ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

อย่างหลอน! เปิดตำนานลับ Gate 62 สนามบินดอนเมือง หลังเคยเกิดเหตุการณ์นี้??


หลายๆ ท่านคงจะจำกันได้กับเหตุการณ์เครื่องบิน โบอิ้ง 737-400 คุณนราธิวาส HS-TDC เกิดเพลิงลุกไหม้ ระหว่างที่เครื่องจอดคา Gate กันตรงนั้นเลย ก่อนที่จะ Boarding ผู้โดยสารไปเชียงใหม่ซึ่งไฟล์ทนั้น ก็มีบุคคล VIP อย่างอดีตนายก ที่ทุกท่านรู้จักกันดีนั่นเองซึ่งเหตุการณ์นั้น ทำให้มีพี่สจ๊วต (ที่อยู่ระหว่างการเตรียมเครื่องก่อน Boarding หนีออกมาไม่ทัน) เสียชีวิต 1 ท่านและหลังจากเหตุการณ์นั้น ก็มีผู้พบเจอพี่สจ๊วตอยู่แถว Gate

แม้แต่ตอนที่ดอนเมืองปิดปี 49 และกลับมาเปิดอีกครั้งช่วงปี 50 พี่เค้าก็ยังอยู่ จนกระทั่ง 1 สิงหาคม 2554 ย้ายทุกสายการบินมา Terminal 1 (ก่อนน้ำท่วมได้ราว 3 เดือน) ตรงส่วนอาคาร Domestic ก็ปิดไป ไม่ได้ใช้งานอีกแต่ก็ไม่รู้ว่าอะไรอย่างไรนะครับ เพราะผมไม่เคยเจอเอง แต่เคยได้ยินกราวน์ที่ทำงานไฟล์ทดึกๆ กับ ไฟล์ทเช้ามืด พูดให้ฟัง ไม่ค่อยมีใครกลับไปรับ-ส่งเครื่อง คนเดียวถ้าเป็นเกตนี้ ก็ต้องไปกันหลายๆ คน เรื่องเล่าประมาณนั้นครับ

เหตุการณ์ที่เครื่องบินการบินไทยชนภูเขาหิมาลัยที่เนปาล 31 กรกฎาคม 2535 กับเที่ยวบิน กรุงเทพ – กาฎมัณฑุ TG311 เครื่องบินแอร์บัส A310 รหัส HS-TID

สมัยการบินไทยตกที่เนปาล เขาเล่ามาน่ากลัวมั๊กๆ ขนลุกอยู่เลย เคยได้ยินเปล่าครับ การบินไทยเครื่องบินชนเขาที่ เนปาลอ่ะ นานมาแล้ว ตายทั้งลำหลังจากนั้นอีกไฟล์ทน่ะครับ เครื่องก็มาลงปกติ หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เป็นไฟล์แรกหลังจากเหตุการณ์ที่มาลง พร้อมลูกเรือ ก่อน board ผู้โดยสาร ลูกเรือทุกคนก็มาสวดมนต์กัน ขออนุทิศส่วนกุศลให้ไปสู่สุขคติ ทีนี้ พอเตรียม board มีแอร์ เห็นแอร์ใส่ชุดไทย ขาดรุ่งริ้ง ยืนอยู่นอก ตรงงวง ยืนอยู่หลายคน หันไปอีกที ไม่เห็นก็เลยคิดว่าตาฝาด แต่กลัวๆ อยู่ เลยให้ purser มายืนช่วยบอร์ด

พอบอร์ดเกือบเสร็จ เสร็จแล้วหล่ะ ก็ส่งเอกสารอะไรเรียบร้อย พร้อมปิดประตู purser กับแอร์กำลังช่วยกันปิดประตู เกือบปิดแล้ว ก็ เห็นลูกเรือกลุ่มนั้นที่เสียชีวิต กำลังวิ่งงงงงงงงงง แบบร้องขอไปด้วย เขาบอกว่า น่ากลัวมาก ทีนี้ ด้วยความกลัว สองคนรีบปิดประตู มองลอดออกไป เห็นยืนร้องไห้กันอยู่ สภาพดูไม่ได้ทีนี้ ลูกเรือเลยแบบว่า ยกมือไหว้ ขอขมา แล้วก็เห็นว่า purser นำสวดบอกว่า ขอให้วิญญาณ กลับบ้านด้วยกัน แล้วไปสูขคติ พี่เขาบอกว่า ดูเขาอยากกลับบ้านกัน เลยเชิญกลับบ้าน จากนั้นก็ไม่เห็นอะไร เปิดประตูทิ้งไว้ซักพัก พี่สองคนที่เห็นก็คุยกัน ว่าอย่าบอกใคร เดี๋ยวตื่น

