ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

มีเมียเป็นผี!! เรื่องราวคุณไสย มนต์ดำ


เรื่องนี้ผู้เขียนได้รับฟังมาจากแม่ ซึ่งเคยเล่าให้ฟังนานแล้ว..แม่ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสมัยที่ท่านยังเป็นเด็ก เเละผู้เขียนก็เชื่อเหลือเกินว่าเป็นเรื่องจริง เพราะแม่เป็นคนที่ไม่เชืรอเรื่องงมงายในเรื่องที่อยู่นอกเหมือการพิสูจน์

และที่สำคัณก็คือ แม่เป็นคนไม่ชอบโกหกใคร แม่ของผู้เขียนเป็นคนบ้านนอก อยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรี แม่เกิดที่นั่นและเติบโตที่นั่น ซึ่งเรื่องที่แม่เล่าให้ผู้เขียนฟัง จึงเกิดยึ้นที่นั่นในหมู่บ้านที่แม่เคยอยู่ เมื่อสมัยประมาณสี่สิบปีก่อน จังหวัดปราจีนบุรีเป็นจังหวัดที่ไม่มีความเจริญให้เห็นเลยแม้แต่น้อย หมู่บ้านที่แม่อยู่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่แสนจะทุรกันดาร แม่บอกว่าคนในสมัยนั้นมักจะทำมาหากินไม่ได้ทำมาเพื่อค้าขายเหมือนกับคนในยุคปัจจุบันนี้บ้านแต่ละหลังจะคล้ายๆ กันหมด คือมักจะปลูกพืชผักไว้ใช้ไว้กิน และพืชอย่างหนึ่งที่ชาวบ้านมักจะปลูกกันโดยทั่วไปคือต้นกล้วยและมะละกอ บ้านของ “ทิดสุข” ซึ่งปลูกอยู่ทางท้ายของหมู่บ้าน เป็นกระต๊อบหลังเล็กๆ ซึ่งปลูกด้วยไม้ไผ่และมุงหลังคาด้วยจาก ปลูกท่ามกลางดงกล้วยตานี และบ้านทั้งหลังมีเพียงทิดสุขอยู่เพียงลำพังคนเดียวเท่านั้น เพราะแกเองได้แยกตัวเองออกมาจากครอบครัวได้หลายปีแล้ว ทิดสุขเป็นคนโสด ไม่มีเมียหรือเคยแต่งงานมากก่อน แกใช้ชีวิตอยู่อย่างสันโดษ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร และด้วยเหตุนี้ทิดสุขจึงเป็นบุคคบที่ไม่ค่อยมีใครสนใจนัก

จนกระทั่งเรื่องแปลกประหลาดได้เกิดขึ้น ให้ใครต่อใครได้เห็นจนเป็นที่ร่ำลือกันไปทั้งหมู่บ้าน นั่นก็คือจู่ๆทิดสุขก็มีผู้หญิงมาอยู่ด้วย ที่กระทีอมหลังเล็กๆของแก คนที่เห็นเมียของทิดสุขคนแรกก็คือ “ตามั่น” ซึ่งเป็นตาของผู้เขียน โดยมีศักดิ์เป็นน้องของตาแท้ๆ และเป็นอาของแม่ผู้เขียน วันหนึ่ง ตามั่นแกออกไปหากบที่ทุ่งนาจนกระทั่งตกดึกของคืนนั้นฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ตามั่นแกไม่รู้จะไปหาที่หลบฝนที่ไหน จึงได้วิ่งไปยังกระท่อมของทิดสุขซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด หวังจะอาศัยชายคาเป็นที่หลบฝนที่กำลังเทลงมาอย่างหนักในขณะนั้น ตามั่นวิ่งไปถึงกระท่อมของทิดสุข แกพ็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมีรูปร่างน่าตาสวยงามมาก กำลังจะเดินเข้าไปในกระท่อมของทิดสุขพอดี เมื่อเห็นดังนั้น ตามั่นจึงไม่กล้าเข้าไปอาศัยทิดสุขหลบฝน ได้แต่อาศัยหลบอยู่ใต้ชายคาข้างๆ กระท่อมนั้น จึงทำให้ได้รู้ว่าทิดสุขและหญิงสาวสวยคนนั้น มีพฤติกรรมที่เหมือนคนเป็นผัวเมียกันมานาน ทั้งคู่อยู่กินกันเหมือนกับผัวเมียที่รวมชีวิตกันมานานแล้ว นอนอยู่ในมุ้งเดียวกัน และมีความสัมพันธ์กันฉันสามี-ภรรยาโดยทั่วไป แต่สิ่งที่ตามั่นสงสัยมากก็คือ ทำไมแกไม่เคยเห็นหญิงสาวคนนนี้มาก่อนเลย 

