ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ประสบการณ์หลอน พระวัดป่า - PANTIP


วันนี้ขออนุญาติยืมล็อกอิน มาเล่าเรื่องหลอน...จขกท.ได้มีโอกาสเข้าไปช่วยงานในสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง  ตกช่วงบ่าย 3 พระที่ท่านอยู่ก็จะมารวมกันทำกิจคือกวาดตาด (กวาดลานวัด) หลังจากนั้นก็จะรวมตัวกันฉันน้ำปานะ พอดีมีพระบวชใหม่ อยากฟังประสบการณ์หลอนจากพระรุ่นพี่ มีพระอาจารย์อยู่ท่านหนึ่ง ท่านเลยเล่าประสบการณ์ตอนไปบำเพ็ญที่วัดป่า..... เขต จ.กาฬสินธ์  เมื่อหลายปีก่อน

จขกท. เคยติดตามพระ ไปเที่ยวดูหนหนึ่ง แต่ไม่ได้ค้างคืน เพราะสภาพพื้นที่ไม่ค่อยน่าภิรมย์ คือขนาดกลางวันนี่ ยังวังเวง ที่นี่แล้วสภาพภูมิศาสตร์ เป็นป่ายาง และ ตะเคียนขนาดใหญ่ 200 กว่าไร่ ตะเคียนมีหลายร้อยต้นแต่ละต้น 2 คนโอบ มีหมู่บ้านล้อมรอบห่างออกไป เวลาบิณฑบาตร ต้องเดินลัดทุ่งนาไปหมู่บ้าน 3 - 4 ก.ม. ภายในวัดแห่งนี้ ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง ต้องพึ่งเทียนกับไฟฉายเป็นหลัก  ตามปกติในภาคอีสานจะมี เขตป่าช้าสำหรับฝังศพใหม่ๆ คือฝังไว้ก่อนเผาทีหลัง หรือบางศพก็เก็บกันแบบข้ามปี แทบทุกชุมชน ที่นี่ก็เช่นกัน เป็นทั้งวัด เป็นทั้งป่าช้า และที่พิเศษยิ่งกว่านั้น  คือ

เป็นป่าผีตายโหง คือ ตามประวัติจากคำบอกเล่าของชาวบ้าน  สมัยก่อน ป่าครึ้มแห่งนี้ มีหมู่บ้านอยู่ ภายหลังโรคห่าลง ทำให้คนตายยกทั้งหมู่บ้าน พระที่มาอยู่ต้องรักความสงบ และ ต้องบำเพ็ญ (ทำสมาธิ) แบบจริงๆ ถึงจะอยู่ได้ แต่ จขกท.ว่า ต้องใจกล้าด้วยเพราะ

ทั่วทุกพื้นที่  เวลากวาดทางเดินไปกุฏิ จะพบ เห็นกระดูกคนตายที่ถูกฝังไว้หลายสิบปีโผล่พ้นดินขึ้นมาบ่อยๆ จะมีการนำศพ มาฝังกันเป็นประจำ (ญาติไม่เผา) ฝังมุมนู้น มุมนี้  โดยเฉพาะหลังกุฏิ ก็มีบ่อยๆ
บางราย ญาตินำศพมาฝังปุ๊ป จะไปถอยบ้านน็อคดาวน์มาไว้ข้างหลุมศพเลย แล้วก็นิมนต์พระ ให้เข้าอยู่ทันที เพื่อจะให้มีอานิสงส์ส่งถึงผู้ตาย

พระอาจารย์ ท่านเล่าต่อไปว่า  พระที่นี่ไม่เยอะ เพราะความลำบากของสถานที่  บางครั้งก็เหลือท่านเจ้าอาวาสองค์เดียว ในวันแรกที่ท่านเดินทางไปถึง เห็นศาลาปูนยกพื้นขนาดใหญ่มาก แต่ไม่มีฝาด้านข้างเลย ปล่อยโล่งๆ เป็นที่ฉันอาหารและทำวัตรด้วย  ส่วนกุฏิก็อยู่ห่างศาลาลึกเข้าไปในป่า รอบด้าน เข้าไปดู กุฏิหลังหนึ่งที่อยู่ลึกเข้าไปในดงป่า เกิดชอบใจ ท่านเจ้าอาวาสเลยไปช่วยเช็ดกวาดถู แล้วถามท่านว่า จะอยู่จริงหรือ เพราะตัวท่านเองบอกว่า ผมยังอยู่ไม่ได้เลย (คงเฮี้ยนแน่ๆ)

