ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

หลงทางจนเจอดีที่เขาใหญ่


ปกติผมเป็นคนมีเซ้นส์ชอบเห็นอะไรที่ใครเขาไม่เห็นกัน แต่เรื่องนี้ผมยอมรับว่าตกใจสุดๆเลยเมื่อเจอเค้าคนนั้น!!!...มีอยู่วันนึ่งผมเลิกงานกลับบ้านมา เป็นวันศุกร์พอดี พรุ่งนี้ก็วันหยุดคุยกับแฟนว่าจะไปเที่ยวแบบธรรมชาติสักคืน สูดอากาศดีๆเข้าปอดสักหน่อย 


เลยลงมติว่าจะไปเที่ยวเขาใหญ่กันหลังจากนั้น ก็เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า ว่าจะกลับสักเช้าวันอาทิตย์ แต่ผมติดภาระกิจที่สำคัญก็คือต้องไปส่งของ (มะม่วง บ้านผมทำสวนมะม่วงด้วยครับ ) ให้เสร็จก่อนถึงจะไปได้ ...จนค่ำประมาณ 4 ทุ่มได้ ผมก็กลับมาบ้าน ก็ถามแฟนอีกครั้งว่าจะไปเลยหรือค่อยไปพรุ่งนี้เช้า แฟนผมบอกไปเลยงั้นก็ไปสิครับ รออะไร ระหว่างที่ขับรถไปเรื่อยๆคุยกันไปเรื่อยๆ มาถึงทางที่จะไปเขาใหญ่ ไปโดยไม่ได้เตรียมว่าจะพักที่ไหน รีสอร์ท อะไร คือว่ากะไปหาเอาข้างหน้าเลย!!! ก็เลยแว๊ะปั๊ม ปตท. ทำธุระก่อนเข้าไปในเขาใหญ่ เพราะว่าจะมีอยู่ปั๊มเดียวด้วยเข้าไปก็ไม่มีปั๊มแล้ว พอขับรถไปเรื่อยเส้นทางเริ่มมึดมาก ขณะนั้นก็ประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆได้แล้ว ขับไปเรื่อยๆ ก็ยังหาโรงแรม รีสอร์ท ที่ถูกใจไม่ได้เลย ก็ขับเข้าไปเรื่อยๆ จำได้ว่าเลี้ยวซ้ายครั้งเด่ว ทางยิ่งมืดเข้าไปใหญ่ รู้สึกว่าผมจะเข้าไปในไร่ เค้าปลูกข้าวโพดกันเต็ม 2 ข้างทางเลย ต้นไม้เต็มไปหมดมองอะไรแทบจะไม่เห็นเลย ทางก็เป็นทางลูกรังอีกต่างหาก ก็เลยคุยกับแฟนว่า


ต้องออกและหล่ะ ตัดสินใจกลับรถออก เพื่อกลับทางเดิมผมก็ได้ขับไปเรื่อยๆเลี้ยวตามทางที่เคยผ่านมา แต่รู้สึกเหมือนยิ่งเข้าไปลึกกว่าเดิม หนักกว่าเดิมอีกมืดกว่าต้นไม้หนากว่าเดิมอีก คุยกับแฟนว่าสงสัยจะหลงแล้วเราก็เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อ เปิด GPS งานเข้าครับทีนี้ ไม่มีสัญญาณ ทั้งของผมและของแฟน ทำยังไงสัญญาณก็ไม่มี ก็เลยตัดสินใจกลับ ออกไปใหม่เหมือนวนอยู่ที่เดิม เชื่อมั้ยว่าผมขับวนอยู่อย่างนั้น ประมาณ เกือบ 2 ชม. เวลาขณะนั้น ตี 1 แล้วเลยเกิดอารามณ์โมโหมาก กะว่าจะมาเที่ยวนอน สูดอากาศบริสุทธิ์ ซะหน่อยดันมาหลงทางอีก ( คนโมโหอ่ะเนาะครับคำพูดหยาบคาย ต่างๆนาๆออกมาหมดโดยไม่ยั้งคิดจนแฟนเริ่ม ดุเราว่าให้หยุดพูดในป่าในดงนะ จะพูดจะด่าอะไรให้ระวัง ) 


