ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เคยได้ยินไหมว่าถ้ามีเสียงทักในยามค่ำคืน อย่าทักตอบ...ปอปในค่ายลูกเสือ


เคยได้ยินไหมว่า ถ้ามีเสียงทักในยามค่ำคืน อย่าทักตอบ...สวัสดีครับ วันนี้ผมมีเรื่องสยองขวัญมาเล่าให้ฟัง เรื่องนี้เกิดขึ้นกับพี่สาวของผมครับ ซึ่งเราเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ขอเริ่มเรื่องเลยนะครับ


พี่ไปเข้าค่ายลูกเสือกับทางโรงเรียน แล้วพอตกตอนกลางคืน จะต้องมีการเข้าฐาน ผมก็เคยไปนะครับ มันไม่น่ากลัว เพราะว่ามีเพื่อนเยอะ และครูเค้าก็จะคอยดูแลเรา ของพี่ผม เค้าบอกว่า เหมือนของผมแหละ เพียงแต่ว่า ตอนที่เข้าฐาน เค้าได้ยินเสียงเรียกของใครบางคน เรียกชื่อเค้าว่า เอ๋  เค้าก็รับขานว่า ฮะ เพื่อนที่อยู่ข้างๆก็งง ว่าพี่เอ๋ ฮะ กับใคร พอเล่นฐานเสร็จก็เข้านอน 


พี่เอ๋เล่าว่า พอหลับไปได้ซักพัก รู้สึกอึดอัดอย่างมาก พอลืมตา แกเห็นคนแก่ ผมยาว ผมขาวหงอกหมดทั้งหัว กำลังนั่งทับที่ท้องของพี่เอ๋อยู่ พี่เอ๋ตกใจกลัวมาก พยายามร้องและดิ้น แต่ดิ้นเท่าไหร่ก็ดิ้นไม่หลุด และร้องไปก็ไม่มีใครได้ยิน เพื่อนในเต้นท์ก็นอนหลับกันหมด และไม่ทันไร ยายแก่คนนั้นก็ยิ้ม แล้วมันก็ก้มหน้ามาหาพี่เอ๋ พูดกับพี่เอ๋ว่า น่าอร่อยนะเนี๊ย แล้วมันก็ลุกขึ้น มันมุดเข้าไปในท้องของพี่เอ๋ พี่เอ๋ตกใจมาก ร้องเสียงดัง ที่นี้สียงก็ดังออกมา เพื่อนๆตกใจ ตื่นมาดูพี่เอ๋ ถามว่าเป็นอะไร พี่เอ๋ได้แต่ร้องโวยวาย ครูที่อยู่เวรได้ยินก็รีบวิ่งมาดู ต่างช่วยกันดูว่า พี่เอ๋เป็นอะไร พี่เอ๋เอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมหยุด จนทุกคนตื่นกันหมด ครูเลยตัดสินใจ โทรตามรถพยาบาลเพราะกลัวจะเป็นสัตว์มีพิษไปทำร้ายพี่เอ๋


พี่เอ๋เอาแต่ร้องไห้ ไม่ยอมพูดจาอะไร พอไปถึงโรงพยายบาลไม่นาน พ่อแม่พี่เอ๋ หรือก็คือลุงกับป้าของผม ก็ไปดูพี่เอ๋ที่โรงพยาบาล เพราะครูโทรตาม พอลุงกับป้ามาก็ถามพี่เอ๋ว่า หนูเป็นอะไร พี่เอ๋ไม่ตอบ ร้องไห้อย่างเดียว หมอก็งง ว่าพี่เอ๋เป็นอะไร เพราะไม่มีอาการบาดเจ็บอะไรเลย พี่เอ๋ร้องไห้จนเป็นลมสลบไป หมอเลยให้นอนพักที่โรงพยาบาลก่อน ตอนนั้นดึกมากแล้ว ลุงเลยกลับบ้านก่อนเพราะไม่มีคนเฝ้าบ้าน ส่วนป้าก็นอนเฝ้าพี่เอ๋ ตอนที่ป้ากำลังนอนเฝ้า อยู่ๆพี่เอ๋ก็ลืมตาขึ้น หันมามองป้า ตอนนั้นป้ายังไม่ได้หลับ เห็นพี่เอ๋ลืมตาขึ้นก็ถามว่า เป็นไงลูกรู้สึกตัวแล้วหรอ พี่เอ๋ได้แต่ยิ้ม และพูดกับป้าว่า มันอร่อยใช่ได้เลย พอพูดจบพี่เอ๋ก็นอนหลับต่อแบบหน้าตาเฉย  ป้าตกใจมาก โทรบอกลุง ลุงยังขับรถไม่ถึงบ้าน ก็เลี้ยวรถกลับมาหาป้า ลุงบอกว่าเดี๋ยวรอให้เช้าก่อน เราพาเอ๋ไปหาพระอาจารย์กัน คืนนั้นลุงกับป้าไม่ได้นอน ด้วยความเป็นห่วงพี่เอ๋ พี่เอ๋เหมือนคนปกติทุกอย่าง หมอตรวจแล้วก็ไม่มีอาการอะไรผิดปกติ


