ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เรื่องที่ถูกปิดบัง... ดราม่าหลอน เรื่องมาเฉลยเอาวันสุดท้าย


สวัสดีทุกคนนะคะ เราจะนำเอาเรื่อง ผีเรื่องนึงที่เคยเกิดขึ้นกับเรามาถ่ายทอดให้กับทุกคน...ก่อนอื่นก้ต้องบอกก่อนเลยนะคะว่าเราเป็นคนกลัวผีมากๆๆ คิดไว้เลยว่าถ้าได้เจอคงจะเสียสติเป็นบ้าไปเลยแน่ๆ เราเองก็ไม่คิดว่ามันจะมาเกิดขึ้นกับตัวเรา เรื่องของเราอาจจะไม่ได้น่ากลัวมากเหมือนของคนอื่น แต่มันมีความเศร้ามากกว่าค่ะ เริ่มเลยนะคะ....

เราชื่อแก้วค่ะ เรียนจบแล้ว ตอนนี้มีธุรกิจส่วนตัวของทางบ้าน เราเป็นคนร้อยเอ็ดค่ะ เกิดที่นั่น แต่มาโตที่กรุงเทพ ย้ายมาอยู่เเบบถาวรเลย เราก็ไม่ค่อยได้กลับบ้านเกิดด้วย ความผูกพันกับบ้านเกิดจึงมีน้อยมาก เมื่อกลางเดือน พย เมื่อปีที่แล้ว แม่เรากลับ ตจวค่ะ (ร้อยเอ็ดนั่นแหละ) เขากลับไปพักผ่อน แต่เราไม่ได้กลับด้วย และปกติเราก้ไม่ได้กลับอยู่แล้ว พอแม่กลับไปได้สามวันเขาก็โทรมาหาเราอยากให้เรากลับบ้านหน่อย ไอส้มมันยากเจอ ( ส้มนี่ก็คือนองสาวเราเอง เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน สนิทกันมากตั้งแต่เกิดแล้ว ด้วยความที่ว่าเราย้ายมาอยู่กรุงเทพก็เลยไม่ค่อยได้เจอกัน) 

เราก็บอกว่าขี้เกียดกลับและงานก็ยังยุ่งๆอยู่ แม่ก็พูดเสียงเรียบๆมาจากปลายสายว่า กลับมาหามันหน่อย เดี๋ยวมันก็ไม่อยู่แล้ว เราก็ถามว่า มันจะไปไหนล่ะ แม่ก็บอกว่า มันจะไปอยู่ที่อื่นกับผัวมัน (น้องเรามันแต่งงานแล้วค่ะ มันกับแฟนมันทำผิดผีกัน ผู้ใหญ่ก็เลยให้แต่งงานกัน น้องเราอายุห่างจากเราสองปีนะคะ) ไอเราก็งง แล้วถามแม่ว่ามันจะไปตอนไหน แม่ก็บอก อีกสามสี่วันมันก็จะไปแล้ว ถ้าไม่มาก็ไม่ได้เจอแล้วนะ และก็ กลับมาช่วยงานศพด้วย ที่บ้านมีคนตาย หลังจากที่เราได้ยินแบบนั้น เราก้ตัดสินใจกลับบ้านค่ะ เหตผลหลักๆคือไปหาน้อง ส่วนที่ว่ามีคนตายเราไม่ค่อยใส่ใจอยู่เเล้วเพราะเราไม่ค่อยรุ้จักใคร 

วันต่อมาเราเดินทางจากกรุงเทพประมานห้าทุ่ม ขับรถส่วนตัวกลับบ้านตอนกลางคืน แม่ก็โทมาหาเป็นพักๆเพื่อที่จะถามว่าเราอยู่ไหน ถ้าไกล้ถึงก็โทมาบอกด้วย จะได้เปิดไฟที่บ้านเอาไว้ และเราก็ขับรถมาถึงประมานตีห้าค่ะ หมู่บ้านเรามีทางเข้าสามทาง เราเข้าถนนเส้นกลางเพราะสุดถนนจะเป็นบ้านของยายพอดี บ้านยายจะมีน้า ส้ม ยาย หลาน อยู่ด้วยกัน ส่วนครอบครัวเราจะมีบ้านอยู่ต่างหากที่ท้ายหมู่บ้านเลยหลังบ้านก็จะเป็นนา แต่เราขับมาบ้านยายเพราะแม่มานอนบ้านยาย พอขับรถเข้ามาถึง ไฟหน้ารถมันก็สาดไปหน้าบ้าน เราก็เห็นไอส้มน้องสาวเรานั่งอยู่ตรงเก้าอี้หน้าบ้าน พอเราขับมาไกล้ๆมันก็ยืนมองมาทางเราเหมือนจะดูว่าใช่เรามั้ย พอรู้ว่าใช่มันก็ยิ้มดีใจวิ่งมารอเราลงจากรถ

