ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

มานั่งจ้องหน้าเอียงคออยู่ปลายเตียงอย่างหลอน...หอพักหลอนซอยข้างวัดพระศรี!!


สวัสดีครับผมขอเล่าประสบการณ์ขนหัวลุกของผมบ้างนะครับ เรื่องของผมเกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว สมัยมาทำงานกรุงเทพใหม่ๆ ช่วงแรกๆผมพักอยู่กับเพื่อนๆหลังจากที่ต่างคนต่างได้งานทำกันแล้วเริ่มตั้งตัวได้ก็เริ่มขยับขยายครับ ผมมีเพื่อนที่ทำงานด้วยกันแนะนำว่าที่เค้าพักถูกและเงินประกันไม่แพงผมจึงตัดสินใจตามเพื่อนไปดูและสอบถามห้องว่างจากเจ้าของหอครับ

แล้วผมก็ได้ที่อยู่ใหม่สักที  เป็นห้องใหม่ครับซึ่งเจ้าของหอบอกว่าพึ่งปรับปรุงทาสีใหม่ซึ่งผมมารู้ทีหลังว่ามันไม่ใช่อย่างที่เจ้าของหอพูดเลยซึ่งเจ็บใจมาก เอาเถอะคับมาฟังต่อดีกว่า ผมแปลกใจว่าห้องขนาดเท่ากันกับเพื่อนแต่ทำไมถูกกว่า ห้องว่างที่ผมจะเข้าอยู่ราคา 1xxx เองครับ ส่วนห้องเพื่อน 2xxx แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรครับเพราะโอเคกับห้องนี้มาก พร้อมเฟอร์พัดลม และ อินเทอร์เน็ต และผมก็ย้ายของเข้ามาอยู่ครับ

คืนแรกเพื่อนมานอนด้วยครับหลังจากช่วยย้ายของจัดของเหนื่อยกันมาก อาบน้ำนอนเล่นเน็ตแปปเดียวต่างคนก็หลับไปไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอตื่นเช้าเพื่อนก็กลับห้องตัวเองแยกย้ายกันไปทำงาน แต่สิ่งที่ผิดสังเกตุคือเส้นผมผู้หญิงครับ ผมยาว หลายเส้นมาก ไม่รู้มาจากไหน ซึ่งมันก็ไม่น่าจะปริวเข้ามาในห้องได้ ถึงจะเปิดหน้าต่างทิ้งไว้แต่ก็มีมุ้งลวด ผมต้องกวาดเอาเศษผมออกไปทิ้งถังขยะก่อนไปทำงานครับ
หลังจากดูความเรียบร้อยเสร็จแล้วผมก็อาบน้ำแต่งตัวไปทำงานครับผมจำได้ว่าผมล็อคห้องเรียบร้อยแล้วไม่มีใครเข้ามาในห้องได้แน่นอนแต่เมื่อเลิกงานกลับมาห้องปรากฏว่ามีเส้นผมอยู่บนหมอนของผมครับเป็นเส้นผมผู้หญิงผมยาว เหมือนที่ผมกวาดเมื่อเช้าเลย ผมชักไม่ตลกเลยถามเพื่อนเพื่อนบอกว่าไม่น่าจะมีอะไรนะเพราะว่าหอนี้มันเก่าแล้วถึงจะทาสีใหม่แต่ก็น่าจะมีฝุ่นมีอะไรอยู่ เพื่อนบอกให้ผมเลิกคิดมากครับแต่ไหงมันไม่มานอนเป็นเพื่อนผมล่ะคืนนี้

คืนที่ 2 ผมต้องนอนคนเดียวครับเพราะว่าเพื่อนไม่มานอนด้วยแต่ก็ไม่เป็นไรนะครับเพราะว่าเรายังไม่เคยนอนคนเดียวเลยก็เลยคิดว่าต้องลองนอนคนเดียวดูบ้างเพราะหลังจากนี้เราต้องใช้ขีวิตคนเดียว แล้วเจ้าของเส้นผมปริศนาที่ผมกวาดเมื่อเช้ากับที่เจอตอนเย็น เธอก็เผยตัวตนขึ้นมาครับ...หลังจากที่อาบน้ำเล่นเน็ตแล้วลมตัวลงนอนนั้นตอนที่ผมใกล้เคลิ้มหลับก็มีความรู้สึกว่าเตียงยุบลงไม่มีใครมานั่ง ผมไม่กล้าลืมตาครับเพราะว่าผมมีเซ้นท์เรื่องนี้ ผมรู้ตัวแล้วล่ะครับว่าเธอไม่ใช่คน ตอนนั้นผมตัวแข็งมากครับไม่กล้าจะขยับและไม่กล้าลืมตาเลยในหัวนึกจินตนาการไปต่างๆนานา

ผมพยายามรวบรวมความกล้าค่อยๆค่อยๆลืมตาขึ้นมาสุดท้ายแล้วก็ไม่มีอะไรครับ ผมลุกขึ้นมาเปิดไฟและทำการสวดมนต์บทใหญ่เลยครับเพื่อความสบายใจที่ผมก็รู้แล้วว่าเธออยู่ในห้องนี้แน่นอนห้องนี้เป็นห้องของเธอและเธอคงตายในห้องนี้ครับ คืนนี้ผมตัดสินใจเปิดไฟนอนทั้งคืนเลยครับพยายามข่มตาให้หลับจนในที่สุดก็หลับประมาณตีสี่ตีห้า ผมตื่นเช้ามาทำงานแล้วกวาดเส้นผมเหมือนปกติและปรึกษาเพื่อนเพื่อหาหอใหม่ครับเพื่อนบอกว่าออกตอนนี้ไม่ได้เงินประกันคืนนะแต่ผมคิดว่าไม่เป็นไรครับออกไปซะตอนนี้ดีกว่าหัวโกร๋นออกไปนะครับ

