ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Jeffrey Dahmer เกย์โหดโครตคลั่งศพ!!..ฆาตกรโรคจิตที่ก่อคดีได้สั่นประสาทมากที่สุด!!


สำหรับเรา..ขอยกให้ซาตานตนนี้เลยค่ะ  Jeffrey Dahmer เกย์โหดโครตคลั่งศพ!!

เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ เกย์กินคนที่เป็นคดีที่โด่งดัง เป็นฆาตกร ที่นักจิตวิทยาอาญาให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ในการเลี้ยงดูบุตรและสาเหตุของความผิดปกติของการเสพติดการกินเนื้อคน เรื่องราวความเป็นมาของ เจฟฟรีย์ นั้นเริ่มต้นจากความวิปลาสและจบชีวิตลงอย่างวิปริต มันคือฝันร้ายของฆาตกรหน้าหยกที่ในที่สุดก็ถูกฆ่าอย่างทารุณด้วยการ "ถูกสอดด้ามไม้กวาดยาวเกือบ 3 ฟุต ทะลวงเข้าทวารหนัก" พร้อมกระหน่ำตีด้วยด้ามเหล็กเครื่องออกกำลังกายจนสมองแหลกเหลวและทำให้เขา "ตายคาที่" ลมหายใจของ เจฟฟ์ ดับสูญไปแล้ว แต่เรื่องราวของเขากำลังเริ่มเปิดฉากขึ้น

เรื่องจริงอันน่าสยดสยองเรื่องหนึ่งถูกเปิดเผยขึ้นในคืนวันที่ 22 กรกฎาคม ปี 1991 เมื่อตำรวจสายตรวจแห่งเมืองมิลวอกี้ ได้เข้าตรวจสอบห้องพักหมายเลข 213 ของอ็อกฟอร์ด อพาร์ทเม้นท์ ทันทีที่ย่างกรายเข้าไป พวกเขาได้พบกับห้องพักที่สะอาดเอี่ยม แต่มีกลิ่นเหม็นเน่าอย่างร้ายกาจ ผนังห้องประดับด้วยภาพถ่ายของศพที่ถูกกระทำอย่างวิปริต ในตู้เย็นเต็มไปด้วยศีรษะมนุษย์ หม้อทำกับข้าวมีแขนขามนุษย์ถูกตุ๋นจนเปื่อย และเครื่องตกแต่งที่ทำขึ้นจากหัวกะโหลก เจ้าของห้องคือ นายเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ ผู้ช็อกโลกด้วยฉายา “ฆาตกรกินคน”

เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์เกิดเมื่อ 21 พฤษภาคม 1960 ในครอบครัวที่ร่ำรวยเเละการศึกษาสูง เป็นบุตรชายคนโตของ ไลโอเนลและจอยส์ ดาห์เมอร์ ซึ่งในขณะนั้น ไลโอเนลผู้เป็นพ่อยังเป็นนักศึกษาในมหาลัยอยู่ ซึ่งภายหลังไลโอเนลได้กล่าวในหนังสือของเขาว่า "ในตอนนั้น พวกผมคงยังไม่พร้อมจะมีลูก" จอยส์แพ้ท้องอย่างรุนแรงและกินยาต่างๆ วันหนึ่งถึง 26 เม็ด หลังจากที่เจฟฟรีย์เกิดมา ไลโอเนลก็ทุ่มตัวให้กับการเรียนจนได้ปริญญาบัตรดอกเตอร์ด้านการวิจัยเคมีในปี 1966 ทางด้านจอยส์นั้น จากเดิมที่มีอาการประสาทอ่อนๆ สภาพจิตใจของเธอก็ไม่ปกตินักมาตลอด เนื่องจากความเครียดจากการเลี้ยงบุตร และมีการทะเลาะกับไลโอเนลบ่อยครั้ง เมื่อเธอท้องลูกคนที่สองก็ทานยาจำนวนมากอีกและต้องนอนอยู่เกือบตลอดเวลา วัยเด็กของเจฟฟรีย์จึงเติบโตมาพร้อมกับมารดาซึ่งมี อาการฮิสทีเรีย กับบิดาซึ่งยุ่งอยู่กับการวิจัยจนไม่ได้ใส่ใจครอบครัว

