ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตำนานพระเจ้าชู้แห่งเมืองคร



วัดพระมหาธาตุวรวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช นอกจากเป็นวัดเก่าแก่ที่ศักดิ์แล้ว ยังมีเรื่องราวที่น้อยคนนักที่รู้เรื่องราวความอาถรรพ์ ของพระพุทธรูปเจ้าชู้ ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดแห่งนี้ด้วย


พระพุทธรูปเจ้าชู้ หรือพระแขนขาดที่ศักดิ์สิทธิ์ อายุหลายร้อยปีและพระพุทธรูปหกนิ้วเก่าแก่ พระทั้งสององค์นี้ถือเป็นปริศนาธรรมที่ต้องการให้ชาวพุทธได้รับรู้ถึงปาฏิหาริย์ที่เล่าขานเป็นตำนาน เป็นแหล่งเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนาได้เป็นอย่างดี นริศ น้อยทับทิม มัคคุเทศก์ ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์นครศรีธรรมราช เคยเล่าเอาไว้ว่าพระพุทธรูปแขนขาดองค์นี้มีตำนานบันทึกเอาไว้ว่า...“อดีตกาลนานมาแล้ว ในยามวิกาลนั้น ท่านจะแปลงร่างเป็นบุรุษที่หล่อเหลามาก ท่านเกิดความรักใคร่กับผู้หญิงกำพร้าคนหนึ่งอายุประมาณ ๑๔ ปี หรือ ๑๕ ปี ที่อยู่คนเดียว ทำให้พระองค์นี้เกิดความลุ่มหลง เวลาเที่ยงคืนพระองค์นี้ได้แปลงร่างเป็นผู้ชายแล้วไปอยู่กับเด็กสาวกำพร้าคนนั้น  พอดีที่ข้างบ้านมีลุงอยู่คนหนึ่งได้ยินเสียงคนคุยกัน 


ทำให้เกิดความสงสัย จนวันหนึ่งประมาณตีสี่เศษๆ ได้เห็นผู้ชายเดินลงมาจากบ้านหลังนี้โดยมีศีรษะล้าน คุณลุงได้เดินตามไปเรื่อยๆ พอตามมาถึงบริเวณวัดพระมหาธาตุฯ ปรากฏว่าชายคนดังกล่าวได้หายตัวไปอย่างลึกลับ เมื่อเห็นเช่นนั้น ลุงคนที่อยู่ข้างบ้านของหญิงกำพร้าก็คิดจะฆ่าพระรูปนั้นเสียเพราะเป็นถึงพระสงฆ์องค์เจ้าลักลอบเสพเมถุนกับสีกา เมื่อคิดเช่นนั้นลุงแกก็กลับบ้านหามีดอีดาบลับเตรียมไว้รอพระรูปนั้นอีก ค่ำคืนนั้นลุงแกตั้งตารอจนถึงตี 4 ด้วยใจที่ต้องการฆ่าพระรูปนั้นแล้วประจารให้ชาวบ้านได้รู้ แล้วเวลานั้นก็มาถึงเมื่อพระรูปนั้นได้ก้าวลงบันไดลงจากบ้านของหญิงกำพร้า จังหวะที่ก้าวลงจากบันไดมาถึงขั้นที่สามเท่านั้น ลุงแกได้เอามีดดาบที่เตรียมเอาไว้ฟันลงไปที่พระรูปนั้นทันที พระรูปนั้นหันขวับมาแล้วยกเอามือมารับคมดาบแทนจนแขนขาด


