ผมขอเท้าความของเรื่องนี้ก่อนนะครับ ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดแล้วต้องเข้ามาเรียนในกรุงเทพดังนั้นผมก็เลยต้องเช่าหอพักอยู่ครับ ในช่วงปีหนึ่ง ผมอยู่หอคนเดียวครับ ก็ไม่ได้รู้มาก่อนหรอกครับว่าหอนี้มีอะไร จนกระทั่งผมขึ้นปี 2 ก็มีเพื่อนคนหนึ่งย้ายเข้ามาเรียนที่สาขาเดียวกันกับผม เพื่อนของผมคนนี้ชื่อ “บอย” ครับ เราสองคนสนิทกันมากเลยทีเดียว
วันหนึ่งผมก็คิดได้ว่าการอยู่หอคนเดียว มันเป็นการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก ผมจึงตัดสินใจชวนบอยเข้ามาอยู่ด้วยกัน แชร์ค่าห้องกัน หลังจากที่อยู่ด้วยกันไปสักพัก บอยก็มีแฟนครับ ด้วยความที่ผมไม่อยากไปกวนบอย ผมก็เลยตัดสินใจย้ายออกมา เพราะคนมีแฟน ผมก็คิดว่าเค้าก็คงอยากจะอยู่กับแฟนเค้า ผมย้ายออกมาอยู่หออื่นในซอยถัดไปจากซอยเดิม ตลอดเวลา 3-4 เดือนที่ผมย้ายออกมา คู่ของบอยกับแฟนก็แลปกติดี จนกระทั่งเข้าเดือนที่ 5 ทั้งคู่เริ่มมีปากเสียงกัน ทะเลาะกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งสาเหตุก็เรื่องเดิมๆคือ ฝ่ายหญิงคิดว่าบอยแอบไปมีผู้หญิงคนอื่น การทะเลาะกันของทั้งคู่บ่อยมาก จนเป็นสาเหตุในฝ่ายหญิงตัดสินใจกระโดดตึกฆ่าตัวตาย หลังจากคืนวันที่แฟนของบอยกระโดดตึกตาย เช้าวันรุ่งขึ้น ผมและเพื่อนก็พบกับบอยที่คณะ ในตอนนั้นเองผมยังไม่รู้ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เพียงแต่ผิดสังเกตว่าทำไมแฟนบอยถึงไม่มาด้วย เมื่อผมถาม บอยก็อึกอักไม่ยอมตอบ จนเพื่อนๆเริ่มเค้นหาความจริง บอยจึงตัดสินใจเราให้พวกเราฟัง
บอยเล่าเหตุการณ์ให้ผมฟังว่า ในคืนนั้นเราก็ทะเลาะกัน นอนหันหลังให้กัน ประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ จู่แฟนของบอยก็ลุกขึ้น แล้วเดินไปเปิดประตูกระจกเพื่อออกไปด้านนอกระเบียง ด้วยความที่ห้องน้ำอยู่ด้านนอกและต้องเปิดประตูกระจกออกไปเพื่อไปเข้าห้องน้ำ บอยจึงไม่ได้เอะใจอะไร บอยคิดว่าแฟนของเค้าคงจะลุกไปเข้าห้องน้ำ… แต่เหตุการณ์มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น แฟนของบอยเปิดประตูกระจกแล้วพุ่งตัวไปกระโดดตึกทันที พวกผมที่ได้ฟัง ผมก็นึกว่าบอยทะเลาะกับแฟน ก็เลยแต่งเรื่องมาอำพวกเราเล่น เพราะพวกเราไม่เชื่อสิ่งที่บอยเล่าให้ฟัง บอยจึงบอกให้พวกเราไปที่ซอยหอของบอยดู เรื่องเมื่อคืนดังมากจริงๆ เพราะเมื่อพวกเราเดินเข้าไปในซอย ก็มีเสียงคนคุยกันเรื่องเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ตั้งแต่ร้านข้าวร้านแรกไปจนตลอดทาง ซึ่งตอนนั้นผมเชื่อแล้วครับว่าบอยเล่าเรื่องจริง หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไป บอยยังคงใช้ชีวิตอยู่ที่ห้องเดิม ด้วยความที่ติดสัญญาค่าเช่า และตัวบอยเองก็ไม่ได้คนมีเงินมากมายอะไร ในคืนแรก…..ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น แต่พอคืนที่ 2! บอยเห็นแฟนของบอยเองนอนตะแคงเอามือเท้าคออยู่บนหลังตู้เสื้อผ้า แล้วยิ้มให้บอย! ส่วนตัวแล้วบอยเป็นคนไม่กลัวผี และผีที่เห็นก็คือแฟนของบอยเองที่เสียชีวิตไป บอยจึงไม่ได้หวาดกลัวมาก