เมื่อนามั่นได้มีโอกาสพบกับทิศสุขอีกครั้งหนึ่ง เเกจึงถามเกี่ยวกับเรื่องของผู้หญิงคนนั้น คนที่แกเห็นว่าเย้าไปหลับนอนอยู่กับทิดสุขว่าเป็นใครมาจากไหน แล้บทำไมทิดสุขถึงต้องปิดบังเรื่องนี้ เรื่องที่แกมีเมียโดยไม่ยอมบอกให้ใครได้รับรู้ แต่ตามั่นก็ไม่ได้รับคำตอบจากทิดสุขเลยแม้แต่คำเดียวแถมทิดสุขยังสั่งห้ามไม่ให้ตามั่นเล่าเรื่องราวที่เห็นให้ใครฟังโดยเด็ดขาด ถ้าไม่เชื่อจะต้องโดนดี ต่อมาหลังจากนั้นประมาณไม่กี่วัน ตามั่นก็อดเก็บเรื่องราวที่ได้เห็นมาไวัเป็นความลับอีกต่อไปไม่ได้ วันนึงขณะที่แกนั่งกินเหล้าอยู่กับเพื่อนๆ แกก็เผลอหลุดปากเรื่องที่แกได้ไปเห็นมา ให้กับบรรดาเพื่อนๆ ในวงเหล้าได้ฟังกัน
ข่าวลือเรื่องทิดสุขแอบไปมีเมีย โดยไม่ยอมให้ชาวบ้านรับรู้จึงกระฉ่อนไปทั้งหมู่บ้าน ใครๆได้เจอทิดสุขก็มักจะถามักี่ยวกับเรื่องนี้ จนทิดสุขเกิดความโกรธและแสดงอาการไม่พอใจให้เห็นอย่างรุนแรง จากนั้นไม่นานนัก ตามั่นก็ล้มป่วย โดยมีอาการคุ้มดีคุ้มร้าย แสดงอาการหวาดกลัวออกมาเหมือนกำลังมีใครบางคนหรืออะไรบางอย่างคะกคามอย่างหนัก เมื่อสอบถามก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ ได้แต่ร้องโอดโอย คล้ายกับกำลังถูกทรมานอย่างหนัก

