ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

วิญญาณทาสผิวดำล้างแค้นนายหญิง


มาดาม เอลฟิล ลาลูรีน เป็นบุคคลชั้นแนวหน้า เป็นที่นับหน้าถือตาต่อชาวเมืองนิวออร์ลีนในสหรัฐอเมริกาเมื่อเกือบ200ปีก่อน จนกระทั่งถึงบทสุดท้ายเรื่องแดงออกมา ฉากหน้าเป็นหญิงใจบุญชอบช่วยงานการกุศล ที่แท้เป็นนางมารใจอำมหิต เข่นฆ่าและทรมานบรรดาทาสในคฤหาสน์อย่างไร้ความเมตตา

หลังจากคฤหาสน์ถูกชาวบ้านยึดเพราะทนเห็นเป็นสถานที่ทรมานเข่นฆ่าผู้คนไม่ไหว ต่อมาบรรดาดวงวิญญาณทาสที่ถูกฆ่าตายกลับมาสิงสู่ในคฤหาสน์หลอกหลอนผู้คน จนกระทั่งบัดนี้ แม้ว่าเหตุการณ์ผ่านไป170ปีเศษแล้วก็ตาม น่าแปลกที่สุดเหมือนกงกรรมกงเกวียนตามสนอง มีผู้พบเห็นวิญญาณหญิงคนผิวขาวถูกวิญญาณทาสผิวดำ ร่างบึกบึนใช้แส้เฆี่ยนตีจนล้มลุกคลุกคลาน “ปีศาจมาดามยังคงสิงสู่ในคฤหาสน์แห่งนี้ แต่อยู่ในสภาพถูกทรมานทุบตีจากทาสผิวดำ”ไกด์บริษัททัวร์แห่งหนึ่งกล่าว เขาเป็นผู้พานักท่องเที่ยวมาดูผีที่ตึกแห่งนี้เป็นประจำ วิญญาณมักปรากฎร่างบนชั้นที่3ของคฤหาสน์ทรงสเปน ปัจจุบันตั้งอยู่ที่1140 ถนนรอยัลเซนต์ เมืองเฟรนช์ ควอเตอร์ รัฐนิวออร์ลีน

ย้อนอดีตไปเมื่อค.ศ.1832 มาดามลาลูรีน สามีและลูกสาว2คนย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้ สามีของมาดามเป็นหมอ ชื่อดร.หลุยส์ ลาลูรีน แต่เป็นสามีประเภทกลัวเมีย ไม่กล้าหือกับเมีย อาชีพนายแพทย์ในยุคนั้น มีรายได้ดี เป็นที่นับหน้าถือตาของชาวนิวออร์ลีน(เมืองที่ชาวฝรั่งเศสอพยพมาตั้งถิ่นฐานมากที่สุด) เมื่อมีเงินทองล้นเหลือ มาดามของบ้านจึงจัดเลี้ยงงานบอลเป็นประจำ เป็นที่รู้กันว่าคฤหาสน์แห่งนี้มีแต่ความสุขสันต์ หลายปีผ่านไป ชาวบ้านจึงรู้ความจริงว่าคุณนายของบ้านที่มีบุคลิกเมตตาการุณย์ ที่แท้เป็นหญิงชอบซาดิสม์ มีความสุขมากต่อการถือแส้ม้าไล่เฆี่ยนตีทาสในบ้าน ถ้าขุ่นเคืองหนักเข้าก็ทรมานจนตายแล้วตัดคอทิ้ง