แต่ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของท่านหรือจะด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบได้พระรูปนั้นได้เดินต่อไป ลุงแกก็ไม่ละความพยายามจึงได้เดินตามมาจนถึงวัดพระมหาธาตุฯ  ในสมัยนั้นเส้นทางเดินมายังวัดพระมหาธาตุฯ มีความเปลี่ยวมาก บ้านคนไม่ได้มีมากมายอย่างปัจจุบัน ตรงนี้เองทำให้คุณลุงกลัวผีจึงไม่ตามได้เดินกลับบ้านของตนเองไป แต่ลุงคนนั้นก็ไม่ละความพยายาม พอถึงตอนเช้าพระฉันเพลเสร็จ ลุงแกก็เดินตามรอยเลือดที่ฟันแขนพระเมื่อคืน แล้วหยดเลือดก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าพระพุทธรูปองค์หนึ่ง ลุงแกจึงก้มดูเลือดว่าทำไมเลือดมาหยุดอยู่ตรงนี้ พอเงยหน้าไปดูองค์พระพุทธรูป ถึงกับตะลึงลาน เมื่อเห็นว่าพระพุทธรูปองค์นั้นแขนขาด 


ด้วยเหตุนี้เองทำให้ลุงแกเชื่อว่า ต้องเป็นพระองค์นี้แน่ที่แปลงกายแล้วลักลอบเข้าไปหาหญิงกำพร้าทุกคืนจากนั้นลุงแกก็เอาผ้ามามัดองค์ท่านเอาไว้เพื่อไม่ให้ท่านไปไหน แล้วเหตุการณ์ของพระสงฆ์ที่แอบลอบออกจากวัดในตอนกลางคืนก็ไม่มีอีกเลย" เมื่อเราลองสังเกตตรงเศียรองค์พระนั้นให้ดีๆ เราจะเห็นว่ามันไม่ได้เหมือนกับขององค์พระที่เราเคยเห็น แต่เป็นเขาของสัตว์ที่ใช้ปลายดาบปักลงไป เพื่อให้คนเห็นจะได้หวาดกลัว จึงเป็นที่มาของพระเจ้าชู้" นี่เป็นตำนานบอกเล่าของพระเจ้าชู้ ที่สุดแสนจะพิสดารและเล่าสืบต่อกันมาจนเป็นตำนานคู่กับวัดพระบรมธาตุเมืองนครฯ


นอกจากนี้ยังมี พระพุทธรูปแปลกอีกองค์หนึ่งคือ พระหกนิ้ว ที่ประดิษฐานอยู่ใต้พระบรมธาตุ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ตีนพระธาตุ ที่มีนิ้วขึ้นมาหกนิ้ว ชวนให้สงสัยว่าเป็นเพราะช่างตั้งใจปั้นให้เกิน หรือระหว่างปั้นนายช่างนั่งหลับหรือไม่ แต่พระหกนิ้วที่วัดมหาธาตุฯ สมัยก่อนถือเป็นแหล่งเรียนรู้มาตั้งแต่ก่อนสุโขทัยในเรื่องการเตือนสติ เข้าใจว่า พระพุทธรูปหกนิ้วนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเตือนสติอารมณ์ว่า ใครพูดหรือบอกอะไรแล้วอย่าเชื่อทั้งหมด ต้องพิจารณาให้ถ้วนถี่เสมอ ดั่งคำสอนแห่งองค์สมเด็จสัมมาพุทธเจ้าที่ทรงตรัสเตือนสติเอาไว้ว่าใครบอกอะไรอย่าเชื่อให้บรรลุหรือเรียนรู้ แล้วค้นหาด้วยตัวเอง เพราะบางเรื่องที่มีคนบอกกับเรามาก็ต้องมีเรื่องที่โกหกอยู่บ้าง


ดังนั้น เราได้รับฟังอะไรมาก็ต้องพิจารณาให้รอบครอบอย่างมีสตินั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ทั้งสองตำนานนี้ น่าจะเป็น “ปริศนาธรรม”ที่คนสมัยโบราณจงใจทิ้งเอาไว้เป็นมรดกทางปัญญาให้คนรุ่นหลัง เก็บเอาไว้ตีความและพึงสังวรถึงผลที่จะตามมาของการกระทำใดๆก็ตามที่ขาดสติยั้งคิดนั่นเอง!!


ขอบคุณข้อมูลจาก : http://ghostwiki.blogspot.com/2012/04/blog-post_6968.html

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...