ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ไอ้หนู!!กูกินข้างในแม่มึงไม่เหลือแล้ว...คอนโดย่านปากเกร็ด


ครอบครัวของผมนั้นมีพี่น้องเก้าคน ผมเป็นคนที่เก้า ตัวผมเองนั้นก็มีเซ้นส์เรื่องผีนี้พอสมควรตั้งแต่เด็กมาแล้วและก็เจออะไรมาเยอะ แม่ผมก็แก่แล้ว บรรดาพี่น้องก็จะคอยหมุนเวียนกันดูแลแก พี่สาวผมคนหนึ่งแกซื้อคอนโดอยู่แถวปากเกร็ดก็เอาแม่ไป ไปอยู่ชั้นสี่ แต่ที่คอนโดนั้นไม่มีลิฟท์ ในการขึ้นลงมันลำบาก 


ทีนี้เหตุการณ์มันผิดปกติตอนที่แม่ไปอยู่กับพี่สาวคนนี้นี่แหละ แม่เขารู้สึกไม่ค่อยดี รู้สึกว่าป่วยแล้วกลางค่ำกลางคืนก็ไม่ค่อยนอน แล้วแม่ก็โทรมาปรึกษาผม บอกว่าทำยังไงดี แม่รู้สึกจะไม่ค่อยสบาย รู้สึกร้อนๆ รุ่มๆ ในตัว บางทีอาบน้ำแล้ว แกก็บอกว่ามันรู้สึกร้อนในตัว ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ทีนี้ผมก็เลยไปหาแกที่คอนโดของพี่สาว พอตอนไปดูนั้นก่อนที่ผมจะเข้าห้อง มันรู้สึกประหลาด ขนผมลุกขึ้นมาและผมเป็นคนที่มีเซ้นส์เรื่องนี้ ก็คิดว่ามันไม่ค่อยดีนะ มีอะไรมาหรือเปล่าเนี่ย ผมก็บอกกับพี่สาวอย่างนั้นก่อนจะเข้าห้องไป พอเข้าไปเห็นแม่ก็เห็นว่า เออตาแกขวางๆ ผมบอกพี่สาวเลยว่า นี่ผิดปกตินะ แม่ดูไม่เหมือนเดิม ก็รู้อ่ะนะคนเป็นแม่ลูกกันน่ะ พี่ผมก็บอกว่า ยังไงตอนนี้เอาแม่ไปบ้านพี่สาวอีกคนหนึ่งดีกว่า ไปบ้านพี่สาวใหญ่เลย มันสบายหน่อยไม่ต้องเดินขึ้นเดินลง มาอยู่อย่างนี้ก็เหนื่อยทั้งแม่ทั้งพี่


ก็ตัดสินใจว่าจะเอาแม่ไปอีกบ้านหนึ่ง ทีนี้ผมก็เข้าไปพยุงตัวแก ก็เอามือสอดรักแร้ของแม่แล้วก็ค่อยๆ พยุงพากันเดินลงมาถึงชั้นล่างแล้วก็พากันไปขึ้นรถ พอผมเข้าไปนั่งใกล้แก แกก็บอกว่า “เฮ้ย เอ็งลงไปที่กระบะหลังได้มั้ย รู้สึกไม่ค่อยดี “ด้วยน้ำเสียงแข็งๆ พูดเหมือนไม่ใช่แม่เรา แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรก็เดินไปที่กระบะหลัง ระหว่างนั้นก็ได้กลิ่นที่มือของตัวเองที่เพิ่งคอยพยุงตัวแม่มา เป็นกลิ่นเหม็นเน่า เหม็นยังกับเราไปจับซากสัตว์ ซากไก่ อะไรพวกนี้ ผมงงมากและคิดว่า คนธรรมดาไม่น่าจะเหม็นขนาดนี้ มันผิดปกติมากๆ ที่นี้พอมาถึงที่บ้านพี่สาวใหญ่ ก็เอาแกมานอน ก็นอนบนเตียง พี่สาวใหญ่เขาก็ดูแลหาข้าวหาปลาให้กิน ก็ดูแลไปตามปกติ แต่แกก็ยังไม่ดีขึ้น สักพักพี่สาวคนนี้ก็มาคุยกับผมว่า ทำไมแม่เปลี่ยนไป ทำไมแกไม่เหมือนเดิมเลยล่ะ ตาก็ขวางๆ แล้วเวลาแกเรียกพี่ แกก็เรียกว่าไอ้หนู ไม่เรียกเป็นชื่อ ซึ่งแกติแกจะเรียกเป็นชื่อลูก ก็คุยกันแต่ก็ไม่ได้ทำอะไร พอเวลาผ่านมาได้สามสี่วัน พี่สาวมาตามผม บอกว่าไปดูแม่กันหน่อยเถอะ แม่เรียกไอ้หนู แล้วเสียงแม่เป็นเสียงผู้ชายเลย


