ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

“อย่าเอ่ยปากเชิญแขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้าบ้าน” พวกเองมากัน 5คนหรอ ทำไมพี่เห็น 6คน


สวัสดีค่ะเพื่อนๆ สมาชิกทุกท่าน นี่เป็นกระทู้แรกของ จขกท นะคะเป็นเรื่องจริงที่เจอมากับตัว อาจเขียนตกหล่นบ้างต้องขออภัยไว้ด้วย เป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน


เมื่อตอนประมาณ ปี2552 ตอนนั้นจขกท.อยู่ม.6 แล้วที่บ้านกำลังหาซื้อบ้านใหม่ เนื่องจากว่าบ้านเดิมเป็นทาวน์เฮา ป๋าเราเลยอยากได้บ้านเดี่ยวสวยๆซักหลัง ราคาเบาๆ เลยตัดสินใจไปดูบ้านหลังนึงที่ไม่ห่างจากบ้านเก่าเราเท่าไหร่ วันนั้นตอนเย็นๆเลิกเรียน เรา กับที่บ้านเลยขับรถไปดูบ้านหลังนั้น ขออธิบายนะคะว่าบ้านหลังนั้นสวยมากก เป็นบ้านชั้นครึ่ง ตอนแรกเดินเข้าไปโอ้โหหห พื้นที่ใช้สอยเหลือเฟือ มีเฟอร์ฯครบอิมพอร์ตจากเมืองนอก เพราะเป็นบ้านของภรรยาคนต่างชาติ ซึ่งน้าเค้าจะย้ายไปอยู่กับสามีที่อังกฤษ เราก็แบบชอบมากนะแต่ติดตรงที่เป็นบ้านมือสองเลยไม่โอเค ม๊าเราไม่ค่อยว่าอะไรเพราะใกล้ที่ทำงานม๊ามากกว่า หลังจากดูบ้านเสร็จเราก็กำลังจะขับรถกลับกัน แต่ทางหน้าบ้านคุณน้าคนนั้นเป็นทางเดินรถทางเดียวซึ่งกลับรถไม่ได้ ป๋าเราเลยขับไปข้างหน้าก่อนเพื่อหาที่กลับรถ สองข้างทางเปลี่ยวมาก เราคิดในใจ ทำไมทางกลับรถมันไม่มีเลยนะ ทั้งๆที่1ทุ่มกว่าๆ มืด เปลี่ยวและน่ากลัวมาก


ทางซ้ายมือคล้ายๆเป็นโรงงานเล็กๆทำอะไรซักอย่าง พอเห็นทางข้างหน้าเป็นทาง4แยกเล็กๆ ซึ่งแน่นอนไม่มีรถเลย มีแต่คันของที่บ้านเรา ป๋าเราก็หักท้ายมาซ้ายมือ ปรากฏว่า. ทางขวามือเป็นหอพัก! เรามองครั้งแรกตกใจมากจากลักษณะของหอคือ เป็นหอ2ชั้น และไม่มีห้องไหนเปิดไฟเลย มันแปลกอ่ะแปลกมากที่สำคัญ มีต้นโพธิ์ใหญ่กลางซอยเข้าหอ บ้าไปแล้วด้วยความที่ปากไวกว่าความคิดเลยพูดขึ้น”หอบ้าอะไรอยู่ทางสี่แพร่ง มืดก็มืดน่ากลัวอ่า” พี่เรา ป๋าม๊าเราเงียบหมดไม่มีใครพูดอะไร เราชะงักเพราะคิดว่า อ้าวชิหายล่ะตรูทำไมทักแบบนี้วะปากเสียจริงๆ ปกติเราจะเป็นคนเห็นอะไรแปลกๆตอนกลางคืนบ่อยมากกกกกก แต่ละครั้งทำเราสยองหลอนไปหลายวัน และหลังจากนั้น เราก็เริ่มเจอเหตุการณ์แปลกไม่รู้ว่าเราคิดไปเองรึว่าอะไร วันนึงเราโดดเรียนไปกับเพื่อนๆ(ฮี่ๆตอนสมัยนั้นเกเรมาก) เราไปกับเพื่อนประมาณ5 คนรวมเราด้วย นั่งรถเมล์ไปวังหลัง ระหว่างที่เพื่อนเรากำลังจ่ายตังค่ารถเมล์ ยื่นแบงค์50ให้ กระเป๋าทอนมา2บาท พวกเรางงมาก มันถามเรามากันกี่คนวะ? เราบอก5คนนะทำไมหรอ มันเลยทวงตังทอนอีก8บาทจาก กระเป๋ารถเมล์ และ


