ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

น้องมานั่งทำไรตรงทางโค้ง พีคตอนจบ!!


เราค่อนข้างมีเซ้นส์กับเรื่องพวกนี้ ได้ยินเสียก็อกๆแกีกๆ หรือเห็นอะไรแว๊ปๆบ่อยเหมือนกันเคยไปหาร่างทรงทุกคนจะทักเหมือนๆกันว่ามีองค์นะให้รับแต่เราไม่รับค่ะ กัวทำได้ไม่ดีพอ ถ้าถามถึงเรื่องเห็นผี เห็นกันจะๆ ชัด ๆ ในชีวิตเราถึงตอนนี้ 2 ครั้งค่ะ และครั้งแรกที่เจอก็เป็นอะไรที่น่ากลัวจำฝังใจถึงทุกวันนี้


เราเป็นพยาบาลเทคนิคค่ะ สมัยนี้ไม่มีแล้วเนอะ เพราะปิดหลักสูตรไปแล้ว ประจำอยู่ รพ.ชานเมืองย่านอ้อมน้อย ไม่เอยชื่อแล้วกันค่ะจริงๆการทำงานอยู่ รพ.ก็มักจะเจอเรื่องพวกนี้อยุ่บ่อยๆ แต่เป็นอะไรที่แวีบๆ ผ่านๆ ไม่เจอกันจะๆสักที 5555+...ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสัก 15 ปีก่อน(อย่านับอายุค่ะ) ตอนนั้นในรพ.พยายามใช้บุคลากรให้เป็นประโยชน์สุดๆ เราประจำอยุ่ห้องผ่าตัดค่ะ แต่ถ้าขึ้นเวรดึกไม่มีเคสต้องลงมาช่วยงานที่ห้องฉุกเฉินค่ะ ส่วนตัวเราชอบขึ้นเวรกลางคืนมากกว่าเวรเช้า่ และแล้วคืนสยองสำหรับชีวิตเราก็มาถึง


คืนนั้นเราลงมาช่วยห้องฉุกเฉินปรกติอยู่กัน 5 คนค่ะ มีพี่พยาบาล 2 คน เรา และผู้ช่วย 2 คน มีเคสมาบ้างเล็กน้อยค่ะ จากหัวค่ำไปจนถึงเที่ยงคืนทุกคนยังอยู่ดูทีวีคุยกันเฮฮา พอสักตี 2 ได้ มีโทรศัพทืเข้ามาค่ะ บอกว่ามีรถชนกันแถววัดไร่ขิง คนเจ็บ 2 รายอาการสาหัสมากต้องการรถพยาบาลและเจ้าหน้าที่ พี่พยาบาลเซทรถกู้ชีพพลขับและเวรเปลและมอบหมายหน้าที่ให้เราไปค่ะ ขาไปรถพยาบาลวิ่งไปทางเส้นเพชรกษม กลับรถที่ใต้สะพานโพธิแก้ว เข้าปากซอยวัดไร่ขิงไปเรื่อยๆ พี่คนขับใช้ความเร็วเพื่อต้องการคไปถึงที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุด จุดหมายข้างหน้ามีผู้บาดเจ็บรอพวกเราอยุ่


ถ้าใครเคยไปวัดไร่ขิงจะรุ้ว่าจากปากทางเข้าไปค่อนข้างลึก เงียบและเปลี่ยว รถของเราผ่านวัดไร่ขิงไปแล้ว พี่คนขับบอกว่าอีกไม่น่าเกินกิโลเราจะถึงแล้วค่ะ พวกเรากำลังเตรียมพร้อม ก็ปรากกว่ามีรถกู้ชีพมูลนิธิวิ่งสวนออกมา ทันทีที่สวนกันมูลนิธิได้แจ้งว่ารอไม่ไหวคนเจ็บอาการสาหัสมาก ซึ่งตอนนั้นเราบอกพี่คนขับให้ถ่ายคนเจ็บมาค่ะ แต่พี่เค้าบอกว่ากว่าจะวิ่งตามไปรถต้องจอดรอเราอีก ไม่ต้องถ่ายดีกว่า เราไปทางลัดกลับโรงพยาบาลกันเลย เราก็โอเค เราจะกลับกันทางลัดซึ่งเป็นถนน 2 เลนเล็กๆเลาะไปตามทุ่งนาและหมุ่บ้านเป็นระยะๆ ถนนเส้นนี้จะออกพุทธมนฑลสาย 5 และวนกลับเข้า รพ ได้ เราเคยผ่านเส้นนี้อยุ่เหมือนกันในตอนกลางวัน เราว่ามันเปลี่ยวและเงียบ แต่ก็เป็นถนนที่คนพื้นที่ใช้ประจำ