พอถึงเช้าลุงกับป้าก็พาพี่เอ๋ไปวัด พร้อมญาติพี่น้องที่รู้ข่าว ก็ตามไปกันด้วย  พอถึงวัด ก็ไปหาพระอาจารย์ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า เก่งเรื่องวิชาอาคม พอเดินจะไปกราบพระอาจารย์ ท่านก็พูดมาก่อนเลยว่า กูเตือนก่อนนะ ถ้ายังอยู่ในร่างมัน กูไม่ปราณีแน่ ปรากฏว่าพี่เอ๋ จากคนเซื่องซึม ก็เปลี่ยนกลายเป็นคนแข็งกร้าว พี่เอ๋พูดว่า ถ้ากูไม่แน่จริง กูไม่อยู่มาได้ขนาดนี้หรอก พวกญาติๆต่างพากันงง เพราะพี่เอ๋เป็นคนเรียบร้อย ไม่เคยพูดคำหยาบ พระอาจารย์ไม่รอช้า แกหยิบขันน้ำมนต์พร้อมไม้เรียวออกมา พอท่านร่ายคาถาเสร็จก็ฟาดไปที่พี่เอ๋ เรียกว่าเป็นการฟาดเบาๆ ไม่ทำให้เจ็บเลย แต่พี่เอ๋ดิ้นเหมือนใจจะขาด พอแกดิ้นซักพัก แกก็หยุด แล้วพูดออกมาว่า ดีๆ อย่างนี้แหละกูชอบ มันจะได้ตายพร้อมกูนี่แหละ กูจะเอามันไปด้วย พร้อมเสียงหัวเราะ พระอาจารย์หยิบสร้อยคอลูกประคำออกมา พร้อมร่ายคาถา พอร่ายเสร็จก็เอาไปคล้องคอพี่เอ๋พร้อมกับร่ายคาถาแบบไม่หยุด พี่เอ๋ดิ้นทุรนทุราย ญาติๆก็ช่วยกันจับ ไม่น่าเชื่อว่า เด็กแรงจะเยอะขนาดต้องใช้ผู้ใหญ่ 3 คนถึงจะจับอยู่ 


หลังจากนั้น พระอาจารย์บอกเด็กวัดว่า ไปเอาไอ้นั่นมา พูดเหมือนรู้กันว่ามันคืออะไร เด็กวัดก็ลุกขึ้นไปเอา มันคือไหขนาดเล็ก พร้อมผ้ายันต์ 1 ผืน พอเอามา พระอาจารย์ถอดลูกประคำนั้นออก ไม่น่าเชื่อ ลูกประคำสีขาว เปลี่ยนเป็นสีดำสนิท พระอาจารย์ยัดลูกประคำลงในไหพร้อมปิดผ้ายันต์ และท่องคาถาซ้ำ ตอนที่ปิดผ้ายันต์ ทุกคนยืนยันว่า เห็นยันต์โดนกระทุ้ง เหมือนกบกระโดดชนอยู่ข้างใน สร้างความแปลกใจอย่างมาก ตอนนี้พี่เอ๋กลับมาเป็นพี่เอ๋คนเดิมแล้ว พระอาจารย์บอกว่า มันคือผีปอบที่หลุดออกมา จากที่ที่มันเคยอยู่ เพราะมีคนไปยุ่งกับภาชนะที่ขังมันไว้ มันก็เลยออกมาได้ มันจะเข้าร่างคนที่จิตอ่อน เพื่อกินตับไตไส้พุง ถ้ามาเร็วก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้ามาช้าก็อาจจะสายเกินไป ส่วนไหขนาดเล็ก พระอาจารย์ได้ให้เด็กวัดเอาไปฝังไว้ที่ป้าช้า พอกราบลาพระอาจารย์ ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้านครับ


เรื่องราวทั้งหมดก็มีแต่เพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณครับ




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...