ผมก็เริ่มมีสติขึ้นมาเหมือนเดิมครับขับวนไป วนมา ที่เก่าหาทางออกไม่เจอ กลับมาทีไรก็จุดเดิมที่ ที่เป็นทางดินขรุขระสังเกตุเห็นที่เค้าไว้พักเวลาทำไร่อ่ะครับ เลยหยุดรถตั้งสติใหม่ขณะนั้นเวลา ตี 2 แล้วทำอะไรไม่ถูกตัดสินใจเอาอีกรอบ รอบนี้แหละครับจุดเกิดเหตุการณ์ที่หลอนที่สุดของผม และแฟน ขับไปเรื่อยๆทางเดิม ไฟหน้ารถ สาดส่องไปคราวนี้ครับเห็นไกลๆไฟหน้ารถไปปะทะกับอะไรไม่รู้สีขาวๆ พอขับเข้าไปเรื่อยๆ ยิ่งชัดขึ้นคนครับยืนหันหลังอยู่ ตอนนั้นดีใจมากกะว่าจะไปถามทาง เพื่อออกไปจากตรงนี้ ผมก็เริ่มเบารถและหักรถเข้าไปเพื่อจอดเทียบ ทันใดนั้นแฟนผมเริ่มกรี๊ดเสียงดังมาก และบอกให้ขับออกไปเลยอย่าจอดๆ กรี๊ดๆๆๆ จากที่เธอนั่งอยู่เบาะข้างซึ่งถ้าผมจอดก็จะอยู่ใกล้ชิดกับชายผู้นั้นมาก เธอโดดข้ามมาเกาะผม รถก็เกิดเสียหลัก 


ผมเลยเบรครถกลัวที่จะชนผู้ชายคนนั้น แฟนผมเริ่มสติแตกครับกรี๊ดดดดๆๆๆ ไปเลยๆๆๆ อย่าจอดผมนี่งง มากครับ ผมก็ตกใจอยู่ครับว่ามันเกิดอะไรขึ้นผมมองชายคนนั้นเค้าค่อยๆ ยืนมือขวาออกมา เริ่มชัดขึ้นๆ (เหมือนจะโบกรถ) เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งหมด ไม่เห็นขาทั้ง 2 ข้าง แล้วเค้าก็ค่อยๆ หันหน้ามาช้าๆ แฟนผมกรี๊ดๆๆๆ ร้องไห้แบบคนขาดสติเลย ผมเริ่มออกรถแล้วครับ เห็นอย่างนั้นแล้วก็ไปสิครับรออะไร ออกรถไปได้ตอนนี้แฟนยังเกาะผมอยู่เลย ผมมองตาไม่กระพริบเลยแกก็ยังหันหน้ามาอยู่เรื่อยๆแบบช้าๆ  ตาต่อตาเลยครับจนผมต้องตะลึงเพราะหันหน้ามามองกันพบว่า ทั้งหน้าของชายผู้นั้นเลือดอาบเต็มหน้าไม่เห็นลูกตา หน้าซี๊ดขาว คราบเลือดเต็มเสื้อ เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งหมด มือโบกรถเหมือนบอก ให้จอดๆ ผมยังไม่ล่ะสายตามองกระจกหลัง แล้วก็ค่อยๆหายไป 


ตกใจมาก เหงือแตกหมดในขณะที่แอร์รถเย็นเจี๊ยบ แฟนผมยังสติแตก....มาเลยครับ จะจอดทำไม ตรูบอกไม่ให้จอดๆ และผมก็ขับออกไปไกลจากตรงนั้นกลัวเหมือนกันว่าจะมาโบกข้างหน้าอีก เลยคุยกับแฟนว่าจะทำไงกันดี พอตั้งสติได้สักพัก ก็เลยนึกถึงเรื่องที่เราพูดจาไม่ดี คำด่าออกมาหมด เลยพูดในใจขอขมากันไปตามเรื่องราว และก็ขอให้เจ้าป่าเจ้าเขาช่วยให้ลูกออกไปจากที่นี้ได้ด้วยหลังจากนั้นก็เลยลองเข้า GPS อีกรอบนึงคราวนี้มีสัญญาณครับลองค้นหาตำแหน่งที่อยู่ พบว่าอยู่กลางเขาและไร่นา  ที่กว้างมากไม่รู้เข้ามาได้ยังไง ไปตามเส้นทาง GPS เลยครับ ไม่ถึง 10 นาที สามารถออกมาจากจุดจุดนั้นได้ครับ ก็เลยหาที่พักข้างนอกดีกว่าตรง( ถนนมิตรภาพ ) กว่าจะได้นอนกันก็ ตี 3 กว่าๆ ครับ แฟนยังตกใจไม่หาย นอนยันเช้า ( แฟนเลยถามว่าจะจอดทำไม เราบอกว่านึกว่าคนจะไปถามทาง แฟนบอกว่าเห็นตลอดที่ขี่รถผ่านมาทางเดิมที่วนไปวนมาอยู่หลายรอบก็เลยไม่ทักอะไร ที่ทักเพราะจะจอดรับเค้าอ่ะ ตอนนั้นกลัวมาก และผมก็ถามว่าโดดมาได้ยังไงจากฝั่งคนนั่ง แฟนบอกมันตกใจมากๆ ) 


ก็เลยไปเที่ยวกันต่อ จึงลองขับไปทางเดิมที่เราเข้าไปเมื่อคืนแต่จำทางเข้าไม่ได้เลย สรุปเค้าคนนั้นคือใคร ขอบคุณครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