ระหว่างขับรถกลับในรถเรากับพี่คนขับและน้องเวรเปลคุยกันไปตลอดทางค่ะ เรื่องนั้นเรื่องนี้ เราก็คุยไปมองช้างทางไป ทางมืดสนิดนานๆจะเจอไฟรายทางสักต้นนึง น้องเวรเปลเป็นคนพูดตลกค่ะ คุยไปขำไปรถวิ่งไปเรื่อยๆทางที่ผ่านตอนนั้นมืดสนิดค่ะ มีแค่ไฟรถ สายตาเรามองไปข้างหน้าจะเป็นทางโค้ง ที่มุมหัวโค้งมีเสาไฟรายทางส่องแสงสีส้มๆ พอให้มองเห็นโค้ง พี่คนขับชลอรถตอนนั้นอยู่ๆในรถก็เงียบสนิดเสียงคุยเงียบหาย เรารู้สึกขนลุก รถค่อยๆเข้าใกล้โค้งสายตาเราก็เหลือบไปเห็นเหมือนมีคนนั่งอยู่ตรงมุมโค้งและน่าจะเป็นเด็ก เด็กนักเรียนแน่นอนเพราะใส่เสื้อสีขาวๆ ตาไม่ฝาดแน่นอน เรากระพริบตาหลายที ขนลุกมากใจเต้นแรง เหลือบมองนาฬิกา เกือบตี 3 แล้ว.... เกือบตี 3 เด็กที่ไหนจะมานั่งตรงนี้


พอนึกขึ้นได้ รถก็วิ่งเกือบจะถึงโค้งแล้ว ตอนนั้นปากเราแข็งไปหมดจะหันไปถามพี่คนขับก็พุกไม่ออกแล้วตาเราก็พยายามมองไปที่ตรงนั้น ตรงมุมโค้งรถค่อยๆเลือนเข้าไปช้าๆตอนนั้นสำหรับเรามันช้ามาก เราเห็นเด็กสักประมาณ5-6 ขวบเป้นเด็กผู้ชายค่ะนั่งคุกเข่าก้มหน้า ใส่ชุดนักเรียนเสื้อสีขาวกางเกงสีน้ำเงิน รถมาถึงโค้งแล้ว เราเห็นชัดมากเด็กคนนั้นค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาค่ะ มันชัดมาก ภาพนั้น เด็กเงยหน้าขึ้นมาช้าๆ เลือดจากหัวเค้าไหลลงมาจนถึงตาเลอะไปทั้งฝั่ง ที่แขนเค้าใส่นาฬิกาข้อมือโดเรมอน แต่เลือดมันเลอะไปหมด เราขนลุก ขนลุกมากตั้งแต่หัวไปจนถึงหลัง วินาทีนั้นเราสัมผัสได้ทันทีว่า ผี........!!!!! ผีแน่นอน เราเหมือนจิตหลุดตอนนั้นได้แต่จ้องตรงที่น้องนั่ง อยากเห็นให้ชัดๆ ว่าไม่ได้ตาฝาด


รถผ่านโค้งมาแล้วเรานั่งเงียบจนรถออกถนนใหญ่ ไฟถนนสว่างไม่น่ากลัวเราหันไปถามน้องเวรเปลกับพี่คนขับว่าที่โค้งเมื่อกี้มีใครเห็นอะไรมั้ย พี่คนขับถามว่าเราเห็นอะไร เค้าไม่เห็นๆอะไรเลย น้องเวรเปลก็ถามเราว่าเราเห็นอะไร เราเลยบอกไปว่าเราเห็นเด็ก เด็กนั่งเรียนนั่งก้มหน้าอยุ่ตรงโค้งนั้น...อะไรนะ....!!! น้องเวรเปลร้องลั่น แล้วบอกกับเราว่าไปถึง รพ จะพาเราไปดูอะไร แล้วทุกอย่างก้อยุ่ในความเงียบ ไม่มีการพูดคุยอีกเลยจนมาถึง รพ พี่คนขับวนรถไปข้างหลังมาจอดหน้าห้องดับจิต น้องเวรเปลชวนเราขึ้นไปดูอะไรบางอย่างใข่ค่ะ ในห้องดับจิต เราไปดูศพค่ะ ในห้องมี 2 ศพ น้องเวรเปลเดินไปที่ศพนึงแล้วพุดกับเราว่า "พี่ลองดุสิว่าใช่เด็กคนนี้หรือเปล่า" แล้วเปิดผ้าคลุมออก ศพที่เราเห็นตรงหน้า เป็นเด็กคนนั้นที่นั่งอยู่ตรงโค้งอย่างแน่นอน ทั้งเสื้อ กางเกง นาฬิกาโดเรม่อน และรอยแผลที่หัว ทันทีที่เราเห้นศพเราขนลุกตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแล้วเราก็วูปไปเลยค่ะ


เช้าเรารีบไปใส่บาตรให้น้องตอนนั้นคิดว่าวิญญาณน้องคงไม่ได้มากับร่าง แล้วรถคันที่เรานั่งไปเป้นรถที่รับศพน้องมา รพ น้องคงรอติดรถมาด้วย...ขอบคุณ : เรื่องและภาพจาก https://pantip.com/topic/33985156

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