ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สะเทือนไปสามโลก! เมื่อ พระอรหันต์ "หลวงปู่เจี๊ยะ" ออกลีลาปราบผี!! ชนิดที่ทำเอาผีสะดุ้ง แหกกระเจิง!!


ในวงศ์พระกรรมฐานสายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท จะเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี เป็นที่ยอมรับเรื่องธรรมภายใน  กิริยาภายนอกที่สบายๆ ของท่านนั้นทำให้เป็นเหมือนม่านบังปัญญา บังตาเนื้อของชาวโลกที่นิยมชื่นชมด้านวัตถุ ชอบมองแต่สิ่งสวยงามภายนอก

แต่ไม่เคยหันกลับมาย้อนดูภายในใจตน จึงมองท่านไม่ออก บอกไม่ถูก รู้ไม่เท่าถึงในสิ่งที่มี ที่เป็น ที่ปรากฏภายในจิต เพราะธรรมชาติของจิตที่บริสุทธิ์ไม่มีอาการลวงเหมือนอาการทางกายวาจา
หลวงปู่เจี๊ยะเป็นผู้มีนิสัยประเภทตรงไปตรงมา พูดจาเสียงดัง โผงผาง ขวานผ่าซาก ถึงลูกถึงคน จิตใจเด็ดเดี่ยวกล้าหาญเหมือนนักเลง การสั่งสอนของท่านก็มีลักษณะเผ็ดร้อน ไม่เอาใจใคร แต่สามารถทะลุทะลวงเข้าสู่ความจริงได้  ด้วยบุคลิกและอุปนิสัยเช่นนี้เองจึงทำให้ชีวิตทางธรรมของท่านเป็นไปอย่างออก รสชาติ โลดโผนโจนทะยาน และเต็มไปด้วยความสนุกสนาน

ดังเช่นในคราวหนึ่งที่หลวงปู่เจี๊ยะได้รับนิมนต์ให้ไปเผยแผ่ศาสนาที่ประเทศสิงคโปร์  ขณะที่กำลังพำนักอยู่ที่บ้านพักของญาติโยมนั้นก็มีโยมชาวอินโดนีเซียมานิมนต์ท่านไปที่เกาะบาตั้ม ประเทศอินโดนีเซีย เพราะที่นั่นเขาร่ำลือกันว่าผีดุมาก เฮี้ยนมาก  คนงานที่โรงงานล้มป่วยกันมากโดยไม่ทราบสาเหตุของโรคที่เป็น  เจ้าของโรงงานไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เพราะไม่มีใครกล้ามาทำงาน คนงานกลัว หนีหมดเลย  หาหมอผีมาจากที่ต่างๆ ก็เอาไม่อยู่ เฮี้ยนมากๆ  เขาจึงนิมนต์หลวงปู่ไป  นั่งเรือไฮโดรสปีดจากสิงคโปร์ไปเกาะบาตั้มประมาณ ๔๐ นาที

เมื่อไปถึงที่โรงงานแห่งนั้น หลวงปู่เจี๊ยะอุทานว่า "โอ้โฮ! ผีเยอะฉิบหายเลย"  ท่านจึงให้เขาเอาผ้าขาว ผ้าแดง มาเขียนยันต์ แล้วนำมาห่อก้อนหิน แล้วจึงนั่งสมาธิปลุกเสก  ในขณะที่ทำพิธีอยู่นั้น หลวงปู่กระซิบบอกพระผู้ติดตามว่า "เฮ้ย! อย่าไปบอกใครนะ เดี๋ยวถึงหูอาจารย์มหาบัวเข้า ด่าผมแน่เลย" เมื่อปลุกเสกเสร็จ หลวงปู่เจี๊ยะก็ขึ้นนั่งรถเข็นให้พระผู้ติดตามเข็นไปตามทิศทางที่ท่านสั่ง  ท่านกำหนดสมาธิแล้วบอกทิศทางให้พระเขวี้ยงก้อนหินไล่ผีตามที่ท่านสั่ง  เดี๋ยวก็ทางซ้าย เดี๋ยวก็ทางขวา  เสียงเขวี้ยงดังปังๆๆ  บางทีพระเขวี้ยงไม่ถูกตามจุดที่ท่านสั่ง ท่านก็บอกว่า

"นั่น...มันหนีไปทางนั้นแล้ว เข็นๆ ตามมันไป"

พระรูปนั้นเล่าว่า เหมือนในหนังโปเยโปโลเยยังไงยังงั้นเลย!! เมื่อพระผู้ติดตามทำไม่ทันใจท่าน ท่านก็พยายามลุกขึ้นมาทำเอง  แต่เท้าของท่านบวมอยู่ ใส่รองเท้าไม่ได้ ท่านจึงเอาเชือกมัดรองเท้าให้ติดกับเท้า แล้วพันหลายๆ รอบ เดินเป๋หน้าเป๋หลัง จวนเจียนจะล้ม

"มาจับกูหน่อยซิ...ไอ้ห่า กูจะล้มอยู่แล้ว" ท่านตวาดเสียงดัง

"ไอ้ผีพวกนี้มันหนีไว ชักช้าไม่ได้ เราต้องเร็ว"

เมื่อเสร็จพิธี หลวงปู่เจี๊ยะก็พักอยู่ที่นั่นสองวัน แล้วจึงเดินทางกลับสิงคโปร์ มาพักที่วัดป่าเลไลยก์  คืนที่พักวัดป่าเลไลยก์นั้น ท่านเล่าว่า "โอ้โห! ผีใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่ม ดำปึ้ดเลย จะมาทับผม  เกิดมาในชีวิตผมเจอผีดุสองครั้ง  ครั้งแรกที่วัดเขาแก้ว  ครั้งนี้ผีดุ แม่งมันใหญ่ฉิบหายเลย จะมาทับ  โอ้โห! อย่างใหญ่ ... เมื่อคืนปราบไปเรียบร้อย ส่งไปเกิดแล้ว ... สบาย"

ท่านพูดจบแล้วก็หัวเราะยิ้มๆ ...
ที่มา : หนังสือ "หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง" (ฉบับสมบูรณ์)

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