เรื่องเล่า พญานาค เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ ซึ่งเจ้าของเรื่อง ไม่เคยเจอในรูปกายแบบพญานาค แต่คิดว่าน่าจะใช่พญานาคแน่นอน บ้านเราเคยมีคนทักว่ามีพญานาคคุ้มครอง ทั้งที่เราไม่เคยบอกอะไรเค้า แต่บ้านเราเป็นบ้าน ที่งูเข้าบ่อยค่ะ บ่อยแบบบรรยายไม่ถูก ทั้งที่อยู่ในกรุงเทพ ไม่มีป่ารก ข้างๆไม่มีรังงู บ้านเป็นทาวน์เฮ้าส์ติดกันหมด แต่บ้านอื่นไม่เคยมีใครงูเข้า (ทั้งที่มันน่าจะผ่านก่อน)
แรกๆก็จะเป็นงูหลากพันธุ์ค่ะ เวียนๆกันไป พอมีคนทักมาเรื่องพญานาคก็เริ่มมาแปลกค่ะ เป็นงูเห่าบ่อยๆ งูพันธุ์ที่หายาก (ครั้งนึงคนแก่แถวบ้านบอกมาเค้าเป็นคนอีสาน บอกว่างูนี้ ขนาดในป่ายังหายากมากแล้วปัจจุบัน มาได้ไง 55) แต่มาดีนะคะ ไม่เคยกัดใคร ยกหัวขู่บ้าง แผ่แม่เบี้ยนิดนึงพอเป็นพิธี แต่เอาเรื่องกับคนนอกอยู่ ตานี่ดุปั้ดเลย บางที มานอนข้างหมาที่เลี้ยงไว้ นอนด้วยกันเป็นเพื่อนกันเลยก็เคย(ฮามากตอนนั้น) งูเห่าตัวขนาดแขนนอนติดหมาค่ะ หมาเราก็ปกป้องเค้าด้วย ไม่ใช่หวงนะคะ แต่เหมือนปกป้องกัน แต่บางทีมาเป็นงูเห่าตัวเล็กมาก แค่อยู่เฉยๆไม่ขู่ไม่แผ่แม่เบี้ย หมาเราดันกลัวเฉยเลย กลัวแบบหางจุกตัวสั่นซุกเราตลอดเวลาเหมือนเห็นอะไรที่ไม่เหมือนเราเห็น ที่เชื่อสุดๆเลยคือหลังจากนั้นไม่เคยมาแบบงูปกติๆอีกแล้วค่ะ
ครั้งแรกที่ไม่ปกติ เหตุการณ์งูลอย พี่เราเล่นกะหมาอยู่ตรงโซฟาข้างๆเป็นตู้เย็น ถัดไปน้าเราทำกับข้าวตรงนั้น จู่ๆหมาก็เห่า มองตามก็เห็นงูกำลังเลื้อยอยู่หน้าตู้เย็น เป็นงูเห่าค่ะ เลื้อยแบลชิลมาก พวกเราตกใจนะ ก็พยายามไปเรียกคนข้างบ้านมาช่วยตี พอกลับมาทุกคนเงียบมาก ตามองแต่งู งูก็เลื้อยไปเรื่อยค่ะไม่ได้สนใจอะไร แต่ที่อึ้งมากคือ งูมันเลื้อยไม่ติดพื้นค่ะ!! เลื้อยแบบลอยๆเรี่ยๆพื้น แต่ไม่ติดพื้นและไม่ใช่งูบินเหมือนต่างประเทศแน่นอน เห็นกันทุกคน เห็นกันแบบตาหลายคู่มาก พอดีพวกที่ไปเรียก
เค้ามาพอดีค่ะ ตอนนั้นงูก็เข้าไปอยู่ใต้โซฟามืดๆเลยไม่มีใครสังเกตว่างูมันลอยเรี่ยๆค่ะ มันก็แผ่แม่เบี้ย เค้าเอาไม้กระทุ้งเขี้ยวมันหลุดก่อนกลัวพลาดโดนกัดแล้วค่อยตีหัว
ตอนเค้าจะตีเหมือนยอมให้ตีเฉยเลยจนตาย พวกมาตีนึกว่างูสิงจะเอาไปกิน เห็นเป็นงูเห่าเลยไม่เอา
