ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

วันเลี้ยงรุ่น คุณบอย THESHOCK


เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อสี่ถึงห้าปีทีแล้ว แถวๆบางปู สมุทรปราการ ระหว่างหลังเลิกงานเลี้ยงรุ่น คุณบอยกับเพื่อนๆได้ตกลงกันว่า เราห้าคน ผู้หญิงสอง ผู้ชายสาม จะไปทานต่อที่บ้านของคุณต้อง ที่อยู่บางปู ที่มีอากาศดีๆ ก็ขับรถกันไปถึงบ้านคุณต้องเที่ยงคืนโดยประมาณ

ลักษณะบ้านจะเป็นบ้านไม้สองชั้น ห้องน้ำจะอยู่นอกบ้าน คุณบอยและเพื่อนๆก็ขึ้นไปนั่งอยู่บนห้องที่มีห้องน้ำอยู่ข้างล่าง ระหว่างที่ทานกันอยู่นั้น ย่าของคุณต้องเจ้าของบ้านก็เดินมาบอกว่า ถ้าจะกินต่อ ก็เสียงเบาๆหน่อย และตอนก่อนนอน ก็ให้ขอพี่เค้าก่อน คือคุณบอยและเพื่อนๆก็เห็นว่ามีแค่ย่ากับคุณต้องแค่สองคนที่อยู่บ้านหลังนี้ จึงไม่เข้าใจคำว่าขอพี่เค้าก่อน หลังจากนั้นพอเลิกทานและเก็บของกัน ประมาณตีสองสี่สิบ ทุกคนนอนหมดแล้ว ผู้ชายก็จะนอนอีกฝั่งนึง คือหันปลายเท้าไปหาผู้หญิงอีกฝั่งนึง ตรงกลางจะเว้นช่องไว้ เป็นช่องทางไว้เดินได้ คุณบอยจะนอนริมหน้าต่างด้านขวา คุณต้องจะนอนอยู่ริมประตูด้านซ้าย

ระหว่างที่คุณบอยเคลิ้มๆหลับ มีมือมาสัมผัสที่ปลายเท้า ลักษณะมือคือเปียกน้ำ สัมผัสที่ปลายเท้าอยู่สองครั้ง คุณบอยจึงหรี่ตาดู ในห้องจะเปิดไฟสีแดงๆ สลัวๆ ก็เห็นเพื่อนๆนอนหลับ เลยไม่ได้สนใจ นึกในใจว่าคงไม่มีใครมาแกล้งมั้ง ก็นอนธรรมดาๆ อีกครั้งนึงก็คือ มาจับที่หัวเข่า เป็นมือเดียวกัน ลักษณะเปียกน้ำ คิดว่าน่าจะเป็นมือซ้าย คุณบอยก็ไม่เอะใจ จนกระทั่งครั้งที่สาม คุณบอยลืมตาขึ้นมาดู แต่ก็ไม่เห็นใครเหมือนเดิม จึงฝืนตาให้หลับต่อ แล้วอีกซักพัก มือนั้นก็จับเข่าของคุณบอยไปกระแทกกับข้างฝา ลักษณะการนอนของคุณบอยคือ ขาซ้ายจะเหยียด ขาขวาจะตั้งชันเข่าขึ้นมา เค้าจับขาซ้ายไปกระแทกกับข้างฝาสามครั้ง ตุ้งๆๆ ทุกคนตกใจตื่นหมด

