ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

นัดสยองในญี่ปุ่น - คุณบูม


วันนี้จะมาเล่าเรื่องสยองที่เกิดขึ้นในต่างแดนกันบ้าง เป็นเรื่องที่ส่งเข้ามาจากคุณบูมครับ คุณบูมเล่าว่า.. เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นครับ ซึ่งเพื่อนสนิทของผมที่เป็นคนญี่ปุ่น มาเล่าให้ผมฟังอีกที เพื่อนผมชื่อเอริ (エリ) นะครับ

ตอนนั้นเป็นช่วงที่เอริเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว ซึ่งจะต้องทำการขนของออกจากหอ เนื่องจากจะย้ายออกแล้ว.. คืนนั้น ระหว่างที่เอริกำลังจัดเก็บของทั้งหมดทั้งมวลลงกล่อง ก็ไปเจอกับมือถือเครื่องเก่าที่ตกอยู่ใต้เตียง เอริก็เอามือถือเครื่องเก่านั้นมาชาร์จแบต แล้วก็เปิดดูรูป ดูข้อความเก่าๆ ที่เคยคุยกับแฟนเก่า.. สักพักนึง มือถือเครื่องปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ ก็มีสายโทรเข้ามา แต่เป็นเบอร์ที่ไม่คุ้น เอริก็รับสาย ปรากฎว่าเสียงปลายสายคือแฟนเก่าของเอริ ที่เอริกำลังเปิดข้อความอ่านอยู่ ซึ่งก็แอบแปลกใจอยู่เหมือนกัน เนื่องจากว่าไม่ได้ติดต่อกันมาตั้งนานหลายปีแล้ว แต่ทำไมเค้าถึงรู้เบอร์เครื่องใหม่ได้? แต่อีกใจก็คิดว่า เค้าคงไปหาเบอร์มาจากเพื่อนๆ ของเอริได้ไม่ยาก..

การสนทนาเป็นไปอย่างสนุกสนาน ต่างคนต่างก็ยังคิดถึงกัน และก่อนจะวางสาย ทั้งคู่ได้นัดไปเจอกันที่สวนสาธารณะในเมือง ที่เมื่อก่อนตอนเป็นแฟนกันเคยไปนั่งเล่นด้วยกันอยู่ประจำ แต่ทางแฟนเก่าของเอริมีข้อแม้ว่า ขอให้เอริใส่หมวกสีแดงใบเก่งที่เอริชอบใส่ประจำ โดยให้เหตุผลว่า ไม่เจอกันนาน กลัวจะจำไม่ได้ แต่ถ้าใส่หมวกนี้แล้วจะจำได้แน่นอน..

พอถึงวันที่ทั้งคู่นัดกัน เอริก็ใส่หมวกใบสีแดงตามที่ฝ่ายแฟนเก่าขอไว้ และไปนั่งรอที่สนามเด็กเล่นระหว่างที่รออยู่ เพื่อนของเอริก็โทรเข้ามาถามว่าอยู่ที่ไหน? เอริก็ตอบว่า ‘อยู่ที่สวนสาธารณะในเมือง นั่งรอแฟนเก่าอยู่..’ ฝ่ายเพื่อนก็เงียบไปพักนึง และพูดตัดบทว่าให้เอริรีบมาที่บ้าน วันนี้จะมีปาร์ตี้กัน แต่ด้วยความที่เอริอยากเจอแฟนเก่ามากกว่า เเละนัดกันไว้ก่อนแล้ว จึงตอบปฏิเสธเพื่อนไป ฝ่ายเพื่อนก็ยังตื๊อให้มาที่บ้านไม่หยุด เอริก็รำคาญ เลยถามไปว่าทำไปถึงอยากให้ไปขนาดนั้น? สุดท้ายเพื่อนเลยบอกให้เอริตั้งใจฟังให้ดีๆ ‘คือว่าแฟนเก่าของเอริน่ะ ถูกรถชนตายไปได้ปีนึงแล้ว! แต่ที่ไม่พูดตั้งแต่แรกเพราะก็กลัวว่าเอริจะกลัว..’

พอวางสายปุ๊บ เอริได้แต่นั่งหน้าชา ในหัวคิดแต่ว่านี่คือเรื่องจริง หรือเพื่อนแกล้งกันแน่? แต่ใจนึงก็กลัว เพราะฟังจากน้ำเสียงของเพื่อนแล้วดูจริงจังมาก เอริเลยตัดสินใจไปบ้านเพื่อนทันที.. โดยขณะที่กำลังจะข้ามถนนเพื่อจะไปขึ้นรถไฟ ข้างหน้าของเอริมีผู้หญิงคนหนึ่งใส่หมวกสีแดง แบบเดียวกับของเอริเปี๊ยบเลย ระหว่างกำลังข้ามถนน ปรากฏว่าผู้หญิงคนนั้นถูกรถตู้พุ่งชนตายคาที่.. เอริ รวมถึงคนแถวนั้นตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก และจังหวะนั้นเองก็มีสายโทรศัพท์เข้าที่มือถือของเอริ เป็นเบอร์แฟนเก่าของเธอเอง เอริรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีกดรับสาย แต่เอริยังไม่ทันจะได้พูดอะไร ปลายสายซึ่งเป็นแฟนเก่าของเอริก็พูดขึ้นมาว่า ‘แย่จังเลยนะ ผิดคน..’ แล้วสายก็ตัดไป

หลังจากนั้นเอริยังไปร่วมงานศพของผู้หญิงคนนี้อยู่เลย ซึ่งเอริคิดเสมอว่า ถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่ใส่หมวกสีแดงเหมือนเธอในวันนั้น คนที่ตายจะต้องเป็นเธอเองเเน่นอน!

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