ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เจอดีสามชั่วโมง อยู่ไม่ไหวจนต้องย้ายหนีทันที!!...หอพักย่านจรัญ



เรื่องราวและเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นประสบกา
รณ์ตรงของไอซ์ที่พบเจอมาด้วยตนเอง ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เกิดขึ้นในย่านจรัญสนิทวงศ์ ช่วงนั้นไอซ์กับพี่สาวต้องย้ายออกจากห้องเช่ากระทันหันเนื่องจากว่าถูกเจ้าของจับได้ว่าแอบเลี้ยงแมว 

ซึ่งเป็นเรื่องต้องห้าม จึงต้องย้ายออก ประมาณสองวันก็ได้เจอกับหอใหม่ หอนี้เป็นอาคารพานิชย์ 4 ชั้น ชั้นล่างมีห้องพักประมาณ 10 ห้อง ด้านหน้าเป็นร้านขายของชำ ชั้น 2 -4 แบ่งเป็นห้องพักชั้นละ 4 ห้อง ส่วนห้องน้ำก็เป็นห้องน้ำรวม

เรื่องราวแปลกๆเกิดขึ้นตั้งแต่เดินเข้าไปเลย ไอซ์และพี่ได้ไปติดต่อเข้าพักตามปกติ ทาง จนท.บอกว่าชั้น 1, 2 และ 4 เต็ม เหลือชั้น 3 ว่างทั้ง 2 ห้อง แล้วเขาก็พาไอซ์ไปดูที่ชั้น 3 ไอซ์คิดในใจแปลกๆเหมือนกันว่าทำไมชั้น 3 นี้ถึงไม่มีใครอยู่เลย เปิดห้องแรกให้ดูรู้สึกได้เลยว่าเหม็นอับมากๆ ทั้งๆที่ห้องก็ทาสีใหม่ๆ เป็นสีชมพู แต่ป้าคนที่พาไอซ์ไปดูห้องแกบอกว่า  “ห้องมันเก่าก็เลยทาสีใหม่” ไอซ์จึงไม่ได้สนใจอะไรต่อ พอเดินไปดูห้องที่ 2 ที่อยู่ติดกัน ห้องนี้สีดูเก่าแต่ไม่เหม็นอับเหมือนห้องแรก ต่างกันแค่สี และยังมีกระจกบานเลื่อนด้วย ไอซ์กับพี่จึงตกลง เอาห้องนี้ ป้าแกเก็บค่ามัดจำถูกมากและยังอนุญาติให้เลี้ยงแมวได้ด้วย ไอซ์และพี่จึงได้ย้ายข้าวของเข้ามาอยู่หอใหม่นี้

ช่วงอาทิตย์แรกนั้นทุกอย่าปกติ ไม่ได้เจออะไร แต่พอเข้าอาทิตย์ที่สองก็เริ่มเกิดเรื่อง ไอซ์ประสบอุบัติเหตุรถชน สลบไปทันที หลับแบบไม่รู้สึกตัวไป 1 คืนเต็มๆ ต้องนอนรักษาตัวที่ รพ.ถึง 3 วัน 3 คืน พอเข้าวันที่ 4 ก็กลับไปพักที่หอได้ ช่วงนั้นไอซ์ไม่ได้ไปเรียน เนื่องจากหัวบวมและผมก็หลุดในส่วนที่บวมด้วย จึงนอนพักรักษาตัวอยู่ที่หอ ช่วงนั้นแม่ของไอซ์ก็มาเยี่ยมและอยู่ดูแล 3 คืนแรกแม่จะตื่นมาช่วงตี 1 – ตี 2 ตลอด พอไอซ์ถามแม่ก็ไม่ได้บอกอะไร ตอบแค่ว่า “ไม่มีอะไรลูก” แต่พอแม่กลับไป เวลาผ่านไป 2 วันเรื่องก็เกิด