ผมได้ฟังแล้วก็กลัว รู้แล้วล่ะว่าไม่ใช่แม่ของเรา แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร อะไร อยู่ในตัวแม่ของเรา ก็คิดว่าแล้วจะทำยังไงดี ตอนนั้นก็คิดได้ว่า ผมนับถือเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพร ผมก็อาราธนาท่านจากที่บ้านของผม ขอบารมีเสด็จเตี่ยไปกับลูกหน่อย ช่วงนั้นอาการของแม่ก็แย่ ตาก็ขาวๆ ขวางๆ พี่สาวผมบอกว่า นอนอยู่ที่นี่ได้ไหม พี่กลัว แกขนพระมาเต็มเลย ทั้งพี่สาวทั้งพี่เขยกลัวกันทั้งคู่เลย ไอ้ผมจะว่าไม่กลัวก็ไม่ใช่ กลัวอยู่เหมือนกัน แต่ก็ตกลงใจนอนที่บ้านพี่สาวเพื่อดูอาการของแม่ พอเข้าใกล้แม่แกที่ไร ผมจะขนหัวลุกตลอด ระหว่างที่คอยเฝ้าแม่ ผมก็กลัวอยู่เหมือนกัน ลูกประคำผมเต็มตัวเลยนะ ผมก็สวดชินบัญชรในใจไปเรื่อย ก็ได้ผลอยู่เหมือนกันนะ พอสวดนานๆ เข้าแม่ผมแกก็โพล่งถามขึ้นมาเลยว่า “ไอ้หนู เอ็งจะหยุดสวดได้หรือยังวะ” ผมก็เอาล่ะสิ แสดงว่าไม่ใช่แม่ผมแล้วสิเนี่ย ผมก็ยิ่งสวดใหญ่เลย ระหว่างที่แกป่วยนั้นแกหลับตาตลอดนะ แกไม่ได้มองใคร ตาหูก็ไม่ลืมเลย ผมทนไม่ไหวรู้ว่าไม่ใช่แม่เราแน่ล่ะ ผมเอาเหรียญกรมหลวงชุมพรห่อผ้าเอาไว้ เอาไปวางที่หน้าอกแก


แกสะดุ้งหยิบโยนออกมา ผมก็หยิบไปวางใหม่ แกพูดออกมาว่าร้อน โดยที่ยังหลับตา ผมก็บอกว่าร้อนอะไรแม่ พัดลมก็เปิดอยู่เนี่ย อากาศก็ไม่ได้ร้อนอะไรเลย ในตอนนั้นพี่น้องคนอื่นก็มาอยู่รวมๆ กันแล้วนะ ผมเห็นแกคอยหยิบเหรียญออก เลยบอกให้พี่สาวไปเอาเทปกาวมาให้ แล้วก็เอามาพันห่อเหรียญให้ติดกับตัวแก เชื่อไหมว่าตลอดเวลานั้น แม่ผมไม่เคยลืมตาขึ้นมามองอะไรเลย กลับถามผมขึ้นมาว่า “ไอ้หนู มึงเอาเรือมาทับกูทำไมเนี่ย” ผมขนลุกซู่เลย เป็นอันแน่ชัดแล้วว่าไม่ใช่คนแน่ๆ เลยถามกลับไปว่า

“แล้วนี่เป็นใครยังไงเนี่ย ทำไมมาอยู่ในตัวแม่ผม แม่ผมไปทำอะไรให้” มันบอกเลย มันบอกมันตายมานานแล้ว มันตายโหง มันถูกรถชนตาย ไม่มีอะไรกินเลย ผมก็ถามต่อว่า “แล้วมาเข้าแม่ผมได้ยังไง คุณมาสิงแม่ผมอย่างนี้มันบาปนะ” มันบอกว่า “กูไม่รู้กูเห็นแม่มึงน่ะเดินอยู่ที่ตลาดปากเกร็ด แล้วแม่มึงล้ม กูก็ได้จังหวะเข้าพอดี” “โอ๊ยตายแล้ว แล้วเข้ามานานหรือยังเนี่ย” ผมก็ถามมันต่อ “ก็เข้ามานานแล้ว พอสมควร ก่อนที่มึงจะรู้อีก” มันตอบกลับมา ผมรีบถามต่อ “แล้วจะให้ทำไงถึงจะออกเนี่ย แม่แกแก่แล้วนะ จะมาเข้าทำไม” มันบอกว่ามันไม่ออกหรอก

