ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

โค้งผาแดง...โค้ง100ศพที่ชลบุรี


เหตุการณ์นี้เกินขึ้นที่ชลบุรี เมื่อห้าปีที่ผ่านมา คุณแจ็คได้ไปวิ่งงานที่ชลบุรี และขากลับ ประมาณตีสอง ได้ขับรถผ่านโค้งแห่งนึง ที่ชื่อว่าโค้งผาแดง และทุกๆ ครั้งนี้คุณแจ็คจะขับรถผ่านโค้งนี้ จะต้องชะลอรถทุกครั้ง เพราะเนื่องจากเป็นโค้งที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก 


ก่อนจะถึงโค้งมันจะเป็นทางตรง แล้วจะมีโชว์รูมรถอยู่โชว์รูมนึง ระหว่างนั้นคุณแจ็คชะลอรถแล้ววิ่งเลนซ้าย แล้วก็มีรถวิ่งแซงขึ้นมาทางเลนขวา รถที่วิ่งมาทานเลนขวาอยู่ดีๆ ก็หักรถตกลงไปในล่องกลางถนน

คุณแจ็คเห็นแบบนั้นก็งงมาก ก็คิดว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่คุณแจ็คก็ได้ขับรถผ่านไป เพราะตอนนั้นบนถนนมันมีแค่รถของคุณแจ็คกับรถคันที่คว่ำอยู่ จึงไม่กล้าจอด พอกลับไปถึงกรุงเทพ คุณแจ็คก็ได้มานั่งคิดว่า คนเมื่อคือเค้าจะเป็นอะไรหรือป่าว ตกอีกวันนึง คุณแจ็คก็กลับไปที่ชลบุรีอีก และขากลับประมาณตีสองเวลาเดิม คุณแจ็คบอกกับตัวเองว่า ถ้าวันนี้เจออีก แสดงว่าโค้งนี้มีจริง คุณแจ็คก็ขับรถมาเรื่อยๆ ก่อนถึงโค้งก็ชะลอรถอยู่ที่เลนซ้าย ก็ได้มีรถแซงขึ้นมาจากเลนขวา คิดว่าน่าจะขับอยู่ที่ร้อยยี่สิบ ปรากฏว่าพอเค้าขับมาจนใกล้จะถึงโค้ง อยู่ดีๆ รถก็แฉลบเข้าตรงกลางแล้วก็ตกลงไปในลองกลางถนน คุณแจ็คตกใจมากแล้วคิดว่ามันคืออะไร ทั้งๆ ที่ก็เห็นอยู่ว่าขับมาดีๆ แล้วโค้งแห่งนี้เป็นโค้งที่แปลกมาก บางวันมีไฟ บางวันไม่มีไฟ จนถึงทุกวันนี้ แล้วเรื่องก็ผ่านไปสามปี

ปรากฏว่ามีเพื่อนของคุณแจ็คคนนึง ได้นั่งรถมากับคุณแจ็ค เพราะคุณแจ็คทำงานเป็นเซลขายรถ เลยต้องวิ่งไปกลับอยู่บ่อยๆ และก่อนที่จะผ่านโค้งนี้ เพื่อนก็ถามคุณแจ็คว่าศาลข้างหน้านั่นคือศาลอะไร คุณแจ็คก็ตอบว่าโค้งเนี่ย จะมีเสือใหญ่อยู่ แล้วที่มีหนังทุกวันนี้ก็เพราะคนเค้าบนแล้วได้ แล้วเค้าก็มาแก้บนกัน เพื่อนของคุณแจ็คก็ได้พูดขึ้นมาว่า “ถ้าภายในสองปีนี้ ข้าได้เป็นผู้จัดการนะ ข้าจะเอาเลือดมาถวายให้โค้งนี้” คุณแจ็คก็ถามกลับว่า “เอ็งจะเอาเลือดที่ไหนไปถวาย” เพื่อนก็ตอบว่า “เลือดข้าเนี่ยแหละ”

หลังจากนั้นประมาณปีนึง เพื่อนของคุณแจ็คก็ได้เป็นผู้จัดการจริงๆ คุณแจ็คงงมาก อายุยี่สิบแปดก็ได้เป็นถึงผู้จัดการแล้ว แล้วมีอยู่วันนึง แฟนของเพื่อนก็ได้โทรมาบอกว่า “พี่แจ็คๆ พี่โอ๋รถคว่ำ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลที่ชลบุรี” ซึ่งก็คือเพื่อนของคุณแจ็คที่เป็นผู้จัดการ พอคุณแจ็ครู้เรื่อง อีกวันนึกก็ได้ไปหา แล้วถามกับเพื่อนว่า เรื่องมันเป็นมายังไง เพื่อนก็ไม่พูดอะไรเลย แต่คุณแจ็คก็สังเกตได้ว่า เพื่อนอยากบอกอะไรบางอย่างกับคุณแจ็ค พอถึงวันที่ออกจากโรงพยาบาล