ตอนเสิร์ฟ มีผู้โดยสารทัก บอกว่า ทำไมวันนี้ลูกเรือเยอะจังเลย บริการดีมาก แอร์ชุดเขียวหน่ะ สวยนะ ฝากชมด้วยวันนั้นไม่มีใครใส่สไบเขียวเลย เขาบอกว่า จะใส่สีไม่สดกันเลย เพราะไว้ทุกข์ ทุกคนเลยกลัวกันใหญ่พอถึงกรุงเทพฯ หน้าเกทอ่ะ มีพระมีขบวนเลยอ่ะ อัญเชิญวิญญาณ จุดธง จุดธุปกัน กัปตันบอกว่า ตอนเข้าเกทแล้ว ได้ยินเสียงเพอร์เซอร์คนที่ตายอ่ะ มากระซิบข้างหูว่า “ขอบคุณมากครับกัปตัน”

เรื่องจากคุณรู้แล้วว่าอ้วน    เคยทำงานอยู่ในห้องรับรองแขกวีไอพีของสายการบินนึง วันนั้นทำงานกะดึกคือเลิกงานเที่ยงคืน ห้องรับรองจะมีสองฝั่งคือฝั่ง business class แล้วก็ first class ซึ่งฝั่ง first class นี่ไม่ค่อยมีคนมาใช้บริการมากเท่าไหร่ วันที่เราทำงานก็เหมือนกัน พวกแม่บ้านก็ไปทำความสะอาดกันปกติ จู่ๆแม่บ้านเดินเข้ามาในครัวหน้าตาตื่นบอก ให้ไปดูที่โต๊ะรับแขก ฝั่ง first สิ เรากับคนอื่นๆก็เดินออกไปดูกัน ปรากฎว่าเป็นรอยเท้าเด็กบนโต๊ะ ลักษณะจะผอมๆยาวนิดนึง ความยาวน่าจะเท่าโทรศัพท์มือถือ แม่บ้านบอกเด็กที่ไหนมาวิ่งเล่นบนโต๊ะ วันนี้ไม่มีผู้โดยสารมานั่งฝั่งนี้เลย ก็จริงอะค่ะ ไม่มีเลยวันนี้ พี่พนักงานอีกคนก็คอนเฟิร์มค่ะว่า ไม่มี

พวกเราก็ขนลุกซู่เลย มองไปเจอนักดนตรีไม้แกะสลัก 2 ตัว นะคะ ประดับอยู่ตรงโต๊ะนั้น ขนาดเท้าไล่เลี่ยกัน พวกเราเลยคิดว่าเป็นเค้า แต่เค้าไม่ได้มาให้กละวนะคะ มาให้โชค แม่บ้านถูกหวยกันด้วยค่ะ เพราะโต๊ะที่วางเค้าเอาไว้จะมีเลข ก็เอาเลขไปซื้อกัน ดันถูกอีก