พี่เราเลยใส่ถุงไปทิ้ง เราเช็ดทำความสะอาดก็พยายามหาเขี้ยวมันก็ไม่เจอ(ก่อนไปคนตีบอกให้หาดูจะได้เอาไปทิ้งเด่วมีใครเหยียบเพราะมันติดพิษอยู่) พี่เราเอะใจไปดูถุงที่ทิ้ง ศพมันหายไปไม่เหลือคราบเลือดในถุงด้วยซ้ำ อึ้งกันเป็นแถบ ครั้งสอง งูเห่าครั้งเดียวกับที่หมาเรากลัวน่ะ ตอนนั้นมีสี่คนเพิ่มพี่เขยมาอีกหนึ่ง ไล่มันไปจนมุมที่ประตู นึกภาพประตูเปิดค้างอยู่ มันก็บังฝั่งที่เป็นผนังโล่งๆแค่นั้นเฉยๆใช่ม้า เราก็ยิ้มกริ่มกันเลยไม่รอดแน่ นับหนึ่งถึงสี่ เปิดประตูออกมา ผั้วะ…ไม่มีอะไรเลย มีแค่ผนังโล่งๆ เหมือนพี่แกวาร์ปไปเฉยๆ555 งงเป็นไก่ตาแตกอีกครั้งนึง พวกเราเรียกเหตุการณ์ครั้งนี้ว่างูหายค่ะ
หลังจากนั้นเวลางูเข้ามาก็จะชินๆ พันธุ์ดุแค่ไหนก็จะรู้สึกปลอดภัย ไม่ตีไม่ทำอะไรเค้า แล้วก็เลยไหว้งูที่บ้านทุกปี พอใกล้ๆวันไหว้จะมีงูจากไหนไม่รู้มาป้วนเปี้ยนตลอดวันเลย มาอย่างกะญาติมาขอพักร้อนด้วย555 วันแรกมาอยู่ในบ้าน เลื้อยเข้าไปหลังไมโครเวฟ เราก็ผลัดกันเฝ้ารอมันออกมาค่ะ ตั้งแต่บ่ายยันเย็น กินข้าวเล่นเกมส์มันตรงนั้นล่ะ จนเย็นมากเลยคิดว่าไล่ๆออกไปดีกว่าเพราะใกล้มืดแล้ว ก็ทำใจกล้าไปเปิดดูค่ะ หายไปไม่มีตามเคย ทั้งที่เฝ้ากันอยู่แท้ๆ แต่ตอนเช้าไปอยู่หลังบ้าน พอตอนไหว้ เค้าก็จะหาที่เหมาะๆอยู่ แล้วออกมาดูเราทำพิธีค่ะ ชูคอมองนิ่งๆแบบนานมากและจ้องมอง ตลอดพิธี จนคนที่เห็นขนลุกเลย บางคนอาจจะเถียงว่าที่งูมาเพราะจะมากินของเซ่น
แต่เค้าไม่ได้แตะเลยค่ะ มองแบบนั้นจนธูปหมดดอกถึงลดหัวลงไปพักผ่อน พอเสร็จพิธีเค้าก็ออกมามองอีกครั้งแล้วส่ายหัวน้อยๆเหมือนคนลาอ่ะ(ส่ายจริงๆ) แล้วเลื้อยหายไปไม่กลับมาอีกเลย งวดนั้นเลขที่แถมมาในธูปออกรางวัลเลขท้ายตรงเป๊ะ ไม่ต้องกลับเลย เสียดายไม่ได้ซื้อมัวแต่ไปพะวงเลขบ้าน 555
แล้วก็เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ไม่ได้อยู่บ้านหรอกค่ะ แต่คนแถวนั้นเห็นกันหมด และยืนยันตรงกันว่ามีงูที่ไม่มีใครแถวนั้นรู้จัก หัวสีแดง ตัวขาว หางเหลือง เลื้อยมาจากไหนไม่รู้ เห็นอีกทีอยู่แถวรั้วบ้านและเลื้อยเข้าไปแถวศาลพระภูมิ พอไปดูก็หายไปแล้ว หาไม่เจออีกตามเคย
ขอบคุณแหล่งที่มา : เทพบุตรชุดม่วง https://pantip.com/topic/31350176
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น