คืนที่ 3 ผมพยายามจะขอไปนอนห้องเพื่อนแต่ไม่มีเพื่อนคนไหนสะดวกเลย ผมจึงจำเป็นต้องนอนที่นี่อีกคืนครับ แล้วคืนนี้ผมก็ต้องเจอสิ่งที่ผมไม่อยากจะเจอที่สุดและผมจะไม่มีวันลืมสิ่งนี้เลย ผมคิดว่าคืนนี้ไม่น่าจะมีอะไรเพราะว่ามันเงียบมาก กลับมาก็ไม่มีอะไรที่ผิดปกติเลยครับอาจเป็นเพราะว่าเมื่อคืนผมสวดมนต์บทใหญ่ไปแล้ววันนี้เธอคงไม่มากวนผม แต่ผมคิดผิดครับเพราะวันนี้เธอจัดเต็ม ผมกำลังเคลิ้มเลยครับนอนตะแคงทางด้านขวาแล้วผมก็รู้สึกว่ามีคนมองผมอยู่ ผมทนความรู้สึกนี้ไม่ไหวจึงลืมตาขึ้นมาครับแล้วภาพที่อยู่ตรงหน้าทำเอาผมแทบช็อค นึกภาพตามนะครับผู้หญิงนั่งพับเพียบอยู่บนพื้น แขน 2 ข้างพาดอยู่บนเตียงเอามือทับกัน และเอียงคอนอนบนแขนของตัวเอง หน้าของเธอและหน้าของผมตรงกันครับ สายตาของเธอมองมาที่ผม ผมร้องออกมาสาวแตกเลยครับ กระโดดขึ้นเปิดไฟแทบไม่ทัน พอเปิดไฟเธอก็หายไป

จากนั้นไม่ต้องคิดครับผมเก็บข้าวของทันทีไปไหนล่ะครับไปเคาะประตูห้องเพื่อนสิครับ หน้าเธอยังติดตาผมอยู่ถึงทุกวันนี้เลยครับ ผู้หญิงผมยาวหน้าซีด ปากซีด ไม่มีตาดำ นั่งเท้าคางมองผมหลับ มันเป็นอะไรที่ทรมานใจผมมากในการที่จะลืม ยิ่งกว่ารักแรกพบอีกครับลืมยากมาก ติดตาเหลือเกิน...หลังจากที่ผมหาหอใหม่เรียบร้อยแล้วและได้หอใกล้ที่ทำงานมาก ผ่านไปสักพักเพื่อนของผมที่อยู่หอเดียวกันที่เคยมานอนเป็นเพื่อนผมก็ยอมปริปากเล่าให้ผมฟังว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนแรกที่ไปนอนเป็นเพื่อนผม

เพื่อนผมเล่าให้ฟังว่าในขณะที่นอนอยู่กำลังจะเคลิ้มหลับเห็นเท้าของผู้หญิงคนนึง ลอยอยู่เท้าไม่ติดพื้น เพื่อนผมมองมองตามเท้าขึ้นไปเห็นเป็นผู้หญิงผูกคอตายอยู่กับพัดลมเพดานหน้าเขียวช้ำทั้งตาทั้งปากมีเลือดไหลออกมา แต่เพื่อนผมเป็นคนจิตอ่อนครับไม่กล้าลุกไปพยายามกลั้นใจหลับตาและไม่มองมันอีกจนข่มตาหลับลงได้...ผมรู้สึกเสียใจนะครับที่เจ้าของหอเค้าเห็นแก่ตัวเกินไปยังปล่อยห้องนี้ให้คนเช่าอยู่ซึ่งฟันเงินประกันจากคนไปเยอะเลยทีเดียว บางคนจิดแข็งก็อยู่ได้หลายวันหน่อยบางคนจิตอ่อนก็อยู่ได้แค่วันเดียวครับ ถึงห้องนั้นจะดูใหม่น่าอยู่แค่ไหนแต่ก็ลบอดีตมันไปไม่ได้ และเธอก็ยังวนเวียนอยู่ในห้องนั้น

จนวันหนึ่งผมเล่นเน็ตเพลินเพลินก็คลิกเข้าไปเจอข่าวเก่าเกี่ยวกับหอพักอันนั้นครับ ซึ่งตรงกับที่เพื่อนผมเล่าให้ฟังเลยครับว่ามีผู้หญิงผูกคอตาย เพราะน้อยใจแฟน อยู่ในหอนี้ แล้วมันคือห้องที่ผมเข้าไปอยู่นั่นเอง ผมไม่ขอเปิดเผยชื่อหอชื่อหนังสือพิมพ์และข่าวนะครับ เพราะผมไม่อยากโดนฟ้องจากเจ้าของหอและให้เกียร์ติผู้ตาย บอกคร่าวๆได้แค่ว่าอยู่ตรงซอยข้างๆวัดพระศรีบางเขนครับ

นี่แหละครับประสบการณ์เจอผีของผมซึ่งมันทำให้ผมลืมไม่ได้จริงๆกับหน้าของเธอที่มองผมอยู่ตอนผมหลับ ฝันดีครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