ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สถานที่หลอน “ผีในตู้ผ้า ที่เขาค้อ”


ผมเพิ่งกลับจากไปเที่ยวเชียงคานและเขาค้อกับครอบครัว การเดินทางราบรื่นดีครับ แต่เหตุการณ์ระทึกขวัญเกิดขึ้นในวันที่เราไปพักที่รีสอร์ทที่เขาค้อในคืนที่สอง ขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อที่พักนะครับ เพราะมันเป็น สถานที่หลอน วันนั้นทั้งวันเราไปตะลอนเที่ยวกันหลายที่ไล่ตั้งแต่ พระตำหนักเขาค้อ ทุ่งกังหันลม ไร่บีเอ็น แวะกินขนมจีนเจ้าดัง แล้วไปนั่งชิลล์ที่ร้านกาแฟ ปิโน ลาเต้

เหนื่อยเพลียเอาเรื่องทีเดียวครับ กลับมารีสอร์ท รับกุญแจตอนบ่ายสี่โมงกว่า บังกาโลสีแดงได้ใจ มีชื่อห้องว่า Butterfly 4 ภายในห้องเป็นเตียงไม้สักคู่ มีตู้เสื้อผ้าใบโต โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะหน้าทีวีห้องน้ำกว้างขวางแยกโซนเปียกแห้ง ผมสังเกตเห็น ซากแมลงกลางคืนติดตามมุ้งลวด แต่ก็นึกว่าเป็นเรืองปกติของที่นี่ ผมยังชี้ชวนให้ลูกสาวดูผีเสื่อกลางคืนสีหม่น ๆ ที่เกาะข้างประตู เราสามคนขับรถออกไปกินข้าวเย็นกันที่ร้านอาหารไม่ไกลรีสอร์ทนัก กลับมาถึงราวสองทุ่ม อากาศกำลังเย็นสบาย จันทร์แสยะยิ้มบนฟ้าโล่งเสียแต่ว่าฟ้ามืดสนิทจะมองหาดาวสักดวงก็ไม่มี ผมและภรรยาทะยอยกันอาบน้ำเพื่อเข้านอน ไอ้จะเล่นไลน์ส่งเฟสอัพเดทให้พรรคพวกอิจฉาเล่นก็จนแต้มเพราะแบตโทรศัพท์เกลี้ยงจากการใช้งานมาทั้งวัน

เราลากเตียงคู่มาติดกันทำเป็นเตียงใหญ่เพื่อนอนสามคน เตียงทำยังไงก็ไม่ชิดครับ มันยังเป็นร่องตรงกลางอยู่ดี ผมรับอาสานอนตรงกลางร่องนั้น แบบเสียสละให้ลูกและภรรยานอนสบายๆ สามทุ่มสิบห้าเราเตรียมจะปิดไฟนอนกะว่าเหลือแต่ไฟห้องน้ำกับไฟหน้าโต๊ะเครื่องแป้งไว้ รอท่าลูกสาวแปรงฟันให้เรียบร้อย เพราะตอนกลับมาจากกินข้าวยังโอ้เอ้กินขนมอยู่ “เธอ” ภรรยาเรียกผม แล้วผุดลุกนั่งกระซิบถามว่าได้ยินเสียงอะไรไหม ผมตอบว่าไม่ได้ยินอะไร เธอบอกว่าเป็นเสียงเหมือนสว่านเจาะไม้ ดังเป็นระยะๆ ว่าแล้วเธอก็ชี้ให้ผมดูตู้ไม้สักสำหรับใส่เสื้อผ้า ที่ตั้งอยู่ข้างๆ โต๊ะเครื่องแป้ง เธอบอกว่ากลัวเสียงนั้นมันเหมือนดังออกมาจากตู้ที่เราไม่ได้เปิดใส่เสื้อผ้าแขวนเลยสักชิ้น(เสื้อผ้าเราเรียงอยู่ในกระเป๋าสองใบ)

ระหว่างที่เราคุยกันนั้น ภรรยาผมว่าเสียงนั้นก็ยังดังอยู่ ดังสั้นๆ ระยะความห่างไม่แน่นอน เธอบรรยายว่าเสียงเหมือนช่างไม้กำลังเจาะไม้ยึดอะไรสักอย่าง นาทีเดียวกันนั้น ลูกสาวก็โดดผลุงมาจากห้องน้ำทั้งแปรงสีฟัน ลูกสาวว่าแอบฟังที่พ่อแม่คุยกันเธอกลัวลูกกลัวอีกคนมันทำให้บรรยากาศยิ่งแย่ลงว่าไหมครับ
ผมพยายามฟังเสียงนั่น อีกครั้ง อีกครั้ง เพื่อตั้งจิตอธิษฐาน ขอขมาลาโทษ หากพวกเราทำอะไรที่ไม่สมควร หรือลบหลู่เจ้าของที่เจ้าของทางที่ห้องนี้ แล้วในนาทีเดียวกันกับที่ผมตั้งจิตไม่ทันเสร็จสิ้นดี เสียงนั้นก็ดังถี่ราวสามครั้งติดต่อกัน เหมือนจะประกาศตัวตนให้ผมได้รู้  ผมได้ยินถนัด บัดนี้ภรรยาและลูกสาวนั่งกอดกันกลมบนเตียงไม้สัก

สาวสองวัยมองไปที่ตู้เสื้อผ้า ขณะผมลงจากเตียงไปหาที่มาของเสียง ภรรยาร้องห้ามว่าอย่าเปิดตู้นะ “กลัว” เปล่าครับผมไม่เชื่อคำทัดทานของเธอ ความกลัวมันไม่อาจสะกดความลับที่พร้อมจะเปิดเผยมันได้ ผมเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง ถอดสายชาร์ตโทรศัพท์ที่ชาร์ตเต็มแล้วออก แล้วบอกลูกกับภรรยาว่า
“เสียงสั่นโทรศัพท์พ่อเอง” อิอิ เป็นไงกันบ้างครับกับการ เล่าเรื่องผีฮาๆ



ขอบคุณแหล่งที่มา : https://pantip.com/topic/35963165

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