ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

"เดี๋ยวเรามานะเพื่อนใหม่" แล้วเธอก็โดดตึกลงไป!!


เรื่องราวและเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนนั้นอินยังเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี อินศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมปลาย ม.5 ปัจจุบันได้ย้ายเข้ามาเรียนในกรุงเทพแล้ว
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นตั้งแต่โรงเรียนเก่าสมัยที่อินยังเรียนอยู่ ในโรงเรียน ม.ปลายนั้น ได้ไปนอนพักที่หอพักของนักเรียนหญิงซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณของโรงเรียนเอง อินนั้นนอนที่หอพักหญิงตั้งแต่ ม.4 
ก่อนอื่นต้องขออธิบายลักษณะของหอพักแห่งนี้ก่อน

หอพักแห่งนี้นั้นจะมีทั้งหมด 3 ตึก ตึกละ 5 ชั้นแต่ไม่ทราบว่าแต่ละชั้นนั้นมีกี่ห้องและยังแบ่งเป็นหอพักชายเรียกว่าตึก ช1 หอพักหญิงนั้นเรียกว่าตึก ญ1, ญ2 อีก 2 ตึก ซึ่งหอพักนักเรียนหญิงจะมีเยอะกว่า เพราะนักเรียนหญิง จะนอนพักที่หอพักของโรงเรียนซะเป็นส่วนใหญ่ ช่วงที่อินเข้าเรียนแรกๆนั้นอินได้พักที่ห้อง ญ1 3005 ซึ่งเป็นตึกที่ 2 ตั้งอยู่ระหว่างกลางของตึกทั้ง 3 ตึก ใน 1 ห้องนอนนั้นทางโรงเรียนจะจัดให้นักเรียนพักได้แค่ 2 คน เนื่องจากเตียงนอนเป็นเตียงแบบ 2 ชั้น ในห้องพักของอินนั้นพักอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 คน คืออิน กับเพื่อนอีกคนหนึ่งชื่อว่าใหม่ ใหม่เป็นเด็กนักเรียนที่มาจากภาคใต้ ตามคุณพ่อมาทำงานที่จังหวัดนี้ ก็เลยต้องจากบ้านมาไกล อินนั้นได้พัก อยู่กับใหม่ตั้งแต่เข้ามาในโรงเรียนเลย ใหม่เป็นคนที่มีสภาพร่างกายไม่ค่อยจะแข็งแรงดี หรือเรียกอีกอย่างว่าขี้โรคนั่นเอง เพราะเวลาอากาศ เย็นหน่อยใหม่ก็จะเป็นหวัดเร็วกว่าใครเพื่อน เพราะเหตุนี้เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด


มีคืนหนึ่งระหว่างที่อินกำลังนั่งทำการบ้านที่อาจารย์สั่งมาอยู่นั้น ใหม่ก็อยู่ในห้องด้วยแต่ว่าใหม่เขานอนอยู่บนเตียงซึ่งอยู่ชั้นบน ส่วนอินนั้นนอนที่เตียงชั้นล่าง ระหว่างที่อินกำลังนั่งทำการบ้านอยู่นั้นใหม่ก็เริ่มที่จะไอ ค่อกแค่ก ค่อกแค่ก ไอเป็นระยะๆ อินก็เลยเดินไปหยิบ น้ำมาให้ใหม่ แล้วก็ถามกับใหม่ว่า "ใหม่เป็นอะไรมากมั้ย ไปหาอาจารย์ดีหรือเปล่า" แต่ว่าใหม่ก็ได้แต่ส่ายหัวแล้วก็บอกว่า "ไม่เป็นไรมากแค่แพ้ฝุ่นละอองมั้ง" อินก็เลยไม่ได้ติดใจอะไรต่อไป เพราะรู้อยู่แล้วว่าใหม่เค้าร่างกายไม่ค่อยปกติ จนกระทั่งใหม่นั้นไอแรงขึ้นๆ อินก็ลุกขึ้นมาดู เห็นว่าอาการไม่น่าจะดีแล้ว รีบพาเพื่อนไปหาอาจารย์ก่อนจะดีกว่า เวลาในขณะนั้นประมาณทุ่มครึ่ง อาจารย์ที่นอนพักอยู่บริเวณชั้น 1 ก็ยังไม่ได้เข้านอน อินก็เลยรีบไปตามอาจารย์มาดูอาการของใหม่


