ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ผีช่องแอร์หลอน หาดใหญ่...ตำนานความหลอนสิบกะโหลก


เป็นประสบการณ์ที่คุณดิวเจอเมื่อตอนที่เล่นดนตรีในโรงแรมแห่งหนึ่ง ในอำเภอหาดใหญ่ เมื่อประมาณเจ็ดปีที่แล้ว เพื่อนๆในวงดนตรีมีด้วยกันทั้งหมดหกคน จะเล่นดนตรีด้วยกันทุกวัน ในช่วงเวลาสามทุ่มถึงตีหนึ่ง ห้าทุ่มถึงเที่ยงคืนจะเป็นเวลาพัก โดยจะมีห้องรับรองให้ที่ชั้นบน ซึ่งเป็นห้องไหนก็ได้ สามมารถเลือกเข้าไปพักได้เลย แต่วันนั้น โรงแรมแห่งนี้มีคนเข้าพักจนเต็มหมดทุกห้อง เหลืออยู่ห้องเดียวที่ปกติจะเปิดให้คนเข้าพัก อยู่ทีชั้นเก้า ห้องสี่ศูนย์เก้า ในระหว่างที่พัก คุณดิวและเพื่อนๆก็หาไพ่มาเล่น ฆ่าเวลาไปพลางๆ ลักษณะห้องพักจะเป็นห้องสี่เหลี่ยม มีช่องแอร์อยู่ด้านบน ทุกคนนั่งเล่นไพ่กันอยู่บนเตียง

มือกีต้าในวงคนนึง ชื่อคุณเป้ สังเกตเห็นผ้าผืนเล็กๆ ห้อยลงมาจากช่องแอร์ ซึ่งก็คงจะรําคาญ เพราะว่าผ้ามันจะไหวไปมาตามแรงลมของแอร์ จึงได้ลุกขึ้นไปดึงมันลงมา แต่แทนที่มันจะหลุด มันกลับยาวลงมาเรี่อยๆ คุณเป้สาวผ้าผืนนั้นจนมันยาวลงมาถึงพื้น ด้วยความสงสัย คุณเป้ก็เลยไปยกเอาเก้าอี้มาตั้ง เพื่อที่จะขึ้นไปดูในช่องแอร์ แต่คุณดิวและคนอื่นๆก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะกำลังนั่งเล่นไพ่กันอยู่
คุณเป้ขึ้นเหยียบบนโต๊ะ แล้วก็ดึงเอาฝาครอบช่องแอร์ออกมา ชะโงกหน้าขึ้นไปมอง แต่จู่ๆก็หยุดชะงัก คุณดิวก็หันไปมองเห็นคุณเป้ยืนตัวแข็ง มองเข้าไปในช่องแอร์ แล้วคุณเป้ก็ลงจากเก้าอี้ เอาฝาครอบช่องแอร์วางที่พื้น

หันมาบอกกับทุกคนด้วยหน้านิ่งๆว่า "เฮ้ย ข้าไปละนะ มีธุระ เดี๋ยวไปนั่งรอข้างล่างนะ" แล้วก็เดินออกจากห้อง เพื่อนคนนึงในกลุ่มก็พูดขึ้นมาว่า "ไอ้เป้มันเป็นไรวะ" แล้วก็เดินไปดูหน้าห้อง เห็นว่าคุณเป้กึ่งวิ่งกึ่งเดินไปทางบันได เพื่อนก็ปิดประตู เดินกลับมาจะเล่นไพ่ต่อ แต่จังหวะที่เดินผ่านช่องแอร์ เพื่อนคนนี้เหมือนสะดุ้งขึ้นมาวูบหนึ่ง แล้วแหงะหน้าขึ้นไปมองบนช่องแอร์ เพื่อนยืนนิ่งอยู่พักหนึ่ง แล้วก็พูดขึ้นมาว่า "เดี๋ยวข้าไปกับไอ้เป้มันละกัน" แล้วก็รีบเดินจ้ำออกนอกห้อง

คุณดิวและเพื่อนอีกสามคนที่เหลือก็ทำหน้างงๆ เพื่อนในกลุ่มก็พูดว่า "แล้วทำไมมันไม่ปิดช่องแอร์ให้เค้าก่อนล่ะนั่น" แล้วเพื่อนคนที่พูดก็ลุกขึ้นไปหยิบฝาครอบช่องแอร์ แล้วหันมาพูดว่า "ช่วยมาจับเก้าอี้ให้คนนึงดิ" เพื่อนที่นั่งข้างๆคุณดิวก็ลุกขึ้นไปจับเก้าอี้ให้ ส่วนเพื่อนที่ถือฝาครอบก็ขึ้นไปบนเก้าอี้ กำลังจังยกเอาฝาครอบปิด แต่อยู่ๆเพื่อนก็เหมือนมีอาการกระตุกเกร็งไปจังหวะหนึ่ง แล้วก็หยุดนิ่ง เพื่อนคนที่ช่วยจับเก้าอี้ให้ก็มีอาการไม่ต่างกัน ทั้งสองคนรีบเดินออกจากห้องไปด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน

คุณดิวก็เริ่มจับสังเกตอะไรได้บางอย่าง คิดในใจว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างอยู่ในช่องแอร์แน่ คุณดิวกับเพื่อนที่เหลือจึงลุกขึ้นไปชะเง้อมองขึ้นไปบนช่องแอร์ สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาของคุณดิวกับเพื่อนก็คือ ผู้หญิงผมยาว ใส่ชุดสีขาวพริ้วๆ อยู่ในช่องแอร์ ใบหน้าสีดำเทา ดวงตากลมโต อ้าปากค้าง เส้นผมสีดำยาวปลิวสยายตามแรงลมแอร์

