ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

10 เรื่องจริงสุดสะพรึง! ในค่ายนรกบนดิน 'Colonia Dignidad'


10 เรื่องจริงสุดสะพรึง! ในค่ายนรกบนดิน 'Colonia Dignidad'
1. ค่ายนรกนี้ถูกสร้างขึ้น และปกครองโดยนักบุญ...ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะค่ายนรก โคโลเนีย ถูกก่อตั้ง และปกครองโดยนักบุญชาวเยอรมันที่ชื่อว่า พอล เชฟเฟอร์ โดยก่อนที่เขาจะมาก่อตั้งคุกนรกแห่งนี้ ในอดีตเขาเคยร่วมขบวนการยุวชนฮิตเลอร์ในวัยหนุ่ม และเคยเป็นแพทย์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้กองทัพนาซีด้วย

โดยค่ายแห่งนี้มีผู้อยู่อาศัยกว่า 300 คน ประกอบไปด้วยคนเยอรมันและคนชิลี คลอบคลุมพื้นที่กว่า 137 ตารางกิโลเมตร เมืองแห่งนี้ยังชีพด้วยการทำเกษตรกรรม มีโรงเรียน โรงพยาบาล ลานบิน โรงอาหาร หรือแม้กระทั่งโรงไฟฟ้าอยู่ภายในนั้น สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ถูกปกปิดเป็นความลับ ล้อมรอบด้วยลวดหนามและ หอสังเกตการณ์ ผู้ใดที่เข้าไปแล้วจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมา และได้รับการสนับสนุนที่ดีจากรัฐบาลชิลีเป็นเวลานาน

2. เป็นสถานที่ทรมานมนุษส์สุดโหด...ในช่วงการปฏิวัติรัฐประหารของนายพล ออกุสโต้ ปิโนเช่ ของชิลี สถานที่โคโลเนีย ดิกนิแดด ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของการทรมานนักโทษ โดยในปี 1991 คณะกรรมการค้นหาความจริงและความปรองดองแห่งประเทศชิลี (National Commission for Truth and Reconciliation) ได้ออกมาแถลงการณ์ว่า “ผู้คนจำนวนมากที่ถูกจับไปในช่วงรัฐประหารนั้นได้ถูกส่งไปทรมานที่โคโลเนีย ดิกนิแดด และได้กลายเป็นนักโทษที่นั่น ชาวบ้านบางคนที่นั่นได้รับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ด้วย

3. ไม่เคยมีใครหนีออกมาได้...ผู้คนที่อาศัยอยู่ในค่ายนี้จะต้องใช้ชีวิตตามกฎที่นักบุญ พอล ได้กำหนดไว้ และน้อยคนนักที่จะสามารถหนีออกมาจากค่ายนรกแห่งนี้ได้ ไม่ว่าใครก็ตามที่พยายามจะหลบหนี สุดท้ายก็จะถูกจับตัวกลับไป โดยได้รับความร่วมมือกับทางการชิลีและทางการเยอรมนี ที่คอยหนุนหลังให้กับ พอล เชฟเฟอร์ อยู่

4. พอล เชฟเฟอร์ ล่วงละเมิดทางเพศเด็กชาย 26 คน...พอล์ล เชฟเฟอร์ผู้นำและผู้ก่อตั้งโคโลเนีย ดิกนิแดด ถูกกล่าวหาว่าได้ทำการละเมิดทางเพศกับเด็กชาย 26 คน เขาได้หลบหนีออกจากประเทศชิลีและถูกจับได้ที่ประเทศอาเจนติน่า ในปี 2005 นอกจากนั้น สมาชิกอีก 22 คน ถูกตัดสินความผิดในการรู้เห็นและช่วยเหลือในคดีล่วงละเมิดทางเพศ

5. สมาชิกในโคโลเนีย ไม่เคยรู้ว่าตัวเองทำผิด...ในเดือนเมษายนปี 2006 อดีตสมาชิกในกลุ่มโคโลเนีย ได้ออกแถลงการณ์ต่อสาธารณะด้วยเป็นการกล่าวขออภัยสำหรับ 40 ปีแห่งการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก โดยอ้างว่าพวกเขาตกอยู่ภายใต้ความเชื่อของผู้นำของพวกเขาและพวกเขายอมและทำตาม โดยปล่อยให้ลูกหลานของพวกเขาถูกละเมิดทางเพศ