 พอเราลงมามันก็วิ่งมากอดใหญ่เลย แล้วบอกว่าคิดถึงๆ เราก็งงๆ เขินๆ ไง เพราะปกติมันไม่ค่อยทำแบบนี้ เราก็ถามมันว่า มานั่งทำไรตรงนี้ มันก้บอกว่ามานั่งรอเรา เราก็งงว่ามานั่งทำไมแล้วรุ้ได้ไงว่าจะมาถึงตอนนี้ มันก็บอกว่ารู้มาจากป้าแหวน ป้าแหวนบอก (ป้าแหวนที่น้องเราพูดถึงคือชื่อแม่เราเอง) พอเจอกันเราก็คุยๆกันปกติถามนู้นนี่กันตามประสาคนไม่ค่อยเจอกัน เรานั่งคุยกันข่างล่างไม่ได้ขึ้นไปบนบ้าน ละแม่เราก็เดินลงมาจากบ้านกับน้าเรา เขาสองคนก็เห็นเราแล้วตกใจ มองเรากับส้มสลับกันแล้วหันไปมองหน้ากันเองแบบตกใจ แล้วแม่ก้บอกว่า

แม่:ช่วยทำดอกไม้หน่อยจะเอาไปใส่ในโลงศพ (ก็คือนั่งทำพวงมาลัยอะค่ะ)

เรา: ใครเป็นไรตายอะแม่ 

แม่: ขับรถชนสิบล้อตาย 5 คน

เราก็แบบตกใจ เห้ย ตาย5คนเลยหรอ ก้แบบคิดว่าไม่น่าเลยน่าสงสารจัง

เรา:แล้วใครตายอะ

ทีนี้แม่เราก็หันมามองหน้าน้าเรา แล้วก็บอกว่า

แม่:อยากรู้ก็ไปดูเอาเองที่วัด  

แล้วแม่ก็เดินไปหลังบ้าน น้าเราทีเป็นแม่ของไอส้มก็ทำหน้าเศร้าๆจะร้องไห้ มองหน้าเรากับส้มแล้วก็เดินไปหลังบ้าน เราสงสัยว่าทำไมเขาไม่บอกว่าใครตาย ตายกันตั้ง5 คน ต้องเป็นญาติเราแน่ๆเลย เพราะแม่ไม่อยากบอก แถมน้าแอบร้องไห้อีก เราเลยหันมาถามน้องว่า

เรา:ใครตายวะ

ส้ม:ไปดูเอาเถอะที่วัดอ่ะ

เรายิ่ง งง มากเลยค่ะ ทำไมไม่มีใครบอกว่าใครตาย ญาติคนไหนตาย มีแต่คนไม่บอกแล้วให้เราไปดูเอง แล้วมันก็ยิ่งทำให้เราอยากรู้มากขึ้น เราก็จะชวนน้องไปวัด เพราะเราอยากรู้ว่าใครตาย ทั้ววันค่ะ เราก็นั่งทำพวงมาลัย 5 พวงสำหรับศพ 5ศพ(ที่ทำนานเพราะว่าทำไปด้วยเล่นไปด้วยกะทำแบบชิวๆไม่รีบ พูดคุยและทำไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่) 

กับน้องสองคนบนบ้าน ตั้งแต่เช้า จนหัวค่ำเลย เราก็อยากไปดูว่าใครตายบ้าง น้องเรามันก็ถามว่ากลัวผีมั้ยล่ะ เราก้บอกกลัวดิกลัวมาก มันก็เล่าให้ฟังค่ะ (ตอนนี้อยู่บนบ้านค่ะ บนบ้านไม่มีใครอยู่เลย เหมือนจะไปวัดกันหมด) มันบอกว่า ตอนห้าโมงเย็นวันที่แม่เราโทหาเราตอนอยู่กรุงเทพอะ วันนั้นแหละ มีคนในหมู่บ้านเรา 5 คนจะขับรถไปในเมือง ไปรถกะบะกัน แล้วขับไวมาก พาไปชนกับรถสิบล้ออย่างจังจนพากันตายทั้งคัน แล้วก็เหี้ยนมาก คนที่ตายไปหาทุกคนในหมู่บ้านหมดเลย ทุกคนเจอหมด แม่เราน้าเราก็เจอ ดึกๆช่วงนี้ไม่มีใครออกจากบ้านกัน พอเราได้ยินเราก็กลัวมาก เพราะเรากลัวผี ผ่านไปสองทุ่ม เรากับน้องก้คุยกันเรื่อยๆ จนคุยกันเรื่องเสื้อผ้า 