ท่านเจ้าอาวาส ให้คำแนะนำเบื้องต้นทันที ให้ศึกษาเส้นทางในนี้ แล้ว เวลาคุณกลับจากทำวัตรเย็น (เสร็จราว 2 ทุ่ม) ถ้าเดินกลับกุฏิ  มาเส้นทางนี้แล้วเจอนะ (เจออย่างว่า) ก็ให้เดินอ้อมกลับอีกทางหนึ่งนะ  พระอาจารย์ว่า ท่านอยู่บำเพ็ญที่นี่หลายเดือน หลังทำวัตรเสร็จ เดินกลับกุฏิ ไม่เคยเจออะไร มีแต่กลิ่นเน่าๆ เหมือนศพตายนานๆ ลอยมาเตะจมูกทุกวัน ยามย่างก้าวจากศาลามากุกฎิ

จนกระทั่งวันหนึ่ง คืนว้นพระใหญ่ วันเพ็ญเดือนหงาย  ท่านจุดเทียนเดินจงกรม ใต้กุฏิ  ระหว่างที่เดินไป - มา สักพัก ก็มีกลิ่นศพเน่าๆ ลอยมาเตะจมูก แต่วันนี้ทำไมมันเหม็นมาก  พอท่านเดินไปสุดหัวทาง ก็หันกลับมา............. มองไปที่สุดทางเดิน......... ก็เห็นตัวอะไรไม่รู้ ยืนอยู่ รูปร่างเป็นคน สูงเมตรกว่าๆ แต่แขนห้อยยาวถึงพื้น  ท่านก็ยืนเพ่งมองพินิจ สักพัก มันคืออะไร จะว่าต้นไม้อยู่ตรงนั้นก็ไม่ใช่ เพราะท่านให้โยมมาพิจารณา กิ่งไม้ ต้นไม้เล็กๆ ออกไปให้พ้นทางเดินจงกรมตรงนั้นหลายวันแล้ว  ทันใดนั้น  โอ้....

สิ่งที่ปรากฏ ก็ยกมือขึ้นพร้อมกับส่ายตัวโยกซ้ายที ขวาที พร้อมกับกลิ่นเหม็นสุดๆ  ท่านบอกว่า เห็นชัดแจ๋วเลย เพราะเป็นคืนเดือนหงาย  พอตั้งสติได้ รีบเดินขึ้นบันไดกุฏิ ไปยืนพูดว่า  " เฮ้ย จะมาทำไม  เดี๋ยวก่อนสิ  บำเพ็ญเสร็จแล้วจะแผ่เมตตาให้  ให้ทุกวันยังไม่พออีกหรือไง ไป  กลับไปก่อนเลย " แล้วท่านก็รีบเข้าไปภายในห้อง ล็อกกุฏิ นั่งดมกลิ่นเน่าๆ อีกสักพัก กลิ่นก็หายไป

จบครับ  แต่ยังไม่จบ  ท่านเล่าอีกว่า  ที่วัดป่าแห่งนี้  มักจะมีพระ ที่ชอบแบบนี้ คือชอบเรื่องลึกลับ หรือ ชอบมาบำเพ็ญ แวะเวียนกันมาประจำ แต่มาอยู่แป๊ปก็ไป คืออยู่ไม่นานไม่กี่วัน  บางรูปมาอยู่ มากางกลดพักบนศาลาใหญ่  นั่งบำเพ็ญในกลดตอนดึกๆ นี่ มีเสียงผู้หญิงมานั่งร้องไห้อยู่หน้ากลดก็มี  พระรูปนั้นได้ยินเสียง เปิดกลด ส่องไฟฉายดู ก็ไม่มีอะไร  คว้าไฟฉายเปิดเดินหาเลย  แต่เสียงร้องไห้ ยังคงดัง แต่ไปดังอยู่นอกศาลาแล้ว พอท่านกลับเข้ามานั่งในกลดต่อ  เสียงผู้หญิงจะมานั่งร้องอยู่ใกล้ๆอีก 

ผู้ที่ชอบบำเพ็ญ ท่านใดสนใจ สถานที่นี้ ยินดีแนะนำ  หลังไมด์มา เผยแพร่เป็น  อารมณ์ทาน

ความคิดเห็น

  1. " เฮ้ย จะมาทำไม เดี๋ยวก่อนสิ บำเพ็ญเสร็จแล้วจะแผ่เมตตาให้ ให้ทุกวันยังไม่พออีกหรือไง ไป กลับไปก่อนเลย " ถือว่าเป็นการ "ทัก" หรือไม่ ? มีคนบอกว่าถ้าได้ยินเสียงอะไรไม่ให้ "ทัก" มิใช่หรือคะ ? หรือว่าพระภิกษุ "ทัก" ได้ !!!

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ทักได้ทั้งนั้นแหล่ะถ้ามาเป็นตัวอยุ่ที่ใจเราจะแข็งหรือเปล่า แต่ถ้ามาแต่เสียงห้ามทักอาจจะเป็นคุณไสย

      ลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...