คืนนั้นเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ไอซ์กำลังนอนเล่นรอพี่กลับจากทำงาน แมวที่เลี้ยงไว้อยู่ๆก็มีอาการลนลาน กระโดดขึ้นลง ระหว่างพื้นกับลำโพงใหญ่ที่วางไว้ติดกับกระจกหน้าต่าง แมวทำแบบนั้นอยู่หลายรอบ ไอซ์รำคาญจึงปิดไฟแล้วเข้านอน (ช่วงนี้ไอซ์ต้องปูฟูกนอนพื้นเพราะเตียงแข็งนอนแล้วเจ็บหัว) หวังว่าแมวจะหยุดแต่ก็ไม่ พอปิดไฟมันยิ่งลนลานหนักกว่าเดิม เดินไปมา กระโดขึ้นลงที่ลำโพงวนเวียนอยู่แถวหน้าต่าง ไอซ์หงุดหงิดเลยเอาผ้ามาปิดตา เวลาผ่านไปไม่ถึง 5 นาที ไอซ์ก็ได้ยินเสียง แค่กๆ เลยเปิดผ้ามามองเห็นแมวกำลังข่วนประตูห้องซึ่งมีช่องใต้ประตูอยู่ มันข่วนอยู่อย่างนั้นหลายครั้ง ไอซ์เลยเปิดประตูออกไปดูว่ามันขูดทำไม ตอนนั้นไอซ์ไม่ได้กลัวอะไรแค่รำคาญแมวอย่างเดียว

พอไอซ์เปิดประตูก็ไม่เจออะไร แต่แมวกำลังขนพองอยู่หน้าประตูห้อง เหมือนมันกำลังขู่ออะไรบางอย่าง มันจ้องอยู่ที่หน้าประตูไม่วางตา ไอซ์ตัดสินใจปิดประตูแล้วกลับมานอนต่อไม่ได้คิดอะไร  เวลาผ่านไปถึง 3 ทุ่มครึ่ง ไอซ์ล้มตัวลงนอนได้ไม่ถึง 5 นาที แมวก็ข่วนอีก ไอซ์สุดทนลุกขึ้นมาลืมตาดู แต่แปลกใจมาก ประตูห้องมันเปิดเอง มีแมวยืนอยู่หน้าประตูด้านในของห้อง ตัวของมันพองขนฟูทั้งตัวเหมือนกำลังขู่หรือมีเรื่องกัดกับแมวตัวอื่น แต่ที่ประตูห้องนั้นเป็นลูกบิดและไอซ์มั่นใจว่าเมื่อกี้ได้ปิดประตูสนิทดีแล้ว ตอนนั้นไอซ์เริ่มใจไม่ดี ทำได้แค่เดินไปปิดประตู แล้วกลับมานอนที่เดิม ตาหลับไม่ลงแล้ว ได้แต่นอนมองช่องใต้ประตูอยู่อย่างนั้นแต่ก็ไม่เห็นอะไรก็เลยหลังตาลง ระหว่างที่หลับตาช่วงสั้นๆใจของไอซ์ก็สั่นขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ พอลืมตาขึ้นมาใจยิ่งสั่นขึ้นตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม  แสงไฟจากทางเดินหน้าห้องทำให้ไอซ์เห็นเงาของใครบางคนกำลังยืนอยู่ด้านนอกของประตูห้อง

ไอซ์เอาหน้าแนบกับพื้น เพื่อมองลอดไปที่ช่องใต้ประตู จริงๆด้วย มีคนกำลังยืนอยู่หน้าห้องตอนนี้!! แมวก็ทำการพองขน จ้องมองแบบเดียวกับไอซ์อีก ตอนนั้นไอซ์มั่นใจมากๆว่าต้องมีคนมาแกล้งแน่ๆ เลยตัดสินใจคลานไปเบาๆบนพื้น เอื้อมมือไปหยิบกรรไกรมาถือไว้ คิดว่าถ้าเปิดประตูไปไอซ์จะแทงให้ดู ก้มลงมองใต้ประตูอีกครั้งนึง เงานั้นยังยืนอยู่ด้านนอก ไอซ์จึงตัดสินใจบิดลูกบิดออกไป พอประตูเปิดไอซ์ไม่เจออะไรเลย แมววิ่งออกไปจากห้องตรงไปที่ระเบียง ไอซ์รีบวิ่งไปดู ช็อคมากเนื่องจากมันไม่มีอะไรเลย เป็นไปไม่ได้ที่คนคนนั้นหรือเจ้าของเงาที่ยืนอยู่หน้าประตูจะหายไปหรือกระโดดลงระเบียง

