับ ผมกับน้องว่ายน้ำเล่นอยู่ซักครู่หนึ่ง ผมก็เอ่ยปากชวนน้องว่า “เราว่ายน้ำข้ามคลอง ไปเก็บเชอร์รี่กินกันดีกว่า” ผมขออธิบายก่อนนะครับ ต้นเชอร์รี่อยู่ที่บ้านทวดหวาน ทวดหวานไม่ใช่ทวดผมนะครับ แต่แกแก่มากแล้ว เลยเรียกว่าทวดครับ เป็นคนแก่ที่อยู่บ้านเพียงคนเดียว ลักษณะเป็นเหมือนบ้านสวน เป็นบ้านไม้ มีใต้ถุนสูงประมาณเอวได้ครับที่นี้มีต้นเชอร์รี่ที่ปลูกอยู่ที่บ้านของแก ด้วยความที่เป็นเด็ก และรู้ว่ามีต้นเชอร์รี่ ผมก็เลยอยากกิน และชวนน้อง น้องก็อยากกินเหมือนกันครับ เราจึงว่ายน้ำข้ามคลองไปกันสองพี่น้องแต่ตอนที่ไปนั้น เจ้าของต้นเชอร์รี่ แกเสียชีวิตไปได้ไม่นาน ด้วยโรคชรา ส่วนบ้าน ยังไม่ถูกรื้อถ

เรื่องลึกลับบนเกาะเสม็ด ว่ากันว่าไปเสม็ดจะเสร็จผีทุกราย

เรื่องลึกลับบนเกาะเสม็ด..ใครรู้บ้าง ??...เรื่องหลอนๆจากPANTIP ...สุดสัปดาห์ไปเที่ยวเกาะเสม็ดมา ได้ฟังเรื่องผี บนเกาะเสม็ดมาบ้างพอสมควร เลยอยากเอามาแบ่งให้เพื่อน ๆ ได้รับรู้บ้าง ออกตัวไว้ก่อนเลยไม่ได้เอามาเล่าเพื่อดิสเครดิต หรือ ทำลายการท่องเที่ยว บนเกาะเสม็ด ฟังเอาไว้เพลิน ๆ สนุก ๆ เท่านั้น  เพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องที่ได้ยินมาจริงไม่จริง แต่เรื่องแบบนี้มันมีอยู่ทุกที่ฟังเล่น ๆ สนุก ๆ ก็พอ บอกแล้วนะ .....เรื่องแรกที่ได้ยิน คือเรื่องอ่าวลูกโยน พี่ที่เป็นเจ้าหน้าที่บนเรือตกหมึก บอกว่าอ่าวลูกโยน เมื่อก่อนเป็นสุสาน มีศพฝังบริเวณนี้เยอะแยะ แต่ตอนนี้พื้นที่แถวนั้น เลิกใช้เป็นสุสานแล้ว นอกจากนี้ยังมีตำนานเกี่ยวกับพระฤาษี ในเรื่องพระอภัยมณี พี่คนเดิมบอกว่า พระฤาษี จริง ๆ และคือ ปู่ดำ ที่อยู่ตรงหน้าด่านแถว ๆ ทางไปหาดทรายแก้ว และยังมีเจ้าแม่ทับทิม อีก 2 แห่ง บนเกาะเสม็ด และช่วงสงกรานต์ จะมีงานประเพณี ให้กับปู่ดำ ด้วย ขึ้นเกาะควรแวะกราบ-ไหว้ เพื่อสิริมงคล ถ้าใครที่เดินทางไปเสม็ดบ่อย ๆ จะต้องจำได้ว่าทางไปหาดวงเดือน  บนทางที่จะต้องนั่งรถ หรือขับมอเตอร์ไซด์ จะมีจุดนึงที่มีศาลพระภูมิเยอะ ๆ แถว

เบอร์13 ซาลอนหลอน!!

