ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

"มึงออกไปจากห้องกู" จากสยิวกลายเป็นสยอง


เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ที่ส่งเข้ามาจากคุณแยม และคุณโอม (นามสมมติ) ทั้งคู่คบหากันมาได้ 4 ปีแล้ว ปัจจุบันพักอาศัยอยู่ย่านรามอินทรา คุณแยมเล่าให้ฟังว่า.. ย้อนกลับไปเมื่อสัก 3 ปีที่แล้ว เราอายุ 18 เป็นผู้หญิงที่ค่อนข้าง รักสนุก กินเหล้า ปาร์ตี้ เที่ยวกลางคืน โอมแฟนเราก็เช่นกัน ตอนนั้นเรากับโอมเพิ่งคบกันใหม่ๆ ก็ชอบพากันไปเที่ยวกลางคืน กลับบ้านดึกๆ ตลอด ซึ่งตอนนั้นเรายังเรียนกันอยู่ พ่อแม่ของเรา 2 คน ก็ไม่รู้ว่าเราคบกัน เรากับโอม เลยต้องไปเปิดโรงแรมกันบ่อยๆ ทั้งชั่วคราว หรือค้างคืน


มีโรงแรมเก่าๆ แห่งหนึ่ง แถวลาดพร้าว เป็นที่ที่เรากับโอม ไปพักกันบ่อยมากๆ เพราะราคาถูก โรงแรมค่อนข้างเก่า ภายนอกดูโทรมมาก แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเคยมาหลายครั้งแล้ว ปกติเราจะได้ห้องชั้นบนตลอด แต่มีอยู่คืนหนึ่ง ห้องชั้นบนคนเต็ม เราเลยได้ห้องชั้นล่าง (ขอไม่บอกเลขที่ห้องนะคะ) คืนนั้น เรามาเปิดห้องกันประมานตี 2 ค่ะ เรา 2 คน เปิดเป็นค้างคืน 24 ชม. พอเราเปิดประตูเข้าไปในห้อง เดินเข้าไป แวบแรกเลย เรารู้สึกแปลกๆ ห้องมันดูโทรมๆ หมองๆ อึดอัด จนเราหันไปพูดกับโอม ‘ห้องนี้มันดู อับๆ ยังไงไม่รู้นะ’ โอมบอกว่า ‘ไม่เป็นไรหรอกมั้ง..คิดมาก’ เราเอง เป็นคนกลัวผีมาก แต่ก็ไม่คิดอะไร..


จากนั้นเราก็เข้าไปอาบน้ำค่ะ อาบกับโอมพร้อมกัน พออาบไปสักพัก เราก็ได้ยินเสียงมันดังมากจากข้างนอก ‘กึกๆๆๆ กั่กๆๆๆ’ เสียงเหมือน เขย่าประตู หรือตู้เสื้อผ้าก็ไม่แน่ใจ เหมือนมีใครทำอะไรแรงๆ อยู่ข้างนอก แต่ก็คิดว่าอาจจะเป็นห้องข้างๆ เลยแซวกันกับโอม ว่า ‘ห้องข้างๆ นี่ทำอะไรกันรุนแรงจัง..’ และก็ขำๆ กันไป.. พออาบน้ำกันเสร็จ เราก็ทำภารกิจอย่างว่ากันบนเตียงค่ะ ตอนนั้นเราปิดไฟห้องนะคะ ระหว่างนั้น เรากลับรู้สึกว่ามีใครมายืนดูเราอยู่ เหมือนว่าเราไม่ได้อยู่กันแค่ 2 คนในห้องค่ะ และเตียงมันก็ยุบๆ ไม่เด้งเหมือนปกติด้วย ตอนนั้นเราไม่มีความสุขเลยค่ะ มันอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก.. แต่พอเราเสร็จภารกิจ โบราณว่าไว้ เวลานอนห้ามนอนขวางเตียง และปกติเรากับโอม ก็ไม่เคยนอนขวางเตียงกันอยู่แล้ว แต่คืนนั้น เหมือนมีอะไรดลใจเราให้ นอนขวางเตียง และหลับไปอย่างนั้น