พี่กระเป๋านางบอกว่า “อ้าว ก็6คนไง ถูกแล้วนิ ”

เพื่อนเราเถียง ” พี่6คนที่ไหน หนูมา5คน”
พี่กระเป๋า “น้องผู้หญิงผมหยิกเสื้อพละนั่นไง”

พวกเรามองหน้ากัน แล้วเงียบไม่พูดอะไรอีกเลย เพื่อนที่นั่งเบาะข้างหลังคนเดียวรีบวิ่งขึ้นมานั่งข้างหน้าพวกเรา และเราก็ไปเดินเล่นวังหลังกัน เราก็ตะหงิดๆแล้ว เอ๊ะ!ไอ่กระเป๋ามันอำป่ะหว่ะ ช่างเหอะๆ แค่8บาทเอง


วันต่อมา เราก็คุยกะเพื่อนเพราะในตอนนั้นธุรกิจขายโปรตีนเชคๆ กำลังมา เราบอกเพื่อนว่าจะไปสัมนาเผื่อจะหารายได้เสริมบ้าง เราก็นั่งเล่นกันอยู่ประมาณ 4-5ชะนีแอนด์เดอะแก็ง ตอนนั้นพักเที่ยง โรงเรียนเรามีห้องเรียนประจำเดินเรียนบ้างบางวิชา เราเรียนศิลญี่ปุ่น ห้องอยู่ชั้น3 พอดีมีเพื่อนห้องวิทย์มาคุยกะเพื่อนเก้งในห้องเรา และหันหน้ามาทางพวกเราแบบแปลกๆ พวกเราก็ไม่ได้อะไร หลังจากเพื่อนห้องวิทย์คนนั้นกลับห้องไป เพื่อนเก้งนามสมมุติ เก่ง ก็เดินมาหาพวกเราที่นั่งคุยกันอยู่และยิงคำถาม

เก่ง “พวกเอ็งมีกันแค่นี้หรอ เมื่อกี้ใครใส่ชุดพละผมยาวๆหยิกๆว่ะ นั่งหันหลัง? ใช่ไอ่ เอ้(นามสมมุติ) ป่ะ?พวกเอ็งรู้จักมันด้วยหรอ?”

อ้าวงงเป็นไก่ตาแตก เอ้นี่ห้องวิทย์ ซึ่งพวกเราไม่รู้จัก ตรูอยู่ของตรูแค่นี้

เรา “เ มิงบ้าหรอ ตรูอยู่กันแค่นี้ ไม่มีใครมานั่งด้วย”
เก่ง “เมื่อกี้ บี(นามสมมุติ) เห็นว่ามานั่งตรูก็เห็นมานั่งด้วยเลยงง ”
เพื่อนเรา “และเอ้นี่นั่งข้างใคร?”
เก่ง “ข้าง เอ็งอ่ะ e….(ตรูเองงง)” มานั่งกะตรูทำไม
เพื่อนเรา “และตอนนี้เห็นป่ะล่ะ”
เก่ง “เออ มันหายไปไหนวะ”