เจฟฟรีย์ในวัยเด็กเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัวและชอบอยู่คนเดียวในป่าใกล้บ้านมากกว่าออกไปเล่นกับเด็กคนอื่น เขาติดใจในชุดทดลองวิทยาศาสตร์ที่พ่อซื้อให้ และเอาศพของสัตว์ตัวเล็กๆ มาละลายด้วยกรดหรือดองฟอร์มาลีนบ่อยๆ เมื่ออายุได้ 4 ปี เจฟฟรีย์ สนใจในงานอดิเรกของพ่อเป็นพิเศษ นั่นคือการสะสมกระดูกและชิ้นส่วนของสัตว์สตาฟ เขาชอบเล่นโครงกระดูกแทนการเล่นตัวต่อพลาสติก พออายุได้ 6 ปี เจฟฟรีย์ต้องเข้าผ่าตัดด้วยโรคอัณฑะไม่เท่ากัน และหลังจากนั้นเขาก็กลายเป็นเด็กขี้อายและเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง จนกระทั่งอายุได้ 15 ปี เขาเริ่มมีงานอดิเรกแปลกๆ คือ ชอบสะสมอวัยวะของสัตว์ที่ตายแล้วโดยดองไว้ในถังพลาสติก บางครั้งก็เดินเก็บซากสัตว์มาฝังไว้ในสุสานส่วนตัว หรือตัดหัวสุนัขมาเสียบไม้เล่น

เมื่อเข้าชั้นมัธยม เจฟฟรีย์ถูกจับตามองว่ามีไอคิวสูง แต่เนื่องจากสภาพจิตใจที่ไม่ปกตินักและการขาดสมาธิ ทำให้ผลการเรียนจึงไม่ดีเท่าที่ควร หนำซ้ำเขายังก่อเรื่องมากมายจนถูกตีตราว่าเป็นเด็กมีปัญหา และในขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ของบิดามารดาก็แย่ลงเรื่อยๆ จนมีการใช้เชือกแบ่งอาณาเขตในบ้านก่อนที่ทั้งสองจะหย่ากัน เมื่อเจฟฟรีย์ มีอายุได้ 18 ปี นั่นทำให้เขาอ้างว้างยิ่งขึ้น เขาเริ่มออกเที่ยว ดื่มเหล้า ติดยาเสพติด และต้องถูกพักการเรียน สร้างความเป็นทุกข์ให้กับผู้เป็นพ่ออย่างมาก ปีนั้นเองที่เขาได้ฆ่าคนเป็นครั้งแรก

 ในช่วงนี้ เจฟฟรีย์กำลังจะเรียนจบชั้นมัธยม น้องชายของเขาไปอยู่กับแม่ที่ย้ายออกไปแล้ว บ่อยครั้งที่ในบ้านจะมีเขาอยู่เพียงลำพัง และในขณะเดียวกันเจฟฟรีย์ก็เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองเป็นเกย์ เขากลุ้มใจ ด้วยขนาดเพื่อนยังไม่มีเลย แล้วจะไปหาคนรักมาจากไหน เจฟฟรีย์เริ่มจินตนาการถึงคนรักในความคิด..คนรักที่ไม่ทรยศ ไม่ต่อล้อต่อเถียงและไม่หนีไปจากเขา ซึ่งภาพในจินตนาการนั้นยิ่งนานก็เหมือนศพมากกว่าคนเป็นๆ เขารู้ดีว่าตัวเองไม่ชอบผู้หญิงแต่ชอบผู้ชายด้วยกัน และชอบถึงขั้นที่จะเสพเซ็กซ์ด้วยอย่างเมามัน และเขาเองก็ไม่อาจระงับใจได้เมื่อพบกับหนุ่มๆ หรือเด็กชายหน้าตาดีที่ถูกอกถูกใจของเขาเหลือเกิน

