ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

"ถ้าเมิงหาผู้ชายมานอนไม่ได้ กุจะกินเมิง”...ใครเชื่อเรื่องของเข้าตัวควรอ่าน!!


เหตุการณ์ เกิดขึ้นที่ จังหวัด ศรีสะเกษ เป็นช่วงที่คุณพลอยไปเยี่ยมเยือนบ้านของคุณพ่อและแม่เลี้ยง ซึ่งอยู่ใกล้เขตชายแดน ได้ชวนหลานสาวไปเดินตลาดนัดด้วยกันช่วงเย็นๆ


มีคุณยายอายุสัก 70 กว่า เข้ามาสะกิดที่แขนพูดภาษาส่วย เมื่อคุณพลอยไม่เข้าใจ ยายจึงพูดภาษากลาง ให้ช่วยซื้อของยายหน่อย ยายเหลือไม่เยอะแล้ว มือนึงยายคล้องตะกร้า อีกมือก็จับมือคุณพลอยไว้ พร้อมกับลูบแขนตลอดเวลา แล้วชมว่าผิวดีเนอะ หนูมาจากไหน คุณพลอยจึงบอกว่ามาจากกรุงเทพ แล้วจึงช่วยยายซื้อของ ยายถามต่อว่าบ้านอยู่ไหน หลานคุณพลอยจึงสะกิดไม่ให้คุยต่อ คุณพลอยจึงยิ้มให้แล้วบอกว่าอยู่แถวนี้แหละค่ะ เมื่อกลับมาบ้าน พ่อและแม่เลี้ยงก็จัดเตรียมที่นอนให้ โดยคุณพลอยนอนพักชั้นล่างของบ้านเพราะต้องการดูทีวี แต่ได้ขึ้นไปไหว้บอกกล่าวคุณตาซึ่งเสียแล้วที่ชั้นบนบ้าน

ที่นอนของคุณพลอย เป็นเตียงแล้วกางมุ้งครอบไว้ โดยนำพัดลมเข้ามาเปิดในมุ้ง แล้วใช้หมอนกันด้านหลังพัดลมไว้ ปลายเท้าด้านซ้ายเปิดคอมโน้ตบุคไว้ แล้วคุณพลอยก็นอนเล่นมือถือ

ผ่านไปประมาณช่วงสี่ทุ่ม ขณะที่พัดลมพัดมุ้งย้อยไปด้านนอก หางตาด้านซ้ายของคุณพลอยมองเห็นใบหน้าของใครคนหนึ่งแนบมุ้งยื่นเข้ามา จากนั้นก็รู้สึก คล้ายไฟดูด แล้วก็รู้สึกเย็นปวดไปถึงขั้วหัวใจ พร้อมกับความรู้สึกว่ากำลังถูกเลียแขนอยู่!! คุณพลอยกรีดร้องตะโกนลั่นบ้าน ทำให้พ่อกับแม่เลี้ยงที่นอนอยู่ชั้นบนพังประตูห้องที่คุณพลอยนอนเข้ามา คุณพลอยจึงเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง พ่อและแม่เลี้ยงจึงสำรวจดูพบว่ามีรอยน้ำลายเปียกเต็มไปทั้งแขน และติดอยู่ที่มุ้ง แม่เลี้ยงจึงไปเรียกคุณยาย(แม่ของแม่เลี้ยง)ที่อยู่ห้องข้างๆมา(คุณยายหูตึง) คุณยายจึงออกไปจุดธูปและพูดภาษาส่วยนอกบ้าน แล้วให้แม่เลี้ยงนำธูปไปปักทั้ง4มุมของบ้าน ช่วงนั้นเวลาประมาณ5ทุ่ม คุณยายได้สวดมนต์ตั้งแต่5ทุ่ม ถึงตี1

