ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ช่องเขาขาด เรื่องผีกาญจนบุรี


ช่องเขาขาด เราเคยไปกับเพื่อนผู้หญิง ไปกันสองคนค่ะ เป็นเรื่องที่ขนลุกเมื่อคิดถึง กี่ครั้งก็ขนลุกมาจนถึงตอนนี้เลยค่ะ ตอนแรกไปถึงเราไม่ได้เข้าไปที่ห้องพิพิธภัณฑ์ แต่เราเดินไป ตรงที่ทางรถไฟเลย เราไม่ได้ไปทางใหม่ที่สร้างนะคะ ไปทางเก่าที่ต้องขึ้นเขาไป 

ถ้าใครเคยไปจะรู้ว่ามีสองทาง ทางใหม่เป็นบรรได เดินลงไปตรงช่องเขาขาดได้เลย ระยะทางจากบรรไดทางลงไปถึงช่องเขาขาดระยะทาง 300 เมตรได้ค่ะ แต่เราเลือกไปทางเก่า ที่ลำบาก ๆ ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าสองคนคิดอะไรกันอยู่ที่ไปทางนั้น แต่พอไต่ขึ้นไปได้สักพักเริ่มไม่มีราวบันไดให้เกาะ แล้วก็เหมือนหายใจไม่ออก เริ่มมองหน้ากันแล้วรีบชวนกันลงมาอย่างไม่ได้นัดหมาย ก็เลยชวนกันเข้าพิพิธพันธ์กันค่ะ มาอ่านแล้วก็เจอว่ามีทางใหม่นะ(เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีนะคะ ต่อไปท่องเที่ยวที่ไหน เข้าไปหาข้อมูลหลักของสถานที่ก่อนดีกว่า) เราก็เลยตกลงกันเอาวะ ไปทางใหม่ไหน ๆ ก็มาแล้วไปกันให้ถึงที่ดีกว่า
ตอนแรกมีกลุ่มนึ่งลงไปก่อนสัก 10 นาที เดินไปจนจะถึงทางลงแล้วค่ะ เราก็เพิ่งจะเดินไป เราลงมาถึงทางพื้นที่จะเดินไปช่องเขาขาดแล้วกลุ่มนั้นก็เดินสวนกลับมาขึ่นไปข้างเรา

แรก ๆ เราก็ไม่สนใจอะไรถ่ายรูปชิว ๆ โพสท่าโน่นนี่(แบบสุภาพ) ก็เดินไปตรงช่องเขา ที่มีคนวางสิ่งของไว้ไหว้ทำนองนั้น บรรยากาศจากสนุกๆ ถ่ายรูปเอามันส์กัน ก็เกิดเงียบกันทั้งคู่ มองหน้ากัน แตอนแรกยังไม่มีอะไร เราก็ถ่ายรูปไปจนเราแหงนหน้าขึ้นไปถ่ายรูปด้านบน จากพื้น ส่องขึ้นไปบนเขา อยู่ระหว่างช่องเขาพอดีก็ถ่ายรูปแชะๆ เพื่อนก็มาสะกิดบอกว่ากลับเหอะ เราก็เห็นสีหน้าเพื่อนไม่ดีแล้วแปลกๆ อยู่ดีดีจากที่ร้อนๆ ลมก็มาซะแรงเลย

เราก็ขนลุกมองไปที่เทียนกับป้ายที่วางไว้ที่พื้นก็ใจไม่ดี ไม่มีคนเลยเงียบมาก มีแต่เสียงใบไม้แสกๆ ลมพัดฟืดๆ จูงมือกันกลับโดยไม่ได้นัดหมายอีกแล้ว เงียบกันทั้งคู่เลยค่ะ รีบจ้ำอ้าวมาถึงข้างบน ขึ้นรถปิดประตูเหยียบเลยค่ะ บึ่งออกจากลานจอดเลยค่ะ

ขับมาได้สักพักก็คุยกัน เพื่อนถามว่ารู้สึกอะไรมั้ย เราบอกว่ารู้สึกขนลุกตลอดทางแล้วก็เงียบมากๆ
อึดอัดเหมือนตอนไปผิดทาง เพื่อนบอกตอนที่เราถ่ายรูปแบบแหงนหน้าขึ้นไปบนเขา เห็นเหมือนมีคนมองคนมองลงมาเงาดำ ๆชะโงกหน้าลงมา เราก็ตกใจ เพื่อนบอกว่า ตั้งแต่เดินลงมาถึงช่องเขารู้สึกเหมือนมีคนมองตลอดเวลา คิดว่ามีคนเดินตามมาเป็นนักท่องเที่ยว แต่ก็ไม่มีใคร เราก็ขนลุกเลย เพราะตอนที่เราถ่ายรูปเราก็รู้สึกเหมือนมีเงาดำชโงกลงมาเหมือนกัน แต่ไม่ได้คิดอะไรเพราะเราถ่ายวิวเลยไม่ได้ไปโฟกัสตรงเงานั้น คิดว่าเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไป แต่พอมาดูในรูป คิดว่าตรงจุดนั้นเไม่น่าจะมีคนไปยืนแล้วก็ชะโงกหน้าลงมาได้…

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://pantip.com/topic/34069696

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