6. พอล เชฟเฟอร์ เสียชีวิตในคุก...หลังจากพอลได้หลบหนีออกจากประเทศชิลี เขาก็ถูกจับได้ที่ประเทศอาเจนติน่า ในปี 2005 โดยถูกศาลของชิลีสั่งจำคุก 33ปี ในข้อหากระทำชำเราเด็กในหมู่บ้านกว่าพันคนและคดีอื่นๆอีก และเขาก็จบชีวิตในคุกที่ซานดิเอโก้ในปี 2010 

7. กว่าโลกจะรู้ว่ามีนรกบนดิน โคโลเนีย ดิกนิแดด...เมื่อสมัยที่ อดีตประธานาธิบดี ออกุสโต้ ปิโนเชต์ มีอำนาจในช่วงยุค 1973  พอล เชฟเฟอร์ ได้ร่วมมือกับทางการใช้เมืองแห่งนี้เป็นที่ควบคุมนักโทษทางการเมือง แต่เมื่อ ออกุสโต้ ปิโนเชต์ ได้สละอำนาจลงในปี 1990 ความจริงก็ปรากฎออกมาให้ทั้งโลกได้ช็อคไปตามๆกัน ถึงความโหดร้ายและความน่ากลัวของหมู่บ้านนี้ ซึ่งถ้ารวมระยะเวลาตั้งแต่พอล เชฟเฟอร์ สร้างโคโลเนียขึ้นมา ก็เป็นเวลากว่า 40 ปี ที่ต้องมีคนถูกทรมาน และถูกล่วงละเมิดทางเพศในสถานที่แห่งนี้

8. ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยว...ปัจจุบัน โคโลเนีย ดิกนิแดด ได้เปลี่ยนชื่อเป็น 'วิลล่า บาเวียร่า' และกลายสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งที่ชี้ให้เห็นความโหดร้ายของสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงสงคราม

9. จากเรื่องจริง สู่ภาพยนตร์...ฟลอเรียน กาเลนแบร์เกอร์ ผู้กำกับภาพยนตร์ Colonia กล่าวว่า 'ตอนนั้นผมยังเรียนอยู่ และได้ยินเรื่องเมืองนี้ที่ชิลี ที่คนที่เข้ามาอยู่ในเมืองนี้แล้วไม่สามารถหนีออกไปได้อีกและต้องทนใช้ชิวิตอยู่ราวกับนักโทษ มันทำให้ผมประหลาดใจมากว่าจะมีเมืองแบบนี้อยู่จริง และต่อมาขณะที่เขากำลังจะทำหนังเรื่อง JOHN RABE เขาได้มีโอกาสอ่านหนังสืออัตชีวประวัติของผู้ที่ร่วมสร้างเมือง COLONO ว่าคนที่อาศัยอยู่ในเมือง COLONIA นั้นมีความเป็นอยู่อย่างไร  หลังจากนั้นไม่กี่อาทิตย์ ผู้เขียนบท ทอร์สเทิร์น เวนเซล ก็ได้ส่งไอเดียที่จะทำหนังเรื่องนี้มาให้แก่ผม ซึ่งด้วยความบังเอิญที่เราคิดตรงกันทำให้หนังเรื่องนี้ได้เกิดขึ้น'

10. เอมม่า วัตสัน เคยเดินทางไป โคโลเนีย ดิกนิแดด...เอมม่า วัตสัน ได้เดินทางไปสถานที่จริง “วิลล่า บาเวียร่า” หรือชื่อเดิมชื่อว่า “โคโลเนีย ดิกนิแดด” ในช่วงเดือนกันยายน 2014 เพื่อทำการศึกษาเกี่ยวตัวละครที่เธอได้รับในภาพยนตร์ โคโลเนีย หนีตาย! 

ขอขอบคุณ : https://www.monomaxxx.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...