คุณแจ็คก็ได้มารับเพื่อนกลับกรุงเทพ ระหว่างที่นั่งรถกลับ เพื่อนก็พูดขึ้นมาว่า “แจ็ค ข้ามีเรื่องอยากเล่าให้ฟัง วันนั้นขากลับจะไปกรุงเทพ ประมาณสองทุ่ม บนถนนไม่มีรถเลย ก่อนจะถึงโค้งอีกสักประมาณกิโล สองกิโล ข้าก็ขับมาปกติ แต่เห็นคนเดินอยู่สองข้างทางยาวมาก ใส่ชุดขาวชุดดำกันทุกคน แล้ววันนั้นก็ไม่มีไฟทางเลย พอขับมาจนใกล้จะถึงโค้ง หัวแถวที่คนเดินมันเริ่มจะเดินออกมากลางถนนเรื่อยๆ ข้าก็เลยจอดรถ มันเหมือนคนกำลังถือโรงแห่งานศพอยู่ มีเด็กผู้หญิงถือรูปอยู่ข้างหน้า แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นก็หันหน้ามามองข้า จากนั้นก็หันมาทั้งตัว ปรากฏว่าคนในรูปนั่นมันเป็นรูปของข้าเอง ข้ารีบถอยรถทันที แล้วรถมันก็เลยตกลงไปในล่องกลางถนนจนคว่ำ” แล้วคุณแจ็คก็ได้ถามต่อว่ามองเห็นวันมรณะในรูปหรือป่าว เพื่อนก็ได้ตอบกลับมาว่า “วันเกิดข้าอะถูก แต่ข้าไม่เชื่อหรอกว่าข้าจะตายวันที่ยี่สิบเอ็ด ธันวา”

ปรากฏว่าวันที่ยี่สิบ ธันวาคม เพื่อนได้โทรมานัดทุกคนที่รู้จักรวมทั้งคุณแจ็คด้วยว่าพรุ่งนี้ให้มาฉลองกัน จนเวลาสี่ทุ่มของวันที่ยี่สิบเอ็ด ในขณะที่นั่งดื่มเหล้ากันอยู่ เพื่อนก็ได้หยิกขาของคุณแจ็คแล้วพูดว่า “ข้าไม่ตายแล้ว” พอดึกเข้า คนก็เริ่มทยอยกลับ เวลาประมาณห้าทุ่ม สี่สิบ คุณแจ็คก็เลยขอตัว แล้วขับรถกลับ จากนั้นไม่ถึงสิบห้านาที แฟนของเพื่อนก็ได้โทรมาหาแล้วบอกว่า “พี่โอ๋หกล้มในห้องน้ำ หัวไปฟาดกับที่วางสบู่ เลือดออกเต็มห้องน้ำเลย” คุณแจ็คเลยรีบวนรถกลับไปหาเพื่อนทันที

พอไปถึงที่บ้านเพื่อน ก็เห็นพ่อตาของเพื่อนได้อุ้มเพื่อนออกมา ลักษณะคือคอพับ เลือดไหลไม่หยุด คุณแจ็คคิดในใจว่าไม่รอดแน่ จากนั้นก็เอาไปส่งที่โรงพยาบาล แล้วไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ถ้าพูดถึงโค้งผาแดงแห่งนี้แล้ว ในสมัยก่อนมีคนร่ำลือเยอะมาก บางคนเห็นเป็นช้าง ม้า สัตว์ใหญ่บ้าง วิ่งข้ามถนนไปมาๆบ้าง หรือเห็นเป็นลักษณะของหมาดำตัวใหญ่


รวมไปถึงสมัยก่อนที่โค้งนี้ มักจะมีการฉายหนังให้ผีดู เพราะได้มีการบนบานเอาไว้ แรกๆก็มีคนไปดูหนังที่เค้าเอามาฉาย พอระยะหลังๆ คนก็เริ่มรู้ว่าเค้าเอาหนังมาฉายแก้บน คนก็เลยไม่กล้าไปดู จนไม่มีใครไปดูเลยแม้แต่คนเดียว แต่หนังก็ยังถูกฉายอยู่แบบนั้น จนคนเรียกติดปากกันว่า ฉายหนังให้ผีดู เป็นประวัติของโค้งผาแดงเมื่อสมัยสิบปีที่แล้ว

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