พออาจารย์นั้นขึ้นมาดูอาการของเพื่อนแล้วอาจารย์ก็ต้องตกใจพอสมควร เนื่องจากบริเวณคอของใหม่นั้นแดงมาก เป็นผื่นสีแดงขึ้นเต็มคอไปหมด อาจารย์จึงตัดสินใจโทรศัพท์ติดต่อคุณพ่อของใหม่ เพื่อที่จะพาน้องไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด พอพ่อมารับก็ได้ส่งไปโรงพยาบาลโดยด่วน แต่ว่าอาจารย์กับอินนั้นไม่ได้ตามไปด้วย แล้วอาจารย์ก็เริ่มที่จะถามอาการของใหม่กับอินว่า "เกิดอะไรขึ้น ทำไมไอและมีผื่นแดงขึ้นบริเวณคอ" อาจารย์กับอินเลยได้กลับไปดูในห้องพักก็เห็นสีที่ผนังและบริเวณเพดานนั้นสีหลุดออกมาหมดแล้วทำให้มีฝุ่น อาจารย์ก็เลยบอกว่า "ถ้าขืนอินยังอยู่ห้องนี้ต่อก็คงมีอาการแบบเดียวกับใหม่แน่นอน" อาจารย์จึงออกความเห็นว่าให้น้องอินนั้นเก็บข้าวของที่จำเป็น เช่น เสื้อผ้าและกระเป๋า ไปนอนอีกห้องหนึ่งซึ่งอยู่ที่ตึก ญ2 นั่นเอง เนื่องจากตึกนั้นยังคงมีห้องว่างอยู่พอสมควร ระหว่างนั้นอินก็รีบเก็บข้าวเก็บของเนื่องจากอาจารย์เดินกลับไปหยิบกุญแจที่ห้องของตัวเอง แล้วอาจารย์ก็จะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อตามไปดูอาการของใหม่ที่โรงพยาบาลด้วย เวลาผ่านไปซักประมาณครึ่งชั่วโมงได้ อินก็เก็บข้าวของใกล้จะเสร็จแล้ว อาจารย์ก็เดินกลับมา พร้อมกับกุญแจห้องที่ตึกใหม่ อาจารย์ยื่นกุญแจให้กับอินแล้วก็บอกกับอินว่า "เอากุญแจนี้ไป แล้วเดินไปที่ตึกใหม่ เข้าไปหาอาจารย์ที่ดูแล ตึกนั้น แล้วบอกให้อาจารย์พาไปที่ห้อง คืนนี้เธอคงต้องนอนพักที่ตึกนั้นคนเดียวไปก่อน ได้เรื่องยังไงแล้วค่อยตกลงกันอีกที" พอพูดจบ อาจารย์ก็รีบตรงไปโรงพยาบาล


ตอนนั้นเวลาประมาณ 2 ทุ่ม อินพอเก็บข้าวของเสร็จก็เดินไปที่ตึก ญ2 พอไปถึงก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้กับอาจารย์ผู้ดูแลตึกได้ฟังอาจารย์ผู้ดูแลนั้นพอรับเรื่องทั้งหมดแล้วก็หากุญแจ แล้วก็เตรียมตัวจะพาอินนั้นขึ้นไปพักที่ห้องหมายเลข ญ2 5016 ซึ่งเป็นห้องที่อยู่ชั้นบนสุดของอาคาร พอทั้งสองคนเดินไปถึงชั้น 2 อาจารย์ก็บอกกับอินว่า "นี่นักเรียน ยืนรอตรงชั้น 2 แป๊บนึงก่อนได้ไหม อาจารย์ปวดท้องหนักมาก"

อินก็เลยตัดสินใจบอกกับอาจารย์ที่ดูแลหอว่าให้อาจารย์ลงไปก่อนเลยก็ได้ อินสามารถเดินไปที่ห้องคนเดียวได้ อาจารย์จึงบอกว่า "งั้นก็ดี ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรก็ลงมาตามอาจารย์ได้ตลอดเวลานะ" จากนั้นอินก็เดินมุ่งหน้าขึ้นสู่ชั้นบน พอไปถึงหน้าห้อง อินก็ได้เห็นสิ่งผิดปกติทันที นั่นก็คือ ที่หน้าประตูของห้องพักนั้นมีผ้ายันต์อะไรสักอย่างสีแดงๆแปะเอาไว้หน้าห้อง แล้วบริเวณหน้าห้องนั้นยังแถมด้วยถาดอาหาร แก้วน้ำ ขนม วางเอาไว้เยื้องๆกับประตูหน้าห้อง อินก็คิดในใจ สงสัยเจ้าของเก่าเค้าอาจจะเป็นคนกลัวผีมากก็ได้ แล้วอินก็เอากุญแจไขไปที่ลูกบิดของประตูเพียงแต่ว่าประตูมันไม่เปิดออก แต่ว่าลูกบิดนั้นสามารถหมุนได้ เหมือนกับว่าประตูห้องถูกล็อคด้วยกลอนจากด้านใน อินก็เริ่มที่จะแปลกใจ เนื่องจากอาจารย์ผู้ดูแลตึกเก่าบอกว่าจะให้ไปนอนที่ห้องว่าง แต่นี่ลักษณะเหมือนกับว่ามีคนอยู่ล็อคกลอนจากด้านใน อินก้มลงมองดูที่กุญแจหมายเลขนั้นก็ตรงกับหมายเลขที่ประตู