ส้มมันบอกให้ซื้อเสื้อผ้าให้หน่อย อยากได้สวยๆ เราก็บอกโอเคเดี๋ยวซื้อให้ แล้วแม่ก้โทเรียกเราลงไปกินข้าวข่างล่าง ผ่านไปจนสามทุ่ม เราคุยเล่นกับส้มเพลินจนดึก ละทีนี้เราต้องกลับไปนอนบ้านไง บ้านเราที่อยู่ท้ายๆหมู่บ้าน มันดึกเลยกลัว ละกลัวผีที่น้องเล่าให้ฟังด้วย เลยให้น้องเดินไปส่ง (น้องมันไม่กลัวผี) ละบ้านแฟนมันก็อยู่เยื้องๆกับบ้านเราห่างกันแค่สามหลังมันบอกว่าจะไปนอนกับแฟนมันด้วย เลยพากันเดินออกมาระยะทางประมาน 500 เมตร ระหว่างทางเดินหมาก็เห่าๆตลอดทางตามปกติของมัน เหมือนเราสังเกตว่า บางบ้านที่เขายังเปิดไฟห้องนอนอยู่เขาแอบๆเปิดหน้าต่างแอบดูเรากับน้อง เราก็งงๆ จะแอบทำไม สงสัยคิดว่าเราเป็นผีมาเดินไปเดินมารึเปล่า พอถึงบ้าน น้องเราก้บอกว่า รีบๆเดินเข้าบ้านไป กุจะได้รีบวิ่งไปบ้านแฟนกุ มันพูดงี้มาเราก็วิ่งเข้าบ้าน มาเจอแม่ เขาก็ถามว่าใครมาส่ง เราก็บอก ไอส้มมาส่งละมันวิ่งกลับไปแล้ว แม่เราก็พยักหน้าอือๆ

วันต่อมาจามาถึงวันนี้เป็นวันที่เผา ซึ่งตั้งเเต่มาเรายังไม่เคยเห็นศพเลย ยังไม่รู้เลยใครตาย แม่กับน้าก็ไปวัดทุกวัน แต่วันนี้เป็นวันที่เราต้องเอาพวกมาลัยไปให้เขาที่วัด ตอนสี่โมงเย็น เรากับน้องก็เดินกันไปวัด เดินคุยกันมาเรื่อยๆ อยู่ดีๆน้องมันก็กระโดดมากอดเราจากทางด้านหลังแล้วพูดว่า กุรักนะ กุอยากเป็นน้องมึงไปตลอดเลย วันนี้กุต้องไปกับพี่อามแล้ว (อาม คือ แฟน ส้ม ค่ะ) มึงเข้าไปในวัดก่อนนะ กุจะไปเตรียมตัว เราก็โอเค มันคงกำลังจะไปอยู่อีกที่กับแฟนมันที่แม่เราเคยบอกไว้ เราก็ไม่ได้ไรแล้วเข้าวัดมา คนมางานศพเยอะมาก เกือบทั้งหมู่บ้าน เราก็ฝ่าฝูงคนถือพวงมาลัยเข้าไปหาแม่ที่อยู่ตรงโลงศพพอดี เรามองไปก็มี 5 โลง เรายิ่นพวงมาลัยให้แม่ไป แต่ก็บอกว่าให้เราเป็นคนเอาไปใส่ในโลงเอง 

เราก้ไม่อยากทำเพราะเราไม่ชอบ เรากลัว และจริงๆเราไม่ชอบมางานศพอยู่เเล้ว แต่แม่ก้บอกๆๆให้เราทำ คนในงานก็มองเราเป็นตาเดียวเลย เราก็กลั้นใจทำ พอเปิดฝาโลงมาเท่านั้นแหละ พวงมาลัยหลุดจากมือเราเลยค่ะ! แขนขาเราอ่อนแรงฟุบตัวลงไปนั่งกับพื้นข้างๆโลงศพเลยค่ะ สมองแบบนี้ประมวนผลทุกอย่างว่า มันใช่หรอ เราชอคมากตอนนั้นแบบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนนี้ น้ำตาเราไหลเลยค่ะ เสื้อผ้า หน้าตา เราจำได้ถึงแม้ว่าร่างกายจะมีแต่บาดแผล แขนผิดรูป แต่เราจำได้!!  ว่านั่นเป็นน้องสาวเรา!!!!!  ไอส้มที่พึ่งแยกจากกันเมื่อกี้! พึ่งกอดเราเมื่อกี้ !! คนที่นั่งรอเรากลับบ้าน คนที่อยู่กับเราทั้งวัน ตอนนี้เราเห็นเขาอยู่ในโลง ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล 

