ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

“อย่าเกิน 1ทุ่มนะ” รีบออกจากตึกกันได้แล้ว...เรื่องหลอนมหาลัยใกล้บ้านแขก!!


เรื่องนี้ผมได้ฟังมาจากรุ่นพี่และอาจารย์ในสาขาของผม ในตึก 2ชั้นบนสุดของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ จะมีห้องที่เป็นสตูดิโออยู่ ซึ่งเอาไว้ใช้ทำงานและบางครั้งก็เป็นที่รวมตัวๆของเด็กๆนักศึกษาเพื่อพบปะคุยกันตามภาษาเด็กๆ และมีห้องพักอาจารย์อยู่ติดๆกันอีกด้วย แต่ในช่วงแรกของการเปิดใช้ห้องนี้ มีเรื่องเล่าแปลกๆเกิดขึ้นกับรุ่นพี่และอาจารย์ที่ทำงานอยู่บนชั้นนี้ เพราะช่วงนั้นยังไม่มีกฏ”ห้ามใช้ห้องนี้เกินเวลา 1ทุ่ม” และก่อนที่อาจารย์จะกลับบ้านทุกครั้งถ้ายังมีเด็กๆนั่งอยู่ในห้อง ก็จะถูกเตือนทุกครั้งว่า “อย่าเกิน 1ทุ่มนะ” ไม่แน่ใจว่าเป็นการเตือนเพราะเป็นกฏของมหาลัย หรือ เป็นการเตือนเพราะเป็นห่วงว่าพวกผมจะเจออะไรกันแน่ หึหึ 

เรื่องเล่าที่ผมได้ยินครั้งแรกนั้นคือรุ่นพี่ของผม ต้องอยู่ทำงานที่นั่นกันจนดึก เวลาน่าจะประมาณ 3ทุ่ม ที่นั่นจะมีคอมพิวเตอร์ไว้ให้นักศึกษาได้ทำงานกัน พวกเขาอยู่ทำงานกันมาตั้งแต่เย็น และอยู่ดีๆก็มีลุ่นพี่คนหนึ่งมีอาการแปลกๆ อยากรีบกลับขึ้นมาเฉยๆ เขารีบเร่งให้เพื่อนๆทำงานและถามอยู่ตลอดเลยว่าจะกลับได้หรือยัง จนทุกคนรีบเร่งและลงมาข้างล่างตึกกัน ทุกครั้งที่ลงมาจากตึก พวกเขาก็จะแวะมาสูบบุหรี่และคุยกันที่หน้าตึกเป็นประจำ แต่วันนี้รุ่นพี่คนนั้นก็มีท่าทีที่ลุกลี้ลุกลน บอกให้เพื่อนๆรีบกลับบ้านกัน จนทุกคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ในขณะที่กำลังเดินออกจากมหาลัย มีรุ่นพี่อีกคนถามขึ้นมาว่า “มึงเป็นอะไรวะ รีบกลับจังตั้งแต่ข้างบนแล้วนะ งานเสร็จแล้วหรอ” แต่ได้คำตอบกลับมาว่า เดี๋ยวกูเล่าให้ฟังที่ร้านข้าว

พอมาถึงร้านอาหาร เรื่องก็ถูกเผยออกมาว่า ในขณะที่กำลังทำงานกันอยู่ ด้วยความจดจ่อกับการตัดต่อ เขาใส่หูฟังอยู่แต่มีเสียงแปลกๆดังขึ้นตอนแรกก็นึกว่าเป็นเสียงจากในวีดีโอที่ถ่ายมา แต่ฟังดูดีๆ มันมาจากนอกหูฟัง เขาเลยถอดหูฟังออกมาและพยายามฟังว่ามันคือเสียงอะไร และมันก็ชัดขึ้น แต่ฟังไม่รู้เรื่อง เสียงนั้นดังมาจากข้างหลังเขา แต่ ตอนนั้นเขานั่งหันหลังพิงกำแพง เสียงยังดังอยู่แต่ดูเหมือนว่าคนอื่นจะไม่ได้ยิน เขาเลยเร่งให้เพื่อนออกมาจากตรงนั้นกัน เพราะเขาไม่รู้ว่าเสียงนั้นคืออะไร แต่ที่แน่ๆ เป็นเสียงผู้ชายพูดงึมงำๆเป็นภาษาแปลกๆ ทุกคนถึงกับขนลุก เริ่มหลอนและไม่ค่อยกล้าจะอยู่ทำงานกันจนดึกอีก ถ้าไม่จำเป็น

เรื่องที่ 2นั้นเป็นเรื่องที่อาจารย์ของผมเจอในขณะที่อาจารย์นั่งทำงานอยู่ ด้วยความจดจ่อกับงานและเพ่งแต่หน้าจอคอม หางตาของอาจารย์ก็เริ่มเห็นอะไรแปลกๆ เก้าอี้ของโต๊ะข้างๆ มันค่อยๆหมุน แล้วหมุนมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา ราวกับว่ามีคนนั่งและกำลังหันมาหาทางอาจารย์อย่างช้าๆ อาจารย์บอกว่าตอนนั้นรีบเก็บของและลงมาจากตึกเลยทีเดียว และเรื่องราวก็เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ มีเสียงคนเดินตรงโถงทางเดิน นึกว่าเพื่อนเปิดไปดูก็ไม่มีใครอยู่เลย เสียงชักโครกที่ดังมาจากห้องน้ำทั้งๆที่ไม่มีใครไปเข้าห้องน้ำ และเก้าอีกที่เลื่อนเองราวกับว่าตึกเอียง จนทุกคนเรียกผีตนนี้ว่า “ลุง”

แต่แล้วก็มีรุ่นพี่คนหนึ่งไปถามป้าแม่บ้านที่อยู่ตึกนี้ เลยได้เรื่องมาว่า ก่อนที่เขาจะทำเป็นห้องนั้น มันเป็นชั้นโล่งๆ ไม่มีอะไร แต่ว่ามีศาลอะไรก็ไม่รู้ตั้งอยู่บนนั้น แต่ป้าก็ไม่รู้ว่ามาตั้งไว้ทำไม และตั้งมาตั้งแต่เมื่อไหร่ จนพอจะสร้างเป็นห้องก็ได้รื้อศาลออก และทำเป็นห้องให้พวกเราทำงานอย่างทุกวันนี้

บอกไว้ก่อนเลยว่าตอนนี้ผมจบมาจากที่นั่นแล้ว ถ้าเกิดว่าตอนนี้มีรุ่นน้องหรือใครที่เคยไปที่นั่นได้เขามาอ่านแล้วละก็ น่าจะรู้ว่าคือที่ไหน ถ้ามีเรื่องราวอะไรเพิ่มเติมละก็ ส่งมาเล่าสู่กันฟังที่เพจของเราได้นะ เรารอฟังอยู่ หึหึ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...