เรื่องเล่าจากน้องเพลส ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพี่สาว คือพี่เน โดยน้องเพลสเป็นคนติดต่อหาห้องเช่าให้กับพี่เน ในจ.สมุทรปราการ เพราะพี่เนมีปัญหากับแฟนและยังไม่อยากกลับไปพักที่บ้านของแม่ซึ่งอยู่ในจ.เดียวกัน ห้องเช่าที่ได้เป็นห้องพักชั้นเดียว เป็นแนวยาวทั้งหมด17ห้อง ส่วนใหญ่จะเปิดทำธุรกิจกัน ห้องที่พี่เนได้พักคือห้องเบอร์12 ห้องข้างๆคือห้องเบอร์11 เปิดเป็นร้านซ่อมเครื่องเสียง ส่วนเบอร์13เปิดเป็นร้านทำผม ร้านถัดๆไปก็เป็นร้านค้าของชำ หรือทำงานฝีมือ พี่เนเริ่มสนิทกับคนในห้องเช่า โดยเฉพาะร้านทำผมซึ่งอยู่ติดกัน ด้านหลังห้องเช่ากั้นด้วยกำแพงสูงเลยศีรษะะเล็กน้อย พี่เนมักพูดคุยกับร้านทำผมผ่านกำแพงเวลาที่อยู่ด้านหลังพร้อมกันอย่างเช่นเวลาล้างจาน และเวลาที่แฟนพี่ร้านทำผมกลับมาแบบเมาๆ ก็มักจะได้ยินเสียงทะเลากัน แทบทุกวัน ผ่านไปประมาณ3อาทิตย์ พี่เนได้เข้าไปทำผมในร้าน มีการพูดคุยกันตามปกติ แฟนของพี่ร้านทำผมก็เข้ามา และมาดึงแขนพี่ร้านทำผมไปตะคอกถามด้วยความโมโหว่าเงินกูหายไปไหน คุยกันสักพักจึงเดินกลับเข้ามา พี่เนจึงเปลี่ยนใจยังไม่ทำสีผม ขอเป็นสระผมก็พอ พี่ร้านทำผมจึงยิ้มแหยๆให้  เมื่อกลับมาที่ห้อ

บ้านคือวิมานของเรา!! บ้านอาถรรพ์..ใครอยู่ก็ตาย เรื่องเล่าประสบการณ์จริงจากPANTIP..อ่านแล้วขนหัวลุก หลอนสติแทบแตก!!

บ้านคือวิมานของเรา!! บ้านอาถรรพ์..ใครอยู่ก็ตาย เรื่องเล่าประสบการณ์จริงจากสมาชิกเว็บชื่อดัง..อ่านแล้วขนหัวลุก หลอนสติแทบแตก!!  จากเรื่องราวสุดหลอนจาก สมาชิกพันทิปท่านหนึ่งใช้ สมาชิกหมายเลข 3062905 เป็นกระทู้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์สุดหลอนของเจ้าของกระทู้ โดยหัวข้อกระทู้ชื่อว่า "บ้านคือวิมารของเรา" โดยเรื่องราวสุดหลอนนี้เป็นเรื่องราวที่ชาวเน็ตให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยกระทู้ดังกล่าวมีเรื่องราวว่า มีครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหรูหลังหนึ่งแถบชานเมือง สามีเป็นเจ้าของธุรกิจทำเกี่ยวกับรับเหมาก่อสร้างเขามีภรรยาและลูกสองคน ชายหญิงวัย 3 ขวบ และ 5 ขวบ ต่อมาธุรกิจรับเหมามีปัญหาเกิดปัญหาทางการเงิน ขาดสภาพคล่องทำให้สองสามีภรรยาคู่นี้ ทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างหนักทุกคืน ข้างบ้านเรือนเคียงแถวนั้นมักจะได้ยินเสียงเด็กร้องให้จ้า กลางดึกเสมอเพราะการทะเลาะกันของผู้ใหญ่ไม่นาน สามีก็ไปมีภรรยาน้อย นานๆถึงจะแวะกลับมาบ้าน มาหาลูกๆบ้าง แต่ภรรยาหลวงก็ไม่เคยรู้ว่า สามีมีภรรยาน้อย เข้าใจว่า สามีมุ่งมันทำงาน เพื่อหาทางดึงธุรกิจที่ทรุดให้กลับมาดึขึ้น จนวันหนึ่ง ภรรยาทราบข่าวร้าย  ว่า สามีประสบอุ