คุณบอยและเพื่อนๆจึงลุกขึ้นมานั่ง และมองหน้ากัน ก็เฉยๆ แล้วถามว่ามีอะไร คุณบอยบอกว่าเข่าไปกระแทกกับขอบหน้าต่างสามครั้งแล้ว ระหว่างที่นั่งคุยกันอยู่ ไฟก็ดับ ทุกคนตกใจแต่ก็อยู่กันเงียบๆ สักพักนึง เพื่อนก็ลุกขึ้นไปเปิดไฟ ระหว่างที่ลุกขึ้นไปเปิดไฟแล้ว กำลังจะเดินกลับมานั่ง ไฟก็ดับอีก คือทุกคนก็กำลังมองคนที่เดินไปเปิดไฟแล้วเห็นว่า ได้เดินห่างออกมาจากสวิตซ์ไฟพอสมควรแล้ว ไม่ได้เอื้อมมือไปปิดแน่นอน เพื่อนจึงเดินไปเปิดไฟอีกรอบ พอไฟเปิด เห็นผู้หญิงคนนึงยืนอยู่ตรงกลางช่องทางเดินที่คุณบอยและเพื่อนๆเว้นไว้เป็นช่องทางเดิน เป็นผู้หญิงใส่ชุดสีฟ้าคลุมท้อง และหันหน้ามายิ้มให้คุณบอยและเพื่อนๆ ทุกคนหันไปหาคุณต้องเจ้าของบ้าน แต่ตอนนี้คุณต้องถอยหนีไปติดมุมแล้ว และไม่พูดอะไร

จนกระทั้งไฟดับอีกครั้งนึง ผู้หญิงคนนั้นก็หายไป ทุกคนจึงรีบวิ่งกันออกนอกห้อง ลงไปเรียกย่าของคุณต้อง ย่าของคุณต้องก็เลยให้มานอนกันที่กลางบ้าน และยาของคุณต้องก็นอนด้วย ย่าบอกว่าไม่ต้องพูดอะไรมาก นอนก่อน แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน ที่นี้พอตอนเช้า ย่าก็ถามว่า ก่อนนอนก็บอกแล้วใช่มั้ยว่า ถ้าจะกินต่อก็ให้เสียงเบาๆหน่อย แล้วถ้าเกิดจะนอนก็ให้ขอพี่เค้าก่อน คุณต้องก็ไม่ได้พูดอะไรเลยว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แล้วย่าก็ถามว่า ใครไปทำอะไรไว้หรือป่าว พี่เค้าถึงได้มา คุณต้องก็เล่าไปว่า เพื่อนที่ชื่อออฟเนี่ย ยืนปัสสาวะจากหน้าต่างชั้นบนลงไปด้านล่าง สุดท้ายเอะใจกัน อยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร ก็เลยถามย่า ย่าก็เอารูปมาให้ดู เค้าคือพี่ติ๋ม พี่สาวของคุณต้อง เสียชีวิตที่บ้านหลังนี้ ทั้งๆที่กำลังท้องอยู่ ลื่นล้มในห้องน้ำ กว่าจะมาพบศพก็ตอนเย็น แล้วที่บ้านหลังนี้มีเรื่องแปลกอีกเรื่องนึงก็คือ ถ้าเกิดเข้าไปภายในบริเวณรั้วบ้านแล้วหันหน้าเข้าหาประตูบ้าน ด้านซ้ายของรั้วบ้านที่ทำจากไม้ มีต้นไทรอยู่ในบริเวณรั้วบ้าน สูงมาก

หลังจากวันนั้น คุณต้องก็อยู่บ้านไม่ได้ เลยหนีมานอนหอกับคุณบอย และคุณต้องได้เล่าให้ฟังว่า พี่สาวมากวนทุกวันเลย เพราะคุณต้องชอบจิ๊กตังย่าเอาไปดื่ม และปัจจุบันบ้านหลังนั้นก็ร้างแล้ว เพราะว่าย่าของคุณต้องเสีย ของที่อยู่ในบ้านยังอยู่ครบหมด คุณต้องเคยชวนคุณบอยกลับไปที่บ้าน และได้เข้าไปหาผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านบอกว่า ถ้ามาให้มาช่วงเช้า ช่วงเย็นอย่ามา แถวนี้เค้าอยู่กันไม่ได้แล้ว และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด

Credit : MiNi Choco
เล่าโดย คุณบอย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