จากนั้นคุณพ่อก็นำตะกรุดมาคล้องที่คอ และนำสายสิญจน์มาผูกให้ทั้งข้อมือข้อเท้าและคอของคุณพลอยอย่างหลวมๆ แล้วให้คุณพลอยพักผ่อน คุณพลอยรู้สึกกลัวมาก จนร้องไห้หลับไป

ตื่นเช้ามา คุณยายจึงบอกว่าห้ามออกจากบ้านโดยเด็ดขาด และได้ติดต่อหมอธรรมให้ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้แล้วแต่เป็นช่วงเที่ยง จากนั้นแม่เลี้ยงจะจัดแจงหาอาหารกินกัน ก็ได้เดินไปซื้อที่รถผักเร่ ซึ่งอยู่อีกฟากของสนามฟุตบอลของอบต.ซึ่งอยู่เยื้องๆบ้าน แม่เลี้ยงเดินไปได้ครึ่งสนามก็หันกลับมา เหมือนจะหันกลับมาถามว่าอยากได้อะไรเพิ่มมั้ย ทันใดนั้นแม่เลี้ยงก็เกิดล้มฟุบลงกลางสนาม สัก10วินาที ก็ลุกขึ้นมาตาขวางและวิ่งตรงมาหาที่คุณพลอยอย่างรวดเร็ว น้าข้างบ้านกำลังท้องแก่ น้าเขยและพ่อคุณพลอยซึ่งอยู่ใกล้ๆ ก็รีบเข้ามากันแม่เลี้ยงไว้ที่กำลังอาละวาดและตะโกนด่าคุณพลอยอย่างบ้าคลั่ง จึงให้คุณพลอยรีบออกจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด น้าสะใภ้ได้พาคุณพลอยออกมาพักที่รีสอร์ทซึ่งอยู่ห่างไกลออกมาจากหมู่บ้าน จากนั้นคุณพ่อได้โทรมาเล่าว่า สิ่งที่แม่เลี้ยงตะโกนด่า ใจความคือ “กุจะเอาเมิง กุจะเข้าเมิง กุจะสิงเมิง ถ้ากุเข้าเมิงได้กุจะไปนอนกับผู้ชาย ถ้าเมิงหาผู้ชายมานอนไม่ได้ กุจะกินเมิง”


แม่เลี้ยงถูกใช้ร่างเพื่อที่จะเข้ามาในบ้านผ่านเจ้าที่เจ้าทางแล้วจะมาสิงคุณพลอย แต่เข้าไม่ได้เพราะรูทวารทั้ง5ของคุณพลอยไม่เปิด เป็นเพราะจากการที่คุณพลอยถูกยายที่ตลาดมาสัมผัส ซึ่งจะเลือกผู้หญิงต่างถิ่นที่หน้าตาผิวพรรณดี มีหญิงสาวที่ถูกผียายเข้าสิงแล้วไม่ได้นอนกับใคร ก็จะถูกกินภายในจนเสียชีวิตไปถึง4คน ยังไม่นับคนที่ถูกสิงแล้วไปนอนกับผู้ชายแบบไม่มีสติอีกไม่รู้กี่คน รุ่งเช้ามาแขนข้างซ้ายของคุณพลอยก็เขียวช้ำม่วงไปทั้งแขนที่ถูกเลีย ประวัติของยายคนนี้คือเมื่อก่อนยายคือคนที่ทำไสยดำให้กับผู้หญิงให้มีเสน่ห์ ให้คนรักหลง แล้วไม่มีลูกหลานมาสืบทอดจึงถูกย้อนเข้าตัว 



เวลามีงานเทศกาลก็จะแต่งตัวสวยออกจากบ้าน แต่ไม่มีใครเจอยายที่งาน แต่จะได้ข่าวว่ามีหญิงสาวหมู่บ้านอื่นถูกข่มขืน รุมโทรม เหตุการณ์นั้นทำให้คุณพลอยไม่ได้กลับไปยังหมู่บ้านนั้นอีกเลย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