คนครัวซึ่งเป็นทาสผิวดำไม่เคยเห็นแสงสว่างดวงตะวัน ถูกล่ามโซ่ให้ทำงานอยู่แต่มนโรงครัววึ่งปิดทึบตลอด24ชั่วโมง ทาสคนอื่นๆถูกตบหน้า ถูกทำร้ายเมื่อทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ ทั้งที่ต่อหน้าแขกเหรื่อมาร่วมงานที่คฤหาสน์ แต่ความอำมหิตทั้งหมดชาวบ้านไม่เคยรู้ จนกระทั่งวันหนึ่ง ผู้คนบริเวณใกล้เคียงได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้โหยหวนอย่างเจ็บปวดจากชั้นดาดฟ้าของตึก เมื่อมองขึ้นไปทุกคนแทบไม่เชื่อสายตา ผู้ที่กำลังใช้แส้ม้าเฆี่ยนตีเด็กรับใช้ส่วนตัวเป็นผู้หญิงอย่างเมามันคือมาดามลาลูรีน เด็กหญิงผู้เคราะห์ร้ายทนความเจ็บปวดไม่ไหว ตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้า กระโดดลงจากดาดฟ้าทะลุหลังคาไปตายคาที่พื้นดิน ทุกฉากทุกตอนชาวบ้านนับสิบมองเห็นกับตาตนเอง แต่ยังไม่มีใครกล้าทำอะไรลงไป จนกระทั่งเดือนเมษายน ค.ศ.1834 ได้เกิดกลุ่มควันหนาทึบลอยจากห้องครัวในคฤหาสน์ เมื่อหน่วยดับเพลิงมาถึง(ใช้รถม้าลากถังน้ำ)นักดับเพลิงส่วนหนึ่งบุกเข้าไปในห้องครัวที่เป็นต้นเพลิง

ทุกคนล้วนผงะด้วยความตกใจ ทาสผิวดำจำนวน6คนถูกล่ามโซ่ไว้ในห้องครัว ต่อมาจึงรู้ว่าบรรดาทาสเหล่านี้ยอมตาย จุดไฟเผาห้องครัวให้ตนเองตายไปพร้อมกับความหายนะของคฤหาสน์ทั้งหลัง ชาวบ้านไปค้นตามห้องต่างๆเพื่อช่วยเหลือทาสอื่นๆออกมา พบอุปกรณ์ใช้ทรมานคนมากมาย ถึงตอนนี้ฝูงชนบ้าคลั่งแล้ว ต่างตามหามาดามลาลูรีนผู้อำมหิตเพื่อจับตัวมาลงประชาทัณฑ์ แต่สายไป มาดาม หมอผู้เป็นสามีและลูกสาว2คนชิงตัดหน้าเดินทางออกจากคฤหาสน์ไปลงเรือกลับกรุงปารีสไปก่อนหน้าไม่นาน ตึกแห่งนี้เป็นตึกร้างถึง30ปีเศษ ขณะเป็นตึกร้างมีผู้คนพบเห็นวิญญาณปรากฏอยู่เนืองๆ มีทั้งความร่าเริงเบิกบานในงานเลี้ยง มีทั้งฉากการทำทารุณ ต่อมาถูกดัดแปลงเป็นอพาร์ตเมนต์ เรื่องราวเล่าขานคนเจอผีจึงเกิดขึ้นมากมายหลายครั้ง ที่เห็นกันชินตาคือทาสผิวดำร่างกำยำเปลือยอกถือแส้หนังงูไล่ตีวิญญาณหญิงผิวขาววิ่งล้มลุกคลุกคลานพร้อมกับส่งเสียงร้องโหยหวน

เด็กๆพากันกลัวไม่กล้านอนคนเดียว เพราะมักมีกลุ่มควันคล้ายร่างคนปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ บางคนเคยเห็นเด็กหญิงกระโดดจากดาดฟ้า บางคนเห็นทาสผิวดำไร้หัวยืนถือหัวอยู่ในมือตนเอง กรรมเวรมีจริง บัดนี้กรรมสนองมาดามผู้ชั่วร้ายในโลกแห่งวิญญาณ เธอถูกทาสผิวดำกระทำทารุณเอาบ้าง จนกระทั่งบัดนี้ ตึกผีดุแห่งนี้กลายเป็นจุดขายการท่องเที่ยวของเมืองเฟรนช์ ควอเตอร์ นักท่องเที่ยวที่มาถึงเมืองนี้ ล้วนบอกให้ไกด์พาไปดูผีที่ตึกลาลูรีนแทบทุกคน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