ต่อมาอีก3เดือนหลังจากที่ตามั่นล้มป่วยกลายเป็นคนเสียสติโดยไม่มีสาเหตุ พาไปรักษาตามโรงพยาบาลไหนก็ไม่หาย ก็ได้มีชาวบ้านคนหนึ่ง ได้เห็นหญิงสาวคนนั้นอีกครั้ง หญิงสาวสวยที่แอบไปอยู่กินฉันสามี-ภรรยากับทิดสุขคนนั้น ที่กระท้อมหลังเล็กกลางดงกล้วยตานี ในคืนนึงโดยบังเอิญ คราวนี้คนที่เห็นได้มาเล่าเรื้องราวระหว่างหญิงสาวกับทิดสุข ซึ่งมีพฤติกรรมต่อกันเหมือนกับคนที่เป็นผัวเมียกันมานาน ให้ใครต่อใครในหมู่บ้านฟังว้า เขาได้เห็นหญิงสาวคนนั้น เดินออกจากต้นกล้วยตานีต้นหนึ่ง เเล้วเดินเข้าไปในกระท้อมของทิดสุข ซึ่งเหตุนี้เอง ทำให้คนให้คนในหมู่บ้านเชื่อกันว่าทิดสุขมีเมียเป็นผี แบ้วเรื่องก็ลือกระฉ่อนไปทั่วหมู่บ้านและละแวกไกล้เคียง หลังจากชาวบ้านคนที่ไปเห็นหญิงสาวเดินออกจากต้นกล้วยตานี นำเรื่องผีสาวนางตานีมาโพนทะนาให้ชาวบ้านล่ำลือได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น แกก็ล้มป่วยและตายไปอย่างไม่มีสาเหตุ โดยสภาพศพไม่มีอะไรผิดสังเกตุนอกจากดวงตาที่เหลือกลาน เหมือนกับได้พบสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก่อนที่จะสิ้นในตายไป ชาวบ้านในระแวกนั้นต่างล่ำลือกันว่าการตายของชายคนนั้นเกิดขึ้นัพราะฤทธิ์เดชของผีนางตานีที่ออกอาละวาดเอาชีวิต ในโทษฐานที่นำเรื่องอันเป็นความลัยมาไขในที่แจ้ง ทุกคนคิดอย่างนั้นเรื่อยมาจนไม่มีใครกล้ากล้ำกรายเข้าไปไกล้ๆกับกระท่อมของทิดสุข ซึ่งปลูกอยู่ในดงกล้วยตานีนั้น

ทุกคนต่างเชื่อว่าเป็นความเฮี้ยนของผีนางตานีที่อาฆาตแค้นผู้คนที่ทำตัวเป็นมารความสุขของตนเอง แต่แล้ววันหนึ่งความจริงบางอย่างก็ปรากฎขึ้น หลังจากข่าวเรื่องทิดสุขอยู่กินกับผีสาวนางตานีดังกระฉ่อนไปได้ประมาน6เดือน ทิดสุขก็ล้มป่วยและตายตามไปอีกคนหนึ่ง ภายในกระท่อมกล้วยตานีแห่งนั้น
เมื่อชาวบ้านรู้ข่าว จึงได้ช่วยกันนำศพของทิดสุขออกมาจากกระท่อมของแก และนั่นเป็นครั้งแรกที่ชาวบ้านทุกคนได้เห็นว่า ภายในกระท่อมกลางดงกล้วยตรนีหลังนั้นของทิดสุข เต็มไปด้วยเครื่องรางของขลังจำนวนมาก ทุกคนเพิ่งตระนักรู้กันในคราวนั้นว่า แท้จริงแล้วทิดสุจเป็นคนที่ล่ำเรียนเกี่ยวกับคาถาอาคมเวทมนต์ดำ ซึ่งคาดว่าน่าจะไปเรียนมาจากฝั่งเขมรแกไม่ใช่ชาวบ้านคนธรรมดาๆอย่างที่ทุกคนคาดคิด
การณ์ตายของชายที่เห็นเหตุการณ์ตอนนางตานีออกมาจากต้นกล้วย รวมถึงอาการคุ้มดีคุมร้ายของตามั่นนั้นไม่ได้เป็นเพราะถูกผีสาวนางตานีเล่นงานเอาอย่างที่ทุกคนเข้าใจ หากแต่ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะมนต์ดำหรือคุณไสยของทิดสุข ซึ่งเป็นผู้กระทำขึ้นมาเองทั้งหมด ผีนางตานีที่ออกมาปรนนิบัติกินอยู่กับทิดสุข 

ก็เพราะอำนาจไสยเวทของทิดสุขที่บีบบังคับให้เป็นไปไม่ใช่ด้วยความพิศวาสที่ผีมีต่อคนอย่างที่ทุกคนเข้าใจแต่อย่างใด และการตายของทิดสุขนั้น คงไม่ใช่การป่วยตายธรรมดาๆ แต่อาจเป็นเพราะอำนาจมนต์ดำที่เกินการควบคุมเล่นงานเอา ดังที่ว่า”หมองูตายเพราะงู” นั่นเอง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...