ป้อมหลอนมาก THESHOCK

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงงานแห่งหนึ่ง อยู่ในจังหวัดสระบุรี เมื่อสองปีที่แล้ว ปกติคุณพงษ์ทำอาชีพ รปภ ประจำอยู่ที่กรุงเทพ แต่ได้ขอย้ายมาทำที่สระบุรี เพราะว่าจะได้ใกล้บ้าน วันแรกที่คุณพงษ์เข้าไปรายงานตัวที่โรงงานแห่งนี้ หัวหน้าก็ได้ถามว่า “ไอ้น้อง กลัวมั้ย” คุณพงษ์ก็งงว่าหมายถึงอะไร ก็คิดว่าคงจะเป็นสถานที่เปลี่ยว ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ตกอีกวันนึง คุณพงษ์ก็ไปทำงานปกติ ก็ได้เตรียมข้าวเตรียมน้ำไปด้วย เพราะว่าโรงงานแห่งนี้อยู่บนภูเขา เป็นโรงงานเกี่ยวกับเหมืองแร่ ลักษณะป้อมที่คุณพงษ์เห็นคือ ป้อมจะไม่ใหญ่มาก ด้านในฝุ่นจับเต็มไปทั่วป้อม พอตอนกลางคืน คุณพงษ์ก็เดินตรวจตามสถานที่ต่างๆ จนถึงประมาณตีสอง ในขณะที่กำลังเดินตรวจอยู่ ก็ได้กลิ่นคาวเลือด ลอยมาเตะจมูก คุณพงษ์ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะว่าลองเดินตรวจดูก็ไม่เห็นมีอะไร ประมาณคืนที่สาม ช่วงเวลาประมาณตีหนึ่ง คุณพงษ์ได้ยินเสียงคนเอาเล็บขุดสังกะสีหลังคาป้อม “คลืดๆๆ” คุณพงษ์ก็คิดว่ามันชักจะยังไงๆแล้ว จึงนึกไปถึงคำที่หัวหน้าเคยถามว่า กลัวมั้ย มันต้องมีอะไรแอบแฝงในคำถามนี้แน่ คุณพงษ์จึงพนมมือแล้วพูดว่า ขอมารบกวนหน่อยนะ ไม่ได้มาลบหลู่ แค่มาทำตามหน้าที่

แอบตายที่ใต้เตียง หลอนขนลุกระดับสิบ!!

ผมขอเท้าความของเรื่องนี้ก่อนนะครับ ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดแล้วต้องเข้ามาเรียนในกรุงเทพดังนั้นผมก็เลยต้องเช่าหอพักอยู่ครับ ในช่วงปีหนึ่ง ผมอยู่หอคนเดียวครับ ก็ไม่ได้รู้มาก่อนหรอกครับว่าหอนี้มีอะไร จนกระทั่งผมขึ้นปี 2 ก็มีเพื่อนคนหนึ่งย้ายเข้ามาเรียนที่สาขาเดียวกันกับผม เพื่อนของผมคนนี้ชื่อ “บอย” ครับ เราสองคนสนิทกันมากเลยทีเดียว วันหนึ่งผมก็คิดได้ว่าการอยู่หอคนเดียว มันเป็นการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก ผมจึงตัดสินใจชวนบอยเข้ามาอยู่ด้วยกัน แชร์ค่าห้องกัน หลังจากที่อยู่ด้วยกันไปสักพัก บอยก็มีแฟนครับ ด้วยความที่ผมไม่อยากไปกวนบอย ผมก็เลยตัดสินใจย้ายออกมา เพราะคนมีแฟน ผมก็คิดว่าเค้าก็คงอยากจะอยู่กับแฟนเค้า ผมย้ายออกมาอยู่หออื่นในซอยถัดไปจากซอยเดิม ตลอดเวลา 3-4 เดือนที่ผมย้ายออกมา คู่ของบอยกับแฟนก็แลปกติดี จนกระทั่งเข้าเดือนที่ 5 ทั้งคู่เริ่มมีปากเสียงกัน ทะเลาะกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งสาเหตุก็เรื่องเดิมๆคือ ฝ่ายหญิงคิดว่าบอยแอบไปมีผู้หญิงคนอื่น การทะเลาะกันของทั้งคู่บ่อยมาก จนเป็นสาเหตุในฝ่ายหญิงตัดสินใจกระโดดตึกฆ่าตัวตาย หลังจากคืนวันที่แฟนของบอยกระโดดตึกตาย เช้าวันรุ่งขึ้น ผมและเพื่อนก็พบกับบอยที่คณ