ตอนนั้นอินคิดว่าที่นี่น่าจะมีคนย้ายเข้ามา อยู่ก่อนแล้ว โดยที่อาจารย์ผู้ดูแลตึกเก่าไม่ทราบ คิดเอาว่าเดี๋ยวลงไปหาอาจารย์ที่ดูแลตึกนี้แล้วขอห้องใหม่จะดีกว่า พออินหันหลังกลับกำลังจะถอยออกจากห้องนั้น ก็ได้ยินเสียงไขกลอนดัง แกร๊ก แล้วก็มีคนเปิดประตูออกมา คนที่ว่านั้นคือผู้หญิงคนหนึ่ง เขาเรียกอินแล้วก็ถามว่า "เธอๆ ไขประตูห้องเราทำไม" อินก็เลยเล่าเรื่องคร่าวๆให้ฟังว่าต้องมาพักชั่วคราวที่ตึกนี้แต่ไม่รู้ว่ามีคนอยู่ก่อนแล้ว งั้นเดี๋ยวจะลงไปหาอาจารย์ขอเปลี่ยนห้องใหม่ก็ได้ แต่ว่าผู้หญิงเจ้าของห้องนั้นก็บอกว่า "เอาอย่างนี้ ไม่เป็นไรหรอก มาพักกับเราก็ได้เพราะว่าเราก็พักอยู่คนเดียว" อินก็เลยตอบตกลงทันที เพราะว่าไม่อยากไปกวนอาจารย์อีกครั้ง แล้วอินก็ค่อยๆย้ายของเข้าไปในห้องห้องนั้น ระหว่างที่ย้ายของอยู่นั้นอินก็ได้แนะนำตัว แล้วก็ถามชื่อของเจ้าของห้องว่าเธอชื่ออะไร เจ้าของห้องนั้นบอกว่าเธอชื่อน้ำ ระหว่างที่กำลังเก็บ ข้าวของอยู่นั้นทั้งสองคนก็คุยกันไปเรื่อย น้ำนั้นเรียนอยู่ชั้น ม.6 พออินจัดข้าวของเสร็จ จัดที่นอนเสร็จ ก็เลยถามกับน้องน้ำว่า "จะเข้านอนหรือยัง อินขอทำการบ้านต่ออีกหน่อยได้ไหม เนื่องจากพรุ่งนี้ต้องส่ง" น้ำก็บอกว่า "เอาเลย ตามสบาย คืนนี้น้ำไม่นอนหรอก" อินก็งง ทำไมตอบแบบนั้น 


ขออธิบายลักษณะของน้ำสักเล็กน้อย น้ำนั้นเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ผิวขาว หน้าตาดี ผมยาวถึงบ่า น้ำเป็นคนสวยมาก แต่ว่าเวลาที่น้ำพูดนั้นน้ำเสียงของเธอจะฟังดูเย็นชา พูดแบบเหมือนกับเสียงนั้นไม่ได้ออกมาจากปาก เหมือนกับมันก้องอยู่ในลำคอ เวลาผ่านไปสักครู่อินก็ทำการบ้านจนเสร็จ ซึ่งในระหว่างนั้นน้ำก็นั่งเล่นคอมพิวเตอร์ อยู่ข้างๆ เวลาในขณะนั้นเข้าสู่ช่วง 4 ทุ่มแล้ว อินทำการบ้านเสร็จก็หันไปมองน้ำเธอก็ยังเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ อินเลยบอกว่า "น้ำงั้นขอตัวนอนก่อนนะ" น้ำก็บอกให้อินนอนก่อนได้เลย ส่วนตัวเธอเองขอคุยกับแฟนก่อน อินก็เลยล้มตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้า หลับไปได้สักพักหนึ่งก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้น เนื่องจากเสียงโทรศัพท์ของน้ำนั้นดังขึ้น ก็เลยได้ยินเสียงของน้ำรับโทรศัพท์ เดินออกไป