ท้ายที่สุดเขาคิดว่าการเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยน่าจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น จึงได้หาทางเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตท ยูนิเวอร์ซิตี้ (Ohio State University) ซึ่งก็สร้างความรู้สึกดีๆ ให้กับเขาแค่เทอมแรกเทอมเดียวที่เข้าเรียนเท่านั้น เจฟฟ์ขอดร็อปการเรียนในเทอมต่อไป และไม่ได้กลับไปเรียนอีกเลยหลังจากนั้น และเป็นเรื่องที่ทำให้พ่อของเขารู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก

ฆ่าหนึ่งศพต่อหนึ่งสัปดาห์ เจฟฟ์นั้นเป็นฆาตกรโหดอยู่แล้วหลังจากมีประสบการณ์ร้ายๆ สะสมเพิ่มมากขึ้นทุกที แต่ในช่วงปี ค.ศ. 1991 นั้นเป็นช่วงที่เขากระหน่ำสังหารเหยื่อมากกว่าครั้งไหนๆ และถือเป็นการสร้างสถิติใหม่ รวมทั้งทำลายสถิตินักฆ่าต่อเนื่องรายอื่นๆ อย่างยับเยินด้วยการฆ่าหนึ่งศพต่อหนึ่งสัปดาห์ เขายังคงออกล่าและสังหารเหยื่อต่อไป ร่างของเหยื่อจะถูกตัดออกเป็นชิ้นๆ ราดด้วยน้ำกรดและน้ำยาเคมี เนื้อถูกย่อยสลาย ส่งกลิ่นร้ายกาจเช่นเดียวกับกระดูกที่ถูกกัดจนเป็นสีดำ จากนั้นก็เก็บมาดูเล่น ยังมีกะโหลกที่ถูกทาสีเทาและองคชาตที่ดองเก็บไว้ ในโหลช่วยเพิ่มความสุนทรีย์ยิ่งขึ้น และเพื่อความสะใจ เขาก็เริ่มกินศพด้วย หลังจากฆ่าปาดคอแล้วผ่าท้องศพในห้องน้ำ ข่มขืนศพ เนื้อส่วนหนึ่งถูกนำมาทำเป็นสเต็ก เขาใช้ยานอนหลับกับเหยื่อเพราะกลัวการปฏิเสธจากอีกฝ่าย และเพื่อจะได้มาซึ่งคนรักที่ไม่ทรยศ ไม่ปฏิเสธและไม่หนีไปไหน 

ต่อมาเจฟฟรีย์ก็วิวัฒนาการขึ้นไปอีกขั้น เขาตัดสินใจจะสร้างซอมบี้ขึ้นมาด้วยการผ่าตัดสมอง โดยการให้ดื่มยานอนหลับแล้วเขาก็เจาะศีรษะด้วยสว่านแล้วกรอกกรดเกลือลงไปในสมอง เหยื่อตื่นขึ้นมาร้องโวยวาย เขาจึงบีบคอฆ่าทิ้งเสีย บางรายเขาตัดหัวของเหยื่อมาต้มในหม้อจนหนังหัวหลุดออก และนำมาทาสีให้เป็นสีเทา จากนั้นก็ตั้งไว้ดูเล่นในห้อง บางครั้งครึ้มอกครึ้มใจ ก็สำเร็จความใคร่กับหัวกะโหลกนั้นด้วย จนกระทั้งยุติกับเหยื่อรายสุดท้ายในคืนวันที่ 22 กรกฎาคม 1991 ท่ามกลางหลักฐานต่างๆ ที่พบนั้น สิ่งที่ยืนยันว่าเจฟฟ์ "กินเนื้อ" เหยื่อแต่ละคนในลักษณะที่ไม่ใช่ "แค่ชิม" แต่เป็นการกินกันเป็นหลักเลยก็คือจำนวนชิ้นเนื้อมากมายที่ถูกหั่นและแล่เพื่อนำไปเก็บไว้ในตู้เย็น แสดงว่าเจฟฟ์มี "อาหารหลัก" เป็น "เนื้อมนุษย์" และคาดว่าคงทำแบบนี้มาแล้วหลายปี