เพื่อนหันมามองเรา แบบสยองๆ เรานี่เงิบเลยจ้า เก่งเลยเดินจากไป ทิ้งพวกเรางงและสยองๆ มันเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อวานกับวันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เราไม่ชอบเลยนี่มันกลางวันนะเว้ยย!! จะบอกว่าที่เกิดขึ้นกับเรามันเป็นเวลา 1อาทิตย์เท่านั้น ตั้งแต่ไปดูบ้าน พอวันเสาร์เรานั่ง btsไปลงเพลินจิต สัมนาเสร็จเกือบ3ทุ่ม เราเขว้งเลยไม่รู้ว่ากลับบ้านยังไง บ้านต้องกลับทางสายใต้ใหม่ เราเลยนั่งรถเมล์ไปแถวๆถนนเส้นนึงแถวๆจุฬา เราจำไม่ได้ว่าที่ไหน ตอนนั้นเราโทรถามทางเพื่อนและเพื่อนบอกเรานั่งรถผิดฝั่ง ให้ลงรถและข้ามสะพานลอยมาฝั่งตรงข้ามนั่งรถสายเดิมกลับ ระหว่างลงรถเราเดินขึ้นสะพานลอยมาเราเห็น ผู้ชายคนนึงใส่เสื้อสีน้ำตาลกางเกงสียืนๆหน่อยเดินตามขึ้นมา เราเลยกลัวว่าจะอันตรายรึป่าวเลยหันไปมองอีกที ตอนนั้นเราได้ยินเสียงคนเดินตามมาติดๆ หันหลังไป


….. ว่างเปล่าไม่มีใครเลย!!! เรากลัวมากวิ่งลงให้เร็วที่สุด เพื่อนเราบอกใจเยนๆ เป็นอะไร เราบอกขอวางก่อนนะถึงบ้านเดี๋ยวโทรหา ระหว่างทางที่เรานั่งรถตู้กลับบ้านซึ่งมันดึกแล้ว เรารู้สึกมีคนนั่งข้างหลังตลอดเวลา เราระแวงหันไปมองบ่อยมากแต่ไม่เจอใคร รถตู้มีคนน้อยมาก เหตุการณ์ทุกอย่างเราจำได้ไม่มีวันลืม


ตอนนั้นที่บ้านเราป๋าม๊าเค้าเจาะผนังบ้านซึ่งบ้าน เป็นทาวน์เฮาส์ทำอะไรได้ยินเสียงหมด เรากลับมาก็อาบน้ำ ตอนนั้นเราเลี้ยงหมาด้วยเอาหมามานอนในห้องทุกวัน อายุ2ดือนพันธุ์เทอร์เลีย เราเพลียมากไม่ได้โทรหาเพื่อนเลยหลับไป เราตื่นขึ้นมาอีกที หมาเรามันร้องเอ๋งๆหิ้วน้ำเลยเติมน้ำให้มัน ปกติมันไม่เคยตื่นมาเอ๋งอ๋างอะไรเลย เราเดินมาเอาน้ำให้มันไฟข้างล่างปิดหมดแล้ว เอาน้ำให้มันเราก็นอนต่อ อธิบายลักษณะห้องเรานิดนึงนะคะ เป็นห้องเล็กๆเปิดประตูเข้ามาตู้เสื้อผ้าอยู่ซ้ายมือเรียงจนถึงกำแพงอีกฝั่ง ขวามือใกล้ประตูเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง เตียงเราอยู่ทางขวามือติดหน้าต่าง ทีวีอยู่ปลายเท้า หมาเรานอนใกล้ๆกับโต๊ะข้างเตียง เตียงเราขนาด3.5ฟุต พอนอนคนเดียว เราเป็นคนนอนตะแคงข้างซ้ายซึ่งจะหันหน้าไปทางหน้าต่าง หันหลังให้ประตู พอกำลังจะหลับเคลิ้มๆกึ่งหลับกึ่งตื่น เรารู้สึกว่าปลายเตียงเรายุบ ฟุบบ! เราคิดว่าทำไมเตียงยุบวะ อ้ออ ม๊าคงเข้ามานั่งห่มผ้าให้เรารึป่าวแต่…. เราเป็นคนล็อคกลอนทุกครั้งที่ปิดประตูห้อง


