เรื่องนี้ประสบการณ์ตรงเลย จำได้ว่าตอนนั้นเราเรียนอยู่แค่ ป.3 เอง แต่เหตุการณ์นั้นยังจำฝังใจจนทุกวันนี้!!!...มีอยู่วันหนึ่งเป็นวันศุกร์ ตอนนั้นเราเรียนอยู่ในห้องเรียน เป็นชัวโมงหลังพักเที่ยง คุณครูก็บอกว่าพ่อเรามารับกลับบ้าน ให้เก็บกระเป๋าไปหาคุณพ่อที่ห้องประชาสัมพันธ์ได้เลย เราก็ดีใจมากที่ได้กลับก่อน ก็รีบเก็บกระเป๋าใหญ่เลยพอมาเจอพ่อ พ่อก็บอกว่าจะพาไปต่างจังหวัด เราก็ถามว่าจังหวัดไหน เพราะใจคิดว่าจะไปเที่ยวถ้าเป็นพัทยาหรือบางแสนก็คงดี พ่อก็บอกว่าไปอยุธยา เราก็นึกภาพไม่ออกรู้แค่ว่าเป็นเมืองเก่า
ระหว่างทางเราก็หลับ จนมาตื่นอีกทีก็คงเข้าเขตจังหวัดอยุธยาแล้วมั้ง เพราะเห็นสถานที่โบราณ พ่อเราก็ขับรถไปอีกนานเลยจนเราทนไม่ไหวเพราะเด็กๆ ไม่ชอบนั่งรถนานก็เลยงอแง พ่อเราก็เลยเล่าว่าได้ติดต่อเช่าพระไว้เป็นพระเก่า เป็นพระดี แต่ต้องเข้าไปลึก เลยชวนเรามาเป็นเพื่อน พอมาถึงที่นัดหมาย เป็นวัดในหมู่บ้านนั้นแหละ หมู่บ้านนี้เข้ามาลึกมาก รอบๆส่วนใหญ่ยังเป็นป่าอยู่เลย พ่อเราก็พาเราขึ้นไปบนศาลาวัด ถามหาคนที่พ่อติดต่อไว้ก็มีคนไปตามให้ คนไปตามก็หายไปนานเป็นชั่วโมง พ่อเราบอกว่าใจเย็นๆ พวกนี้ชอบเล่นตัวกว่าเจ้าของพระจะมาก็เย็นพอดี พ่อเราก็โมโหมาก ถามเลยว่าจะขายไม่ขาย เพราะเย็นมากแล้วเงินก็เอามาพร้อม สุดท้ายก็ขายพ่อก็รับพระมาแล้วพนมมือก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋าเสื้อ แล้วก็ขึ้นรถกลับทันที
ตอนที่ขับรถออกมาก็เริ่มมืดแล้ว และระหว่างก็เป็นป่าทั้งนั้น เราก็กลัวเพราะบรรยากาศสองข้างทางเป็นป่ารกหญ้าขึ้นสูง แต่อยู่ดีๆพ่อเราก็ชะลอรถ ยังไม่จอดนะ แต่ยังแล่นช้าๆ เราก็ยกตัวขึ้นดูกระจกหน้า เห็นคนแก่สูบบุหรี่ ใส่กางเกงขาสั้นสีดำ-เทา เสื้อเชิ้ตลายสีครีมแต่เลอะฝุ่นจนดำมาก ยืนโบกรถช้าๆ พ่อเราก็ลดไฟหน้าลงให้เราหมุนกระจกลง ได้กลิ่นบุหรี่แรงมาก พ่อเราก็ถามว่าจะไปไหน ลุงก็บอกว่าจะเข้าเมือง เสียงของลุงคนนั้นแห้งๆ แห้งมากๆ พ่อเราเลยให้ขึ้นรถมา แกก็ทิ้งบุหรี่ ตอนนั้นเราไม่กลัวเพราะมากับพ่อ