เราหลับไปได้ไม่ถึง 10 นาที มาเลยค่ะ เริ่มจากกลิ่นเหม็นเน่า คลุ้งไปหมด และตามด้วยเสียงผู้หญิง ร้องครางโหยหวนน่ากลัวมากๆ มันดังก้องอยู่ในหู ‘ฮือ ฮือ ฮือ..’ อยู่สักพักหนึ่ง แล้วก็เป็นเสียงพูดก็ดังขึ้นมา ‘ออกไป จากห้องกู..’ แต่ตอนนั้นเราขยับตัวไม่ได้ อยู่ในท่านอนตะแคง หันหน้าไปทางประตูห้อง กลัวมากค่ะ ทำได้แค่ลืมตามอง แต่ห้องมืดมาก สักพักพอม่านตาเราเริ่มขยาย ก็เริ่มมองเห็น ตรงมุมห้อง เราเห็นว่าเค้ายืนอยู่ เป็นรูปร่างคน ผมยาวๆ ไม่มีเสื้อผ้า ยืนร้องไห้ จิตเค้าเหมือนโกรธเรามาก มันรู้สึกมาถึงเราได้ยังไงก็ไม่รู้ และเราเห็นว่าเค้าค่อยๆ เดินตรงเข้ามา.. เรารีบหลับตาทันที คิดในใจ ขอโทษเค้า บอกว่า เรามาพักผ่อน ไม่ได้มาทำอะไรไม่ดี จะไปแล้วค่ะ ไม่อยู่แล้ว แล้วเราก็สวดมนต์ ผิดๆ ถูกๆ เพราะคิดอะไรไม่ออกแล้ว นึกถึงแต่หน้าแม่ สักพักก็หลุด ขยับตัวได้


เรารีบปลุกโอม ที่นอนอยู่ข้างๆ บอก ‘โอมไปกันเถอะ’ แต่เรายังไม่ทันเล่าอะไรให้โอมฟัง โอมก็ดีดตัวขึ้นมานั่ง แล้วบอกให้รีบแต่งตัว เก็บของไปกัน หน้าตาโอมซีดมากค่ะ ตอนนั้นเราก็กลัวมาก จนตัวสั่นไปหมด.. พอเก็บของแล้วก็ไปที่ล็อบบี้ เอาเงินมัดจำห้องคืน และเราก็ได้ถามพนักงานที่ล็อบบี้ แต่เค้ากลับไม่บอกอะไรเลย นอกจาก ไม่มีอะไรค่ะ..  ตอนกลับ น่าจะประมาณ 6 โมงเช้า โอมบิดมอเตอร์ไซค์อย่างไม่คิดชีวิต ไม่พูดไม่จา เหงื่อเต็มตัวเลย พอไปถึงที่หน้าบ้านเรา โอมก็พูดขึ้นว่า ‘เห็นเหมือนกันหรอ?’ โอมเล่าว่า ตอนหลับไป แล้วตื่นมา โอมเห็นเด็กผู้ชายคนนึง ยืนเหยียบบนหน้าอกโอมอยู่ มองไม่เห็นหน้า เพราะมันมืดมาก อึดอัด หายใจแทบไม่ออก ขยับตัวก็ไม่ได้ พูดก็ไม่ได้ อยู่แบบนั้นเป็นชั่วโมงได้ จนแยมมาปลุกถึงขยับตัวได้


จนเรื่องผ่านไปเป็นปี เราบังเอิญได้ไปรู้เรื่องของโรงแรมนั้น จากเพื่อนที่เป็นหน่วยกู้ภัยเก่า ว่าเมื่อหลายปีมาแล้ว ที่โรงแรมแห่งนั้นเคยมี ผู้หญิงท้องแก่มาเปิดห้อง และกินยาตายอยู่ในห้องนั้น ตามหาญาติไม่ได้อีกด้วย จึงต้องไปทำพิธีตามแบบศพไร้ญาติ.. พอได้ฟังอย่างนั้น ก็ทั้งขนลุก และทั้งแปลกใจที่ เด็กที่โอมเห็นเป็นใคร? หรือจะเป็นลูกของผู้หญิงท้องคนนั้น ที่เกิดขึ้นมามีชีวิต ในโลกหลังความตาย..?


Story by คุณแยม 


เครดิต THE HOUSE

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