เรื่องจากคุณ 704534   ผีที่ดอนเมืองมีมานานแล้วครับ ช่วงปี 2527 ไปซ่อมเครื่องทำความเย็น ที่อาคาร ผสด.ขาออก จำไม่ได้ว่าเป็นอาคารอะไร เพราะเปลี่ยนไปเยอะมาก เมื่อก่อนยังไม่มีอาคารจอดรถ แบบนี้ด้วย กำลังรอเซ็ตระบบน้ำเย็นอยู่ เวลาช่วงตี 3 กว่า มีคนวิ่งมาทางที่พวกผมนั่งหลับนกกันอยู่ วิ่งมา แล้วถามพวกผมว่า เห็นใครวิ่งมาตรงนี้ใหม พวกผมนั่งบ้างนอนบ้าง ถ้ามีใครวิ่งมา ก็เหยียบหัว   เหยียบแข้งเหยียบขาที่ก่ายกันระเกะระกะ พวกผมพากันงงว่า ถามแบบนี้ มีอะไรไม่ดีแน่ๆ พวก ที่วิ่งมาแต่งกายช่างการบินไทยทุกคน เราถามสองสามครั้งพวกเขาไม่ตอบ ค่อยๆ เดินหายไป ทีละคนเหมือนไม่มีเท้าเดิน ลอยไปเรื่อยๆ ผมไม่สังเกตุอะไรนัก ตาจ้องที่หน้าปัดเกจวัดแรงดัน ไนโตรเจ่น แต่ในหัวคิด อ้าว...แล้วที่วิ่งกันมาไม่มีเสียงวิ่งเลยนี่ เป็นใคร มาทำใมในห้องเครื่อง

เท้าไวเท่าความคิด ผมออกวิ่งตามไปทางที่พวกเขาหายเข้าไป เป็นทางเลี้ยว วิ่งชนประตูโครม เป็นแผ่นใม้อัด ตีปิดทับประตูที่ชายล่างผุๆ จมูกผมบวมเป่ง งงมากขึ้น นี่มันอะไรกันว่ะ ผี ผี แน่ๆ ผมไม่เคยกลัวผี เคยท้าเตะท้าต่อยกับผีกลางสุสานวัดดอนมาแล้ว (เมาจัด ห้าวเป้ง) แค่ขนลุก แต่ก็ต้องอยู่ทำจนเสร็จ จนฟ้าสางพวกผม 5 คนตาโหลเหล แปลกพิกล ไม่มีแรงยืนเลย เหมือน   ไปต่อสู้กับอะไรมาทั้งกองพัน เสื้อผ้าชุดช็อปมอมแมมเลอะเปรอะเปื้อนทุกคน ผมถึงกับเสื้อขาด เป็นไปไม่ได้ พวกเราไม่ได้ไปมุด ไปปีนป่ายอะไรที่ใหนเลย เจ็ดโมงเช้าหัวหน้าช่างการบินไทย เดินมาหา ถามว่าเมื่อคืนใครต่อยกันตรงนี้ มีคนเห็นพวกคุณต่อยกับคนสามสี่คน มีเรื่องอะไรกัน บ้าที่สุด ผมในฐานะหัวหน้าขาสั่นหน้าซีด ลูกน้องคนลพบุรีร่วงหล่น นอนตาปลิ้นน้ำลายฟูมปาก

หัวหน้าฯแกต้อง ว.เรียกพวกช่างฯ ให้มาพาพวกผมออกไปจากตรงนั้น ที่สุดแล้วเป็นพวกผมได้ ตีกับผีช่างการบินไทยที่แทงกันตายตรงนี้ เพราะเหตุทะเลาะเรื่องผู้หญิงที่เป็นแอร์โฮสเตส กลัว สุดขีด แต่ไม่ถอย ที่แปลกใจ หัวหน้าช่างฯแกบอกว่า เป็นแบบนี้มาปีกว่าแล้ว ผีคงยังไม่ไปใหน ที่พวกผมทำท่าทางเตะต่อยนั่นนี่นั่นแหละ พวกเรากำลังเคลิ้มไม่รู้ตัว เป็นครั้งแรกที่ผมเจอผีจังๆ   ยังมีอีกหลายครั้ง ที่พวกเราเจอผีในห้องเครื่อง ที่โรงงานปลากระป๋องสมุทรสาครปี 2528 ก็เจอ เอาน้ำอัดลมมาให้กินทั้งคืน มาทีไรยิ้มหวานมาก่อนเลย มารู้ตอนเช้าว่าเป็นอดีตแม่บ้านออฟฟิต ชอบดูแลช่างผู้ชายหล่อๆ เคยมีคนจูงมือเข้าไปในซอกเพื่อ...

ช่างที่ทำแบบนั้นป่วยงอมตาโหล อ้อ โรงงานปลากระป๋องเสี่ยคนดัง ที่ไปยิงตัวตายที่อเมริกานั่นแหละ แกลงทุนมากก็เครียดมาก


ขอบคุณ : เรื่องจากคุณat_thajak 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