คืนที่ 3 เธอขึ้นมายืนบนเตียงแล้วโก้งโค้งมองบอยนอนหลับ แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงช้าๆว่า “บอย… ไปอยู่ด้วยกันมั๊ย ?” บอยตอบปฏิเสธเธอไปว่าไม่ไปหรอก ยังเรียนไม่จบ และอีกหลายๆคืนต่อจากนั้น บอยก็ยังเล่าอีกว่าบอยมักจะโดนรบกวนเสมอๆ เช่นดึงขาเวลานอนบ้าง ดึงผมตอนอาบน้ำบ้าง ซึ่งบอยรู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้ว บอยจึงเอาเรื่องนี้มาปรึกษาพวกผม ผมจึงพาบอยไปวัดแห่งหนึ่งเพื่อพบหลวงพ่อ แต่ตอนนั้นหลวงพ่อไม่อยู่ แต่ก็มีเหมือนหมอที่พอมีวิชา เข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น และพวกเราก็เลยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง หมอท่านนั้นแนะนำว่าให้บอย ลงไปนอนใต้เตียงเป็นเวลา 7 วัน ก็คือหลังจากเรียนเสร็จกลับมา ให้บอยนอนใต้เตียงทันที ไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไรก็ห้ามออกมาจากใต้เตียง
ตลอดระยะเวลา 3 วันแรก ผมก็มาดูบอยเรื่อยๆครับ ก็เห็นมันนอนใต้เตียงจริงๆ ปกติดีไม่มีอะไร จนเข้าวันที่ 4 ซึ่งเป็นวันสอบปลายภาค ผมแปลกใจมากที่บอยไม่มาสอบ ซึ่งปกตินักศึกษาไม่ขาดสอบอยู่แล้ว เย็นวันนั้นประมาณ 6 โมงเย็น ผมและเพื่อนตัดสินใจไปที่ห้องของบอย แต่พวกผมก็เข้าไปในห้องไม่ได้เพราะลูกบิดล็อคอยู่ ผมรู้ดีว่าตอนนี้บอยอยู่ในช่วงทำพิธีอะไร ดังนั้นก่อนหน้านี้ผมจึงบอกบอยว่าอย่าล็อคประตูห้องเป็นอันขาด แต่ในเมื่อวันนี้ลูกบิดมันล็อค ผมจึงเรียกแม่บ้านให้ช่วยไขกุญแจเปิดประตูห้องของบอยให้หน่อย เมื่อเปิดประตูเข้าไป ห้องนี้มีแต่ความมืดเนื่องจากตอนนั้นเป็นเวลาเย็นแล้ว และห้องก็ปิดม่านเอาไว้หมด กลิ่นเหม็นตลบอบอวลอยู่ในห้อง แม่บ้านเดินเข้าไปในห้องเป็นแรก แต่แล้วแม่บ้านก็สะดุดเข้ากับแขนของใครคนหนึ่งจนเกือบล้ม ผมประคองแม่บ้านไว้ได้ แต่ผมก็ต้องพบว่าแขนที่แม่บ้านสะดุดนั้น เป็นแขนของบอยที่นอนอยู่ใต้เตียง พวกผมรีบยกเตียงขึ้น ภาพที่เห็นคือบอยนอนลิ้นจุกปาก แขนกางออกมาข้างนอก ที่คอมีรอยแดงรอบเหมือนโดนบีบคอ วินาทีนั้นผมคิดถึงหมอคนนั้นที่บอกให้เพื่อนผมนอนใต้เตียงเจ็ดวันแล้วจะรอด ทำไมมันเป็นแบบนี้ล่ะ!
ผมตัดสินใจนั่งแท็กซี่ไปในคืนนั้นเพื่อพบกับหมอคนนั้นทันที ผมจะไปถามให้รู้เรื่องไปเลยว่าทำไมผลถึงออกมาเป็นแบบนี้! เมื่อผมพบกับหมอ แล้วก็ถามหมอไป หมอถามกลับมาว่าตอนที่ผู้หญิงคนนั้นกระโดดตึก เธอลงมาในสภาพไหน ด้วยความที่ผมไม่ทราบ ผมเลยโทรหาแม่บ้านเพราะแม่บ้านเค้าเห็นเหตุการณ์ ซึ่งแม่บ้านบอกว่าเธอเอาหัวลง หลังจากทราบคำตอบจากแม่บ้านแล้ว หมอก็บอกกับผมว่า ผู้หญิงเค้ามา เค้าไม่ได้เอาเท้าเดิน เค้าเอาหัวเดิน เดินรอบเตียงเลย คือเอาหัวไถๆมากับพื้น เค้าเลยเห็นบอยนอนอยู่ใต้เตียง เค้าเลยเอาบอยไปเลย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น