ลักษณะท่าทางคือใช้มือซ้ายและขาซ้าย ยันผนังช่องแอร์ด้านซ้าย และใช้มือขวาและขาขวา ยันผนังช่องแอร์ด้านขวา แล้วโน้นหัวลงมาตะแคงหน้ามองคุณดิว ในท่าทางเก้ๆกังๆ เหมือนกำลังพยายามยันไม่ให้ตัวเองตกลงมาข้างล่าง คุณดิวรู้สึกช็อคจนตัวเย็นเฉียบ ความกลัววิ่งพล่านไปทั่วร่างกาย ขาทั้งสองข้างตายสนิท ได้แต่ยืนตัวแข็งอ้าปากค้าง มองสิ่งนั้นด้วยอาการตกตะลึง จนสักพักก็เหมือนจะพยายามรวบรวมสติได้ ลากขาที่หนักอึ้งออกมาจากห้อง เพื่อนก็เดินตามหลังมาติดๆ ได้ยินเพื่อนพูดเสียงอ่อยๆว่า "อย่าวิ่งนะๆ" จนลงมาถึงข้างล่าง คุณดิวรีบตรงดิ่งเข้าไปหาพนักงานที่เค้าเตอร์ แล้วพูดว่า "พี่ มีแม่บ้านหรือคนเฒ่าคนแก่ที่อยู่ที่นี่มั้ย"

พนักงานก็ถามกลับมาว่า "ทำไมเหรอ" คุณดิวบอกว่า "ผมขอคุยกับเค้านิดนึง" พนักงานก็ไปตามแม่บ้านมาให้ คุณดิวรีบถามแม่บ้านว่า "ป้า ป้าทำความสะอาดทุกวันนี่ ป้ารู้ข่าวอะไรเกี่ยวกับชั้นเก้าบ้างหรือเปล่า" แม่บ้านถามว่า "ทำไมเหรอหนุ่ม" คุณดิวก็เลยเล่าเหตุการณ์ที่เจอมาให้แม่บ้านฟัง แม่บ้านทำหน้าตกใจ แล้วก็เล่าว่า "ก็มีนะ เมื่อประมาณปีที่แล้ว มีผู้หญิงในตู้โดนแขกเรียกขึ้นไปในห้องสี่ศูนย์เก้า แล้วถูกฆ่าตัดคอ เอาหัวไปแขวนไว้ในช่องแอร์ กว่าตำรวจจะเจอหัวก็ปาเข้าไปสามสี่วัน"

คุณดิวได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกบิดมวนที่ท้องน้อยจนต้องงอหลังลง แม่บ้านเล่าต่อว่า "ปกติห้องนั้นเค้าจะไม่เปิดให้ใครพักนะ แล้วทำไมหนุ่มถึงไปพักในห้องนั้น" คุณดิวตอบว่า "ไม่รู้เหมือนกับครับป้า เค้าจัดให้พวกผมไปพัก" หลังจากนั้นประมาณสามวัน คุณเป้ก็ได้นัดให้คุณดิวไปหาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพื่อที่จะให้คุณดิวช่วยเคลียร์ปัญหากับแฟน โดยที่แฟนก็นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย แต่พอคุยกันไม่รู้เรื่อง คุณเป้ก็ยกปืนขึ้นกรอกปากตัวเองแล้วลั่นไก ต่อหน้าคุณดิวและแฟน

หลังจากที่คุณเป้เสียชีวิตประมาณสามวัน คุณดิวไปยืนเคาะประตูห้องเพื่อนอีกคนอยู่นาน แต่ก็ไม่ยอมเปิดให้ ก็เลยขอให้ยามมาช่วยแงะประตู พอเข้าไปในห้องได้ ก็พบว่าเพื่อนเป็นศพ นอนหงายน้ำลายฟูมปากอยู่บนเตียง ผ่านมาประมาณห้าวัน คุณดิวก็ได้ทราบข่าวว่าเพื่อนในวงอีกคนรถคว่ำเสียชีวิตคาที่ และอีกประมาณสี่วัน เพื่อนอีกคนก็กระโดดน้ำฆ่าตัวตาย จนเหลือคุณดิวกับเพื่อนอีกคนเดียว เพื่อนกลัวจนต้องหนีไปอยู่อเมริกา

ตอนที่คุณดิวไปส่งเพื่อนที่สนามบิน คุณดิวพูดกับเพื่อนว่า "ไม่รู้ว่ามันจะมาเอาข้าเมื่อไหร่" หลังจากนั้นคุณดิวจึงลองไปปรึกษาพระที่จังหวัดนครสวรรค์ พระท่านบอกว่าพยายามอย่าไปนึกถึงเค้า จิตของผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างแรง อาฆาตมาดร้าย ถ้าไปคิดถึง จิตของเค้าสามารถสื่อไปถึงได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม แล้วคุณดิวก็ได้สะเดาะเคราะห์ ด้วยการเข้าพิธีทำบุญเป็นทำบุญตาย ลงไปนอนในโลงศพผีตายโหง แล้วให้พระสวดสามวัน แล้วก็ไปทำพิธีบังสุกุลเป็นบังสุกุลตายต่อที่หาดใหญ่ และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