พอรถเริ่มแล่นพ่อเราก็ชวนลุงคุย แกบอกว่าชื่อเกิด เดินมาจากหมู่บ้านที่พ่อเราขับออกมา แต่แบบถามคำตอบคำ ตอบช้าๆ ขับมาเรื่อยๆเราก็มองหน้าพ่อรู้แล้วว่ามีอะไรแปลกๆ พ่อเราก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อหยิบพระออกมาจากกระเป๋าเสื้อส่งให้เรา พระองค์นั้นสีดำ มีรอยหักบิ่นด้วย เราก็เอามาถือไว้แน่นแลย เสียงแห้งๆ ก็ถามมาจากเบาะหลัง จนเรายังไม่กล้าหันไปมองเลย ถามว่าพระอะไรเหรอไอ้หนู เราก็ยกเปิดให้ดู แกก็ว่าให้เก็บไว้ในลิ้นชักตรงหน้าเราซิเดี๋ยวหาย พ่อเราก็ส่ายหน้าเล็กๆ เราก็กุมไว้ในมือแน่นเลย
ซักพักมีกลิ่นบุหรี่เต็มรถเลยกลิ่นแรงมากๆเหมือนมีคนสูบบุหรี่อยู่ พ่อเราก็ขับรถเร็วขึ้นจะได้ถึงตัวเมืองเร็วๆ อยู่ดีก็มีเสียงบอกว่า "หยุด...อย่าไป" เข้ามาในสมองเราคือ ดังอยู่ในสมองไม่ได้ผ่านหูเลย เราก็มองหน้าพ่อ พ่อก็ขับรถเฉยๆ เราก็เริ่มกลัวแล้วหลับตาปี๋เลย ซักพักก็มาอีกแล้ว "หยุด...อย่าไป" เราก็บอกพ่อหยุด พ่อก็เบรก เสียงมาจากเบาะหลังบอกว่าหยุดทำไมรีบขับไป พ่อเรามองเราก็ขับไปต่อ คราวนี้ยิ่งขับเร็วกว่าเดิมอีก
กลิ่นบุหรี่ก็ยังคลุ้งอยู่ บรรยากาศในรถเงียบมากทางก็มืด ความรู้สึกน่ากลัวแผ่มาจากเบาะหลัง วินาทีนั้นเสียงนั้นก็ดังขึ้นในหัวอีก "หยุด...อย่าไป" คราวนี้ดังมาก จนเราตะโกนบอก "พ่อหยุด!!" พ่อเราเหยียบเบรกรถไถลหยุดสนิท เสียงรถไฟดังกระหึ่ม เชื่อมั้ยภาพตรงหน้าคือรถไฟกำลังวิ่งผ่านหน้ารถพ่อเราห่างกันไม่ถึงไม่ถึง 2 เมตร ถึงตอนนี้กลิ่นบุหรี่ไม่มีแล้วและก็ไร้วี่แววของลุงเกิดที่เบาะหลัง น้ำตาเราไหลพรากเลย เล่าให้พ่อฟังว่ามีคนตะโกนให้หยุด พ่อเราก็บอกว่าพระท่านช่วย พ่อเล่าว่าตอนที่พ่อเราส่งพระให้ เขามองกระจกหลังเห็นลุงเกิด บางทีก็หาย บางทีก็มีเลือดออก ก็เลยจะรีบขับให้ถึงตัวเมืองไวๆ
อีกวันเป็นวันเสาร์ พ่อเราก็ชวนเราไปที่วัดที่ไปเอาพระมา ถามหาคนชื่อลุงเกิดก็มีคนพาเดินไปข้างหลังกำแพงที่มีช่องๆ เขาชี้ที่ช่องหนึ่งที่ถูกปิดด้วยกระเบื้อง ที่กระเบื้องมีรูปลุงเกิดอยู่เราจำได้แม่นเลย เขาก็เลยเล่าว่าลุงเกิดติดบุหรี่ชอบฝากคนนู้นี้ชื้อบุหรี่จากในเมืองแล้วไม่ชอบจ่ายเงิน จนชาวบ้านไม่รับฝากแกก็งอน คำวันหนึ่งแกก็เดินเข้าเมืองไปเองออกไปตอนใกล้จะมืดแล้ว เจออีกทีตำรวจก็มาแจ้งว่าแกเดินท่าไหนไม่รู้ ถูกรถไฟชนตาย...
Credit : คุณ Balue
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น