เอ๊ะ! รึว่าเจ้าหมู(หมาของเรา)มันกระโดดขึ้นมาขอนอนด้วยแต่…. มันแค่2เดือน เดินยังไม่แข็งกระโดดนี่ไม่มีทางเพราะเตียงนี่สูงกว่ามันมาก ระหว่างที่คิดนั้น ฟุบบ! เห้ย ..ขยับมากลางเตียงแล้ว คิดว่าในห้องนี้มีแค่เรากับหมาเท่านั้นถ้าจะมีอะไรก็ไม่ใช่คนแล้วหล่ะ ฟุบบ! คราวนี้ครึ่งเตียงยุบลงไปหมดเลยรวมถึงหมอนด้วยเหมือนมีคนนอนข้างๆเรา เรากลัวมากเรายังนอนตะแคงไปทางหน้าต่าง เรารู้แล้วว่าเราเจอเข้ากับอะไร เลยท่องบทสวดมน “นะโมตัสสะ..” กำลังจะท่องต่อ มีเสียงนึงพูดข้างๆหูเราขึ้นมาว่า “ไม่ต้องท่องหรอกไม่ได้ช่วยอะไร” และมีเสียงหัวเราะในลำคอเสียงเย็นน่ากลัวมาก เราแยกไม่ออกว่าเสียงผู้หญิงรึว่าผู้ชาย


พิมพ์ไปขนลุกไปเมื่อคิดถึงตอนนั้น นอนน้ำตาไหล กระดุกกระดิกไม่ได้ กลัวจนทำอะไรไม่ถูก เค้าตนนั้นนอนข้างหลังเรานานเท่าไหร่ไม่รู้ เรารู้อีกทีก็ประมาณตี4 กลัวมากนั่งร้องไห้ ผวา คิดทบทวนว่าเมื่อกี้คืออะไรเรากำลังนอนๆอยู่ ได้ยินเสียงทุบกำแพง ข้างๆหน้าต่างที่เรานอน ทุบแรงมากกกก เลยมาทุบทั่วห้องเลย ทุบอยู่นั่น เราคิดว่าป๋าม๊าเราทำที่แขวนรูปเจาะผนังข้างล่างรึป่าวแต่นี่มันตี4 คงหลับกันไปหมดแล้ว เราผวาเปิดไฟเลยทีนี้ อยากวิ่งไปห้องป๋าม๊าข้างๆ แต่เกรงใจเพราะมันจะเช้าแล้วข่มตานอนให้หลับ


พอตอนเช้า ไม่ได้เล่าให้ใครฟังกลัวเค้าหาว่าคิดไปเอง ตกเย็นไฟดับจ้าาา!!เราเลยเล่าให้ม๊าฟังจะ ม๊าบอกเพ้อเจ้อที่บ้านมีพระ ใครจะเข้ามาได้ อ้าว!! เราก็คิดตรงนี้แต่เราไม่รู้เค้ามาได้ไง ไม่สบายใจมากกลัวบ้านตัวเองไปเลยช่วงนั้น ม๊าเราเลยโทรหายาย เราเลยบอกยายว่าเราโดนผีหลอก เกิดมาเพิ่งโดนหลอกแบบสยองขนาดนี้ปกติจะเจอ ..แกว่งขาบนต้นไม้ กับยืนริมถนนนี่ก็น่ากลัวแล้วนะ อันนี้นี่แนบชิดห่างจากเราไม่ถึงฟุต ยายเราเลยให้ท่องอิติปิโสตามอายุ+1ก่อนนอนทุกคืน แล้วเราก็ไม่เคยโดนแบบนี้อีก


ทุกวันนี้เราก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเค้าถึงเข้าบ้านเราได้ หรือเพราะเราปากพร่อยก็ไม่รู้ เดี๋ยวนี้ก็เจอบ้างเป็นเสียงบ้าง เงาบ้าง แต่ที่เจอมาเรื่องนี้เรากลัวที่สุดในชีวิตเลย ใครที่เห็นอะไรตอนกลางคืนแนะนำนะคะ อย่าทัก!!! อันนี้เรื่องจริง ถ้าเขียนอะไรชวนงงก็ขออภัยนะคะจริงๆ จขกท เจอผีบ่อยมากกกกแต่ก็ยังกลัวอยู่ เพราะมาแต่ละครั้งไม่ซ้ำเลย เรามีเรื่องของเราที่เราเจอเยอะมาก วันหลังจะเอามาเล่าให้ฟังอีกนะ เป็นกระทู้แรกของเรา ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ใครมีเรื่องราวหลอนๆ มาแชร์กันได้นะ


เครดิต : https://pantip.com/topic/32802014

ขอขอบคุณ : กลุ่มเรื่องผีๆ-สาระดีๆ https://web.facebook.com/groups/271990436527588/

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...