"ดิฉัน แอน ชวาร์ทซ์ ผู้สื่อข่าว รายงานสดจากออกซ์ฟอร์ด อพาร์ตเมนต์ ห้อง 213 มิลวอกี ขอย่ำว่าดิฉันมาถึงที่นี้เป็นคนแรก ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังไม่กั้นเป็นพื้นที่เขตห้ามเข้า จากที่ได้เดินไปยังห้องหมายเลข 213 ดิฉันพบว่าภายในห้องเล็ก ๆ สะอาดเรียบร้อยมาก ตั้งแต่พื้นเตียงนอนเลยที่เดียว แม้แต่ตู้ปลาก็ใสสะอาด ตัดกับกลิ่นเหม็นเน่าที่ตลบอบอวลไปหมด ที่มาของกลิ่นนี้ พบว่าเป็นตู้เย็นที่ใส่ศีรษะมนุษย์ไว้ถึง 3 หัว ผลึกไว้ในถุงพลาสติกอย่างแน่นหนา เจ้าของห้องพยายาม ดับกลิ่นนี้ด้วยการใส่โซดาปิ้งขนมปังเอาไว้หลายกล่องด้วยกัน นอกจากนี้เมื่อเปิดฝาดูในหม้อทำกับข้าวก็พบมือ และอวัยวะเพศชายที่ถูกสับเป็นชิ้นๆ และเริ่มเน่าเปลือยแล้วด้วย ภายในห้องน้ำมีกะโหลกศีรษะ 2 หัววางไว้บนชั้น มีเหยือกแก้วใส่อวัยวะเพศชายดองไว้ด้วยฟอร์มาลดีไฮด์  มีภาพโพลารอยด์จำนวนมากในท่วงท่าต่างๆ ของเหยื่อที่เสียชีวิต มีทั้งภาพหัวคนตัดสดๆ วางอยู่ในอ่างล้างจาน  ภาพลำตัวที่ถูกตัดตั้งแต่คอลงไปถึงต้นขา รูปกระดูกเชิงกราน บางภาพเป็นรูปเหยื่อที่พันธนาการเอาไว้ก่อนเสียชีวิต 

ดิฉันได้ยินเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคนพูดว่า นี้เป็นคืนนรกแตกโดยแท้" ถังกรดเกลือของเจฟฟรีย์ หลังจากเขาฆ่าแล้วก็ละลายด้วยกรดเช่นทุกที  ผู้พิพากษาตัดสินว่าดาห์เมอร์ผิดจริงจากจำนวนเหยื่อ 15 ราย (เชื่อกันว่าตัวเลขเหยื่อจริงสูงกว่านี้) หลังจากนั้น 2 วัน บรรดาญาติของเหยื่อตางรอกันประหารชีวิตดาห์เมอร์ เเต่ฎหมายของรัฐวิสคอนซินไม่มีการลงโทษประหารชีวิต เขาถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 957 ปี มีการหาสาเหตุกันว่าอะไรดลใจให้ดาห์เมอร์ก่อเหตุฆาตกรรม อันน่ากลัวนี้ได้ ดาห์เมอร์ กล่าวว่าเขากำลังสร้าง "ทาสทางเพศผู้ซื่อสัตย์" เขาฆ่าเหยื่อเพราะไม่ต้องการให้เหยื่อไปจากเขานั่นเอง จิตแพทย์กล่าวว่า เขาอาจเป็นคน 3 บุคลิก อันเกิดจากความรู้สึกโดดเดี่ยวและไม่มั่นคงในวัยเด็ก

 25 พฤศจิกายน 1994 เวลา 9.11 น. -- นักโทษชายเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ กำลังก้ม ๆ เงย ๆ ทำความสะอาดห้องน้ำใกล้กับโรงยิมออกกำลังกาย เมื่อเงยหน้า แว่บหนึ่งเขาก็เห็นแท่งเหล็กที่ถอดจากเครื่องออกกำลังกายพุ่งเข้ามาหา มันทิ่มเข้าไปในกะโหลกศีรษะเต็มแรง ด้วยน้ำมือของนักโทษคู่อริ....เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ ตายคาที่ เเล้วของเพื่อนๆ หล่ะคะ คิดว่าฆาตกรรายไหน โรคจิตสุดๆ !!!
ขอขอบคุณ : https://pantip.com/topic/33275593
ขอขอบคุณเนื้อหาดีๆจาก : Pastel Cottage

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...