ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ดวงยังไม่ถึงคาดนะเนี่ย เส้นนี้แหกโค้งตายกันไม่รู้เท่าไหร่...มอเตอร์ไซค์ที่ตามมา เกาะสมุย!!


เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ที่ส่งมาจากคุณดุ๊กดิ๊ก เกิดขึ้นที่เกาะสมุย โดยคุณดุ๊กดิ๊กเล่าให้ฟังว่า.. ทุกๆ ปี ผมจะไปเยี่ยมแม่ ที่เกาะสมุย แม่ผมมีอาชีพค้าขาย อยู่บนเกาะสมุยครับ ผมไปครั้งนึงก็อยู่ประมาณ 3-4 วัน นั่งรถทัวร์จากกรุงเทพฯ ตอนมืด เพื่อที่จะไปถึงท่าเรือเช้าครับ พอผมไปถึงเกาะแล้ว ก็กะว่าจะนอนพักที่บ้านแม่สักพักนึง แต่กลับนอนยาวมาถึงเย็นเลย ผมก็ออกมาช่วยแม่ขายของช่วงเย็นพอดี

พอช่วยแม่ขายของเสร็จ เก็บร้านกันเกือบๆ 5 ทุ่มแล้วครับ.. ผมบอกแม่ว่า จะเข้าไปในเมือง ไปเล่นเกมหน่อย แต่ที่ที่ผมอยู่ มันไกลจากตัวเมืองพอสมควร แม่ผมได้ยินทีแรกก็ห้ามครับ บอกว่าช่วงกลางคืน บนเกาะอันตรายมากอย่าไปเลย แต่ด้วยความที่ผมติดเกม ยังไงก็จะไปให้ได้ สุดท้ายก็ดื้อออกไปจนได้.. ระยะทางจากบ้านผม เข้าเมือง ประมาณ 25 กิโลครับ เพราะผ่านหลายตำบลบนเกาะ ผมยืมรถมอเตอไซค์น้าไป ออกจากบ้านประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง ก็ขี่ไปปกติ มองรอบๆ นี่เป็นป่าหมดเลยครับ ขึ้นเขาลงเขาเป็นช่วงๆ ไฟถนนมีบ้าง ไม่มีบ้าง บ้านคนตามถนนข้างทาง ห่างกันเยอะมาก กว่าจะเจอแต่ละหลังก็หลายกิโลอยู่.. จนมาถึงร้านเกม ได้เล่นสมใจอยาก ยาวไปจนถึงตี 3 เจ้าของร้าน ก็มาบอกว่าจะปิดแล้วนะ ทีแรกผมนึกว่าเปิด 24 ช.ม. เหมือนกรุงเทพฯ ตอนก่อนกลับ มีมาทักผมด้วยนะครับว่า ‘กลับเวลานี้ ก็ระวังด้วยล่ะ’ เค้าคงรู้ว่าผมไม่ใช่คนแถวนี้ ผมก็ไม่ได้คิดอะไร

ขากลับ ผมก็ขี่กลับทางเดิมตามปกติ ดึกๆ นี่อากาศเย็นมากครับ จนมาเข้าเขตที่เป็นป่าเยอะๆ ตอนนี้ทั้งบ้านคน ไฟถนนดับหมดเลยครับ มืดสนิท มีแต่แสงไฟจากรถมอเตอไซค์ผม.. พอมืดแบบนี้ ใจมันก็หวิวๆ ละครับ.. ผมเห็นถนนมันโล่ง ก็อัดเลย 100 กว่าได้.. พอมาถึงช่วงเนินเขา ผมได้ยินเสียงมอเตอไซค์ครับ เป็นเสียงมอเตอไซค์เก่าๆ ที่ท่อดังแตกๆ มาจากด้านหลัง ผมก็รู้สึกโล่ง มีเพื่อนร่วมทาง ทีนี้ไอ้เสียงมอเตอไซค์คันที่ว่า มันดังขึ้นเรื่อยๆ เหมือนจะตามมาใกล้ๆ ผมก็ลองหันหลังกลับไปดู แต่สิ่งที่ผมเห็นคือ มันไม่มีอะไรตามผมมาเลย แต่ยังคงได้ยินเสียงดังไล่ตามมาติดๆ ใกล้ๆ เลยครับ ตอนนั้นผมบิดหนีสุดชีวิตเลยครับ.. แล้วจู่ๆ เสียงก้อหายไป ผมก็ลดความเร็วลง หัวใจนี้เต้นรัวเลย

ผมขี่ต่อไป แต่ยังไม่พ้นเขตป่า สักพักมีแสงไฟมาจากด้านหลัง เป็นมอเตอไซค์วิ่งมาอย่างเร็วครับ และก็เร่งมาอยู่ข้างๆ.. ผมเหลือบหันไปมอง เจอมอเตอไซค์คันใหญ่ ที่คนขี่ไม่มีหัว.. ผมตกใจมาก และพอหันหน้ากลับมาอีกที ก็เป็นทางโค้งที่มีป้ายบอกทาง ผมเบรคไม่ทัน เท่านั้นล่ะ ชนป้ายบอกทาง คว่ำไปอยู่ข้างทางเลย ตอนนั้นแขนซ้ายผมถลอกหมด แต่ด้วยความที่ผมกลัวมาก รีบพยุงมอเตอไซค์ขึ้น แล้วรีบสตาร์ทเครื่อง บิดหนีเลยครับ ผมนี่สั่นไปหมด.. พอมาถึงบ้าน รีบเรียกแม่ให้เปิดประตูด่วนเลย แม่ผมเปิดประตูมา ก็ตกใจ ทำไมแผลเต็มแขน ผมไม่พูดอะไรรีบขึ้นนอนทันที

หลังจากเรื่องคืนนั้น เพื่อนแม่ที่ขายของในตลาดบอกว่า ถือว่าดวงยังไม่ถึงคาดนะเนี่ย ช่วงตี 3 บนเกาะนี้ ไม่มีใครออกไปตามถนนหรอก เพราะถนนเส้นรอบเกาะนี้ มีนักท่องเที่ยวซิ่งแหกโค้งตายกันไม่รู้เท่าไหร่ และส่วนมากศพก็จะหัวขาดด้วยสิ ไม่รู้ทำไม.. และอีกความเชื่อหนึ่ง ที่ได้ยินมาของเกาะนี้ คือจะมีพวกเล่นไสยเวทย์ ปล่อยของออกมาวิ่งเล่นกันตอนกลางคืนดึกๆ.. ผมนี่เข็ดเลยครับ หลังจากนั้น ทุกครั้งที่ไปหาแม่ที่เกาะ ผมก็ไม่ออกไปเล่นเกมดึกๆ อีกเลย



Story by คุณดุ๊กดิ๊ก

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...