ไอ้ผมก็เคยเรียนทางไสยศาสตร์มาก็พอสมควร ก็ต้องลอง ก็ว่าคาถาแล้วก็คุยกับผี ที่มันสิงแม่ผม ก็ถามไปถามมาว่ามันเป็นใคร แล้วมาสิงแม่ผมได้ยัง มันก็บอกว่า มันชื่อบุญหลาย ตายมานานแล้ว ไม่มีอะไรกินเลย พอดีมาเจอแม่มึง ได้จังหวะพอดี ผมก็พยายามคุยดีๆ แล้วก็ถามอีกทีว่า แล้วทีนี้จะออกจากแม่ผมได้ยังไง พยายามตะล่อมว่าสิ่งที่เขาทำมันจะเป็นบาปติดตัวนะ มันก็บอกว่า “ไม่ยาก มึงไปเอาไก่มาให้กูตัวนึง ไก่สดๆ เนี่ย” พวกญาติพี่น้องก็ขนลุก เพราะไม่เคยเจออะไรผีแบบนี้กันมาก่อน ผมก็ให้พี่สาวไปหาไก่หาเหล้าตามที่มันบอก พอหามาได้ก็จุดธูปบอก มันก็บอกว่าเดี๋ยวมันจะออกไปกิน พอมันออกไปกินของเซ่น แม่ผมก็ลืมตาขึ้นมาเลย ทุกคนไม่มีใครเห็นตัวมัน ยกเว้นคุณแม่ผมครับ แกเห็นไอ้วิญญาณนั่น บอกหมดเลยครับว่าเป็นผู้ชายแก่หัวหงอก กำลังกินอยู่ แม่ผมก็ว่ากับผมแบบนี้ แล้วพอมันกินได้สักพัก มันก็เข้าสิงร่างแม่ผมอีกครับ


มันว่าอย่างนี้ “ทีนี้กูอิ่มละกูไปละ”

ผมก็พูดกับ ผี มันดีๆ ว่า “ลุงบุญหลายใช่มั้ย ต่อไปก็อย่าไปเข้าใครเขาอีกนะ มันเป็นบาป รู้มั้ยเนี่ย”
“เออ กูก็ไม่รู้จะทำยังไง กูหิวของกู กูหาอะไรกินไม่ได้ ไม่มีใครหาอะไรให้กูกินเลย กูก็เจอแม่มึง แล้วแม่มึงดวงตก กูก็เลยเข้าแม่มึง” มันบอก
“แล้วนี่ลุงได้กินแล้วเนี่ย ไปเลยได้มั้ย ลุงไม่ต้องไปทำใครต่อได้มั้ย กินที่นี่แล้วก็จบกันไปจะได้ไม่ต้องเป็นเวรเป็นกรรมต่อกัน” ผมพูด
“เออ เดี๋ยวกูไป แต่กูบอกอะไรมึงหน่อยได้มั้ย” มันว่า
“เอ้า ลุงบอกมา”
“กูกินข้างในแม่มึงหมดแล้ว”
“กูกินข้างในแม่มึงไม่เหลือแล้ว ที่มึงว่าเหม็นเน่าเนี่ย กูกินข้างในมันเละหมดแล้ว”
ถึงตอนนี้ทุกคนอึ้งกันหมด แล้วมันยังว่าต่ออีกว่า
“แล้วจากกูไปแล้ว แม่มึงอยู่ได้อีกสามวัน”

จากนั้นสามวันเป๊ะ แม่ผมก็เสียชีวิตอย่างที่มันบอกจริงๆ ตรงนี้ทำให้ผมเสียใจมาก ทั้งๆ ที่ผมพอมีวิชาทางนี้มาบ้าง ผมปล่อยให้แม่อยู่กับพี่สาวคนนี้นานเกินไป ในช่วงสามวันที่มันบอกพวกผมและพี่ๆ ก็พยายามพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ และดูแลแม่อย่างดีที่สุดแต่ก็ยื้อไว้ไม่ได้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