โรงแรมสยองชั้น3 ห้อง313

เรื่องหลอน ชั้น 3 ห้อง 313 "เหรียญทอง" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากโรงแรมสยอง... ดิฉันเป็นเซลส์ (หญิง) ในบริษัทหนึ่งที่กรุงเทพฯ แต่อยู่ฝ่ายต่างจังหวัด ชีวิตประจำวันมักจะอยู่ในรถประจำทางกับห้างร้าน ส่วนที่หลับที่นอนก็มักไม่พ้นโรงแรมหรอกค่ะ ตอนแรกๆ ก็กลัวนะ กลัวทั้งผีทั้งคน...กลัวสายตาที่มองว่าเราเข้าโรงแรมบ่อยๆ คงจะเป็นผู้หญิงไม่ดี! แต่เดี๋ยวนี้ทำงานมานานจนเลิกกลัวหมดแล้ว หมดวัยที่จะกลัวอะไรง่ายๆอีกต่อไป เมื่อตอนต้นปี ดิฉันนั่งรถทัวร์จากนครสวรรค์ไปเชียงราย เที่ยวนั้นจะไปถึงจุดหมายราวตี 5 แต่พ่อเจ้าประคุณคนขับสวมวิญญาณเท้าปีศาจ...ตี 3 เกือบ ตี 4 ก็ถึงแล้ว! พอก้าวลงจากรถ โห...หนาวจัง! เย็นเฉียบจับใจเลย โรงแรมไม่ได้จองเพราะส่วนมากมีเหลือเฟือ ถ้าแห่งแรกเต็มก็ไปหาแห่งที่สองไม่ยาก แต่เมื่อนั่งตุ๊กตุ๊กจากท่ารถไปถึงโรงแรมเจ้าประจำ ปรากฏว่าพนักงานสองคนนอนคลุมโปงหลับสนิท มีป้ายติดว่า "ห้องแอร์ ห้องพัดลม-เต็มหมด!!" ตัดสินใจเดินไปหาโรงแรมอื่นที่เคยพักนานมาแล้ว อยู่ห่างไปราว 200 เมตร เวลาราวตี 4 เศษเดินอยู่คนเดียว ไฟฟ้าตามเสาส่องสว่างทำให้ไม่น่ากลัวเท่าไรนัก...มือหนึ่งหิ้วกระเป๋า

เขื่อนดุกินคน

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่จังหวัด 101 ในหมู่บ้านเล็กๆนอกตัวเมือง ตอนหนูอายุ 10 ขวบ ตอนนี้หนูอายุ 18 แล้วค่ะ ก่อนอื่นหนูอยากบอกว่า หนูเกิดและโตที่กรุงเทพค่ะ นานๆทีพ่อแม่ จะพาหนูกับพี่กลับไปเยี่ยมย่าที่ต่างจังหวัดเรื่องมันเกิดขึ้นตอน..หนูกลับไปเยี่ยมย่าที่หมู่บ้าน เผอิญช่วงนั้นเป็นช่วงปีใหม่ ที่หมู่บ้านข้างๆหมู่บ้านหนูมันจะมีเขื่อนเก็บน้ำอยู่ เป็นเขื่อนขนาดใหญ่ เหมือนเขื่อนทั่วๆไปค่ะ ทุกช่วงเทศกาลต่างๆผู้คนมักจะมาเที่ยวเล่นน้ำตกปลาที่นี่กันเป็นประจำ และ หนูก็เป็นอีกคนที่ไปที่นั่น แต่ตอนนั่นหนูยังไม่รู้ประวัติของเขื่อนนี้  วันนั้นหนูไปเล่นน้ำที่เขื่อนกับพ่อ 2 คน หนูขอบอกก่อนว่า..หนูไปที่นั่นเป็นครั้งแรกครั้งแรกที่หนูเข้าไป หนูรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีสักเท่าไร แต่หนูก็ไม่ได้เอะใจอะไรค่ะ ที่เขื่อนมันจะมีภูเขารอบล้อมเป็นแนวยาวมาก จากประตูทางเข้าเขื่อน เราจะมองเห็นถนนเป็นทางเชื่อมจากหน้าประตูไปสู่ตีนภูเขา ที่ตั้งของสำนักงานเขื่อน แล้วบังเอิญวันนั้นที่หนูไปเนี่ยเขาอนุญาตให้มีการตกปลา เก็บหอย กัน ด้วยความที่เรา 2 คนพ่อลูกไม่รู้ว่าเขาอนุญาตให้ตกปลา เราเลยไม่ได้เอาอุปกรณ์ตกปลาติดมือไปด้วย พ่อเลยถาม