แต่ตอนนั้นเราไม่ยอมรับความจริง เอาจริงๆแล้วใครจะไปเชื่อกันวะ เราบอกแม่ว่าไม่ใช่ส้มหรอก เมื่อกี้พึ่งแยกกัน เราอยู่กับส้มตั้งแต่มาจากกรุงเทพ มันจะตายได้ไง มันเกิดอะไรขึ้น เรา งงมากตอนนั้น มันประมวนอะไรไม่ถูกเลย แม่เราบอกว่าคนที่ตายก็คือส้มแหละ มันจะไปในเมืองกับแฟนมันแล้วไปชนเข้ากับรถสิบล้อ แฟนมันก็ตายเหมือนกัน อีกสามศพ คือหลานๆของพ่อกับแม่พี่อามแฟนส้มนั่นเอง เราร้องไห้อยู่ตรงนั้นนานมาก ทั้งโวยวาย ทำไมไม่มีใครบอกเราซักคน เราร้องไห้ตลอดจนเผาเสร็จ น้าก็ก็ร้องไห้ตลอด และเราได้เฉลยผลสรุปมาว่า

ส้มกับพี่อาม จะไปในเมืองไปซื้อของและได้พาหลานไปด้วยอีกสามคน พอดีเกิดอุบัติเหต ตายกันทั้งคัน พอ พ่อแม่เขารู้ก้พากันร้องไห้รับไม่ได้กับเหตการณ์นั้น หลังจากที่ส้มตายก็เหี้ยนมาก เดินทั่วหมู่บ้าน เดินไปเดินมาทั้งคืน  ไปหาทุกคน พูดอยู่ตลอดว่าแก้วมาหรือยัง แก้วอยู่ไหน กุคิดถึงมึงพูดอยู่แต่แบบนี้จนชาวบ้านทนไม่ไหว ส้มก็มาหาแม่ เรียกแม่ทั้งคืนจนแม่กลัว  แม่จึงโทรเรียกมากลับมาและที่ไม่ได้บอกเราเพราะถ้าบอก เราคงกลัวและหนีกลับ ส้มก็คงอยากจะอยู่พูดคุยกับเราจนถึงเวลาสุดท้ายของเขา และเราก็พึ่งมารุ้ทีหลังว่า ทุกคนเห็นว่าเราอยู่กับส้มตลอด เราก็นึกเอะใจทีหลังว่า ถึงว่าทำไมไม่มีใครเข้ามาหาเราเลย และส้มจะไม่ค่อยออกไปไหน อยู่แต่กับบ้านจนดึก ตอนที่ส้มเดินไปส่งบ้าน ชาวบ้านเขาก็รุ้เขาเห็นเราเดินมากับส้มจึงพากัน แอบๆมอง 

ทุกคนรู้กันหมดว่าส้มถามหาแต่เรา เราก็ยิ่งร้องไห้ แปลกที่ว่าเรากลัวผีมากๆ แต่ครั้งนี้เรากลับไม่รุ้สึกกลัวเลย มีแต่ความรู้สึกว้าเหว่ สงสาร หดหู่เสียใจมากๆ พอหลังจากเผาเสร็จเราก็ไม่เคยเจอส้มอีกเลย มันว้าเหว่มาก บอกไม่ถูกทรมานใจมากๆ น้องรักที่เล่นด้วยกันสมิทกันมาจากไปแบบไม่ทันตั้งตัว พอเรามีสติกลับมาก็หลายวันอยู่ เราก็ไปซื้อเสื้อผ้าให้ส้มค่ะ และเคยได้ยินความเชื่อที่ว่าถ้าเราเผาอะไรไปให้ เขาจะได้รับ เราก็เผาเสื้อผ้าไปให้ส้ม ไม่รุ้ว่าจะได้รับไหม และก็ทำบุญให้บ่อยๆ อธิฐานขอให้เราเกิดมาเป็นพี่น้องกันอีก ขอให้เราได้เจอกันอีก  เราได้คำตอบแล้วว่าส้มมันต้องไปอยู่อีกที่นึงก็คืออีกโลกนี่เอง ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ อาจจะยาวไปนิดนึงเราก้พยายามย่อๆเเล้ว ส่วนใครจะหาว่าเราแต่งเรื่องก็ตามสบายนะคะ เราได้ทำตามจุดประสงค์ของเราแล้ว

ปล. น้องเราตอนอยู่กับเราเหมือนคนปกติมาก ทั้งการพูด การแสดงท่าทางต่างๆ รวมไปถึงอุณหภูมิร่างกายด้วย คือมาแบบคนเลยอะค่ะ ก็อยากฝากทุกคนว่าใครที่มีคนที่รักที่เขาคอยอยู่ให้รีบกลับไปหาไปดูแลก่อนที่จะสายเกินไปนะคะ

ขอบคุณเรื่องเล่าจาก สมาชิกหมายเลข 3601199 จากกระทู้ เรื่องที่ถูกปิดบัง (เรื่องลี้ลับ ) โปรดใช้วิจารณาน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