ตอนนั้นไอซ์เริ่มใจไม่ดี ไม่ได้สนใจแมวแล้วปิดประตูห้องหันหลังรีบวิ่งลงบันไดด้วยความกลัว อยากเจอพี่ให้เร็วที่สุด ในระหว่างที่วิ่งลงบันไดอยู่ก็เจอพี่สาวเดินสวนขึ้นมาพอดี พี่สาวแตะไหล่ไอซ์ ไอซ์ก็ร้องกรี๊ดด้วยความกลัว พี่สาวเขย่าไหล่ให้ได้สติ และพาไอซ์กลับห้อง ถามว่าเป็นอะไร เดินลงมาทำไม เกิดอะไรขึ้น ไอซ์พูดไม่ออก ไม่รู้จะพูดยังไง พี่เลยบอกให้ไอซ์ไปอาบน้ำ ให้ใจเย็นก่อน ไอซ์ก็ทำตาม ตอนนั้นดูนาฬิกาเป็นเวลา 4 ทุ่มกว่าแล้ว ไอซ์ก็คิดว่า ทุกอย่างคงจบแล้วละ แต่ไม่ใช่เลย

อย่างที่บอกงว่าห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม ระหว่างที่อาบน้ำไอซ์ก็คิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ไม่เท่าไหร่ก็เกิดรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีคนมอง ไอซ์เลยหันไปมอง ก็เจอเข้ากับสิ่งนั้น ไอซ์ตกใจมากกรีดร้องสุดเสียง พี่สาวรีบมาทุบประตู ไอซ์ตัวสั่นมากหลับตาฟังเสียงพี่สาวทุบประตูอยู่อย่างนั้น พอตั้งสติได้ก็เปิดประตูออกมาเจอพี่สาวและคนอื่นๆมามุงดูด้วย ตอนนั้นไอซ์ยังไม่ได้พูดอะไร

พี่สาวก็รีบพากลับห้องแล้วก็มาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ไอซ์ค่อยๆตั้งสติเล่าสิ่งที่เจอให้พี่ฟังรวมถึงสิ่งที่เจอในห้องน้ำด้วย สิ่งทีไอซ์เจอในห้องน้ำก็คือ ดวงตาคนทั้งสองดวงที่มองเห็นได้ชัดเจน ดวงตาทั้งคู่กำลังมองไอซ์ผ่านช่องอิฐบล็อกของห้องน้ำ สายตาดูโกรธแค้นมาก แต่ถ้าเกิดเป็นตาคนจริงๆเจ้าของตาคู่นั้นต้องเป็นคนที่มีความสูงไม่ต่ำกว่า 180 ซม. แน่นอนว่าที่สำคัญ อิฐบล็อกนั้นมันจะเฉียงลงด้านนอก คนที่อยู่ด้านนอกจะไม่สามารถมองเห็นคนด้านในได้แน่นอน ไอซ์แน่ใจว่าตัวเองกำลังเจอดีเข้าแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นไอซ์ไม่รอช้า รีบลงไปถามป้าชั้นล่างว่าที่นี่มีอะไร แต่แกก็ไม่ยอมบอกและคืนค่ามัดจำให้ ยอมให้ย้ายออกแบบง่ายๆ  ไอซ์และพี่สาวจึงย้ายออกทันที

ไอซ์กลับไปเล่าให้แม่ฟังแม่ก็ตกใจ บอกกับไอซ์ว่าช่วงที่แม่มาดูแลไอซ์อยู่สามวันนั้นแกมักจะได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน ช่วงตี 1 – ตี 2 เป็นประจำทุกคืน พอตื่นมาดูทุกอย่างกลับเงียบสนิท และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมดที่ไอซ์ได้พบเจอมาภายในเวลา 3 ชั่วโมง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...