คุยที่นอกระเบียง น่าจะคุยกับแฟนของเธอเอง เวลาก็ผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงนั้นก็เริ่มที่จะดังขึ้นเหมือนกับว่าทั้งคู่กำลังทะเลาะกัน จับใครความได้บางส่วนว่าน้ำนั้นน่าจะกำลังท้องอยู่ อินก็ไม่ได้สนใจอะไรเนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัว อินกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วก็ได้ยินเสียงน้ำเปิดประตูระเบียง เดินเข้ามา เธอกำลังร้องไห้ น้ำมายืนอยู่เบื้องหน้าของอินพร้อมกับร้องไห้หนักมาก เธอพูดออกมาเบาๆว่า หลังจบประโยคน้ำก็เดินไปเปิดประตูระเบียง แล้วเธอก็กระโดดลงไป ตอนนั้นอินตกใจจนตื่น ถึงกับช็อค ง"เดี๋ยวเรามานะเพื่อนใหม่" งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก

นั่งตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาได้แป๊บเดียวเท่านั้น พอรู้สึกตัวก็รีบวิ่งลงไปชั้นล่างเพื่อจะบอกอาจารย์ว่าเพื่อนร่วมห้อง กระโดดลงไป อินกำลังวิ่งลงไปจนกระทั่งกำลังจะถึงชั้น 1 อินก็ต้องหยุดวิ่งเพราะสิ่งที่อินเห็นนั้นก็คือ น้ำ ที่เมื่อสักครู่นี้ทิ้งตัวลงไปจากระเบียงชั้น 5 กำลังเดินสวนขึ้นมา ทั้งตัวนั้นเต็มไปด้วยเลือด น้ำแหงนหน้าขึ้นมามองอินแล้วก็พูดกับอินว่า "จะไปไหน น้ำบอกเดี๋ยวกลับไปไง"

แค่นั้นเองอินรู้แล้วว่าเธอกำลังเผชิญอยู่กับอะไร อินทรุดตัวนั่งลงตรงหน้าแล้วก็ร้องกรี๊ดเสียงดังมาก เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบได้ จากความรู้สึกของอินนั้นรู้สึกว่ามันยาวนานมาก อินมารู้สึกตัวอีกทีก็ต่อเมื่ออาจารย์วิ่งมาเขย่าตัวของอิน และคนที่อยู่ในหอก็ออกมามุงดูกันเยอะแยะไปหมด อาจารย์ก็เลยถามว่า "เกิดอะไรขึ้น" แต่ว่าตอนนั้นอินไม่มีสติพอที่จะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ใครฟังได้เลย แล้วอาจารย์ก็พาอินไปนอนพักที่ห้องของอาจารย์ก่อน 

พอสติกลับมาทั้งหมด อินก็เลยเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับอาจารย์ฟัง อาจารย์ก็ยังถามอีกว่าอินนั้นได้ไปอยู่ที่ห้องไหน อินตอบกลับไปว่าห้อง 5016 อาจารย์จึงถามอีกครั้งว่า "แน่ใจนะ" อินบอกว่า "แน่ใจ เพราะเป็นห้องที่มีผ้ายันต์แปะอยู่หน้าประตู" อาจารย์ได้ยินแบบนั้นก็มีสีหน้าที่ตกใจมาก แล้วก็บอกกับอินว่า "ห้องนั้นมันห้อง 5017 ไม่ใช่ 5016" อินตกใจแล้วก็บอกว่าอินแน่ใจเนื่องจากก้มลงมองตัวเลขที่กุญแจ พร้อมกับมองตัวเลขที่ประตู อาจารย์ผู้ดูแลเธอก็เลยถามว่า "มันใช้ห้องที่มีกับข้าว น้ำ ขนม วางอยู่เยื้องๆหน้าห้องใช่ไหม" อินตอบไปว่าใช่ อาจารย์ก็เลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังว่า "กับข้าวและนำพวกนั้นอาจารย์เอาไปวางไว้ทุกวันเอง เนื่องจากเคยมีนักเรียนที่เคยอาศัยอยู่ ในห้องนี้ได้โดดตึกเสียชีวิตไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว" พูดจบอาจารย์ก็เดินไปค้นเอกสารในห้องแล้วมาให้อินดู รูปนั้นก็คือรูปของน้ำ คนเดียวกันแน่นอน เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงเพียงเท่านี้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