ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

“ใครตามกลับมา!!” เรื่องผีจากหาดแม่รำพึง


เรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้เกิดขึ้นประมาณปีที่แล้ว ตอนนั้นเราไม่แน่ใจว่าเราอยู่ม.5 เทอมหนึ่งหรือเทอมสอง แต่เราจำได้ว่าวันนั้นนัดทำบุญกับเพื่อนอีกห้าคน รวมเราด้วยก็เป็นหกคนพอดี พอทำบุญเสร็จก็ไม่รู้จะไปไหนกันต่อ เลยชวนกันว่าไปหาดแม่รำพึงกันไหม นั่นแหละค่ะก็เป็นต้นกำเนิดของเรื่อง

เรากับเพื่อนขี่มอเตอร์ไซค์กันไปเอง เหนื่อยมากเพราะระยะทางมันไม่ใช่น้อยๆ ไปได้ครึ่งทางแทบอยากจะกลับเลยค่ะ ตอนไปถึงหาดก็ยังไม่มีอะไร แต่พอกลับบ้านมาเรื่องแปลกๆ ก็เกิดขึ้นกับเรา แต่ไม่ใช่ในวันเดียวกันนะคะ...วันนั้นเราอาบน้ำอยู่ แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูห้องน้ำ เราก็นึกว่าแม่เรามาเคาะ
นึกว่าแม่ปวดฉี่ทนไม่ไหวแล้วอะไรประมาณนั้น คือมันมีเสียงเหมือนคนพูดนะ แต่เราฟังไม่ได้ศัพท์ว่าเขาพูดว่าอะไร เราเลยตะโกนบอกไปว่า แปบนึงแม่ แล้วก็รีบอาบต่อ แต่ก็มีเสียงเคาะอีก เราเลยปิดฝักบัว แล้วเอาผ้าเช็ดตัวมาพันตัว จะให้แม่เข้าห้องน้ำก่อน แต่พอเปิดประตูออกมา ไม่มีใครค่ะ เราเลยเดินไปหน้าห้องแม่ แม่ก็ปิดประตู แอร์ข้างในก็เย็น แม่ไม่ได้ออกมานอกห้องเลย...เราเลยตะโกนถามแม่ว่าแม่มาเคาะประตูห้องน้ำเหรอ ได้ยินเสียงแม่ตะโกนตอบว่า ไม่ได้เคาะ เราก็เลยงงๆ แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร ไปอาบน้ำต่อค่ะ แล้วก็ในเวลาไล่เลี่ยกันเนี่ยแหละ เราจำไม่ได้ว่ากี่วันหลังจากนั้น

คือตอนนั้นเราคอลสไกป์กับแฟนเก่าอยู่ ก็คุยกัน สนุกสนาน สักพักเราก็หัวเราะ แฟนเก่าเลยบอกว่าแม่ดุแล้ว เราก็งงๆ นะคะนึกว่าเขาจะเล่นมุขตลก แต่พอถามไปถามมาเขาบอกว่าเขาได้ยินเสียงคนพูดว่า อย่าเสียงดัง...ตอนนั้นเราขนลุกวาบเลยค่ะ ใจสั่นเลย เราเลยงอแงแฟนเก่าเราไปว่าเรากลัว อย่าเล่นแบบนี้นะ เขาก็ยืนยันว่าได้ยินจริงๆ พอเราบอกว่าแต่แม่เข้าห้องแม่ไปแล้วนะ ตอนนั้นแฟนเก่าเราทำหน้าเอ๋อเลยค่ะ งงไปเลย จนเราจะร้องไห้...เขาถึงบอกว่าเขาแกล้งเล่น แต่ลึกๆ เราก็รู้แหละ ว่ามันพูดจริง แต่บอกงั้นเพราะไม่อยากให้เรากลัว ตั้งแต่วันนั้นเราก็เริ่มหลอน เวลาอาบน้ำจะได้ยินเสียงคราง อือ อือ อือ อย่างนี้ตลอดเลยค่ะ กลัวมากๆ เล่าให้แม่ฟังแม่ก็บอกว่าคิดมาก เจ้าที่บ้านเราก็มี จะมีผีได้ไงอะไรประมาณนี้
แต่ช่วงนั้นเราหลอนไปเลยอะ กลัวสุดๆ จนมาวันนึง เราเผลอหลับตอนประมาณ ห้าโมง หกโมงเย็น
จำได้ว่าช่วงเวลานี้แต่ไม่แน่นอนว่าเวลาไหน อยู่ดีๆ ก็ขยับตัวไม่ได้ ตะโกนเรียกใครก็ไม่ออก

ทั้งๆ ที่ความรู้สึกเรามันเหมือนตะโกนสุดเสียงแล้วอะ ท่องบทสวดมนต์ในใจยังไงก็ไม่หาย มันทรมานมาก หนักอกไปหมดเลย เราพยายามลืมตา แต่เหมือนมันลืมมาได้ครึ่งนึงอะ แบบเหมือนตาเราโดนกดแล้วยังพยายามจะลืม แต่พอเราลืมตาเราก็เห็นใครไม่รู้นั่งอยู่ข้างๆ เรานี่แทบจะร้องไห้เลย แต่เราไม่เห็นหน้าเขานะคะ เห็นแค่ว่าใส่ชุดสีเทาเป็นคล้ายๆ ชุดคลุมคนท้องแต่เขาท้องไม่โตนะ นั่งเหมือนนั่งหันหน้ามาทางเรา เล่าตอนนี้ขนลุกขึ้นมาเฉย กลัว เราจำไม่ได้ว่าเราหลุดจากอาการตัวแข็งมาได้ไง แต่พอเราลืมตาได้เต็มที่เราก็ดีดตัวลุกขึ้น และเขาก็ไม่อยู่แล้ว เราหยิบโทรศัพท์มารัวแชทหาเพื่อนเลยค่ะ บอกเพื่อนว่าไม่ไหวแล้ว กลัวมากๆ จะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว ทีนี้เพื่อนเลยมาคิดกันว่าทำไมจู่ๆ ถึงมีใครมาตามเรา มีเพื่อนคนนึงถามว่า ตอนไปหาดแม่รำพึงได้ไปทำอะไรรึป่าว เราก็บอกเราป่าวนะ

เราก็ใช้ชีวิตปกติไม่ได้ไปด่าไปทออะไรใครเลย มันก็เลยถามต่อ ได้ไหว้ศาลมั้ย เรางงเลยค่ะ ศาลอะไร เพื่อนก็บอก ก็ตรงที่จอดรถมันมีศาล เรานึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าศาลอะไร แต่พอถามเพื่อนทุกคนที่ไปมันไหว้กันหมดค่ะ เราโกรธตัวเองมาก ณ จุดๆ นั้น พอเราเล่าเรื่องนี้ให้แม่เราฟัง แม่กับแฟนแม่ก็ยังไม่เชื่อเราอยู่ดี แต่พอเห็นเราไม่สบายใจ แม่เลยบอกให้เราตื่นเช้า ไปซื้อกับข้าวไปทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้เขา ตั้งแต่วันนั้นมา ก็ไม่มีใครมาเคาะประตูห้องน้ำ ไม่มีเสียงอือ อือ อือ แล้วค่ะ เราไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกันหรือเปล่ากับศาลนั้นแต่ตั้งแต่นั้นมา เราก็เป็นคนมืออ่อนค่ะ เจอใครไหว้หมดเลย 555

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://pantip.com/topic/35780550
ขอบคุณ : เรื่องผีๆ-สาระดีๆ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