ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

5 ศพบนเตียง...สาวใช้กะพาผู้ชายมาห้องนอนเจ้านายแต่ดันเจอดีเข้าซะงั้น


5ศพบนเตียง เรื่องขนหัวลุก เตือนว่า อย่าทำอะไรไม่ดีในที่ๆ เจ้าของหวง..."แฟนวิทย์" เล่าเรื่องขนหัวลุกจากบ้านใกล้เรือนเคียง

บ้านผมอยู่ซอยลาดพร้าว 101 เราอยู่ด้วยกัน 4 คน มีผมเองเป็นพ่อบ้าน ทำงานธนาคาร ภรรยาของผมเป็นนักบัญชี แต่ทุกวันนี้เธอลาออกมาเลี้ยงลิง เอ๊ย! ลูกชาย 2 คนของเรา กำลังซนกันมากๆ เลยละครับคนโต 10 ขวบ คนเล็ก 7 ขวบ เรียนโรงเรียนใกล้บ้าน ตอนเช้าไปส่งตอนเย็นไปรับ ทีแรกเราไม่มีคนใช้หรอกครับ ช่วยกันทำงานบ้านเองได้ ผมกวาดบ้านถูบ้านตอนกลับจากงาน บางที 2-3 วันกวาดถูที ลูกๆ ผมช่วยกันล้างจานบ้าง ไม่ยอมล้างบ้าง ก็ยังนะ..ภรรยาผมซักรีดจนแขนโตไปข้างหนึ่ง

มาถึงทุกวันนี้ต้องจ้างสาวใช้ เพราะภรรยาผมเกิดทำขนมเปี๊ยะไปให้เพื่อบ้านลองชิม ปรากฏว่าติดอกติดใจกันเป็นแถว บ้านผมเลยกลายเป็นบ้านขนมเปี๊ยะ สร้างรายได้ดีมากๆ โชคดีจริงๆครับ ข้างบ้านผมถัดไป 3 หลัง เป็นบ้านของนายพันโท หล่อ หนุ่ม มีภรรยาสวยและลูกสาว 2 คน กำลังย่างเข้าสู่วัยรุ่นทั้งคู่ ทุกวันนี้ผู้พันลาออกจากราชการเพราะปัญหาสุขภาพ สองผัวเมียเลยช่วยกันทำมาหากินโดยขายประกัน รายได้ไม่เลวเลย พวกเขาอัธยาศัยดีมาก และสนิทสนมกับบ้านผมมากกว่าใครๆ ในละแวกนี้ทั้งหมด

ผู้พันมีสาวใช้คนหนึ่งชื่อหนูพิม เป็นชาวอีสาน เดิมชื่อนังหอม แต่เจ้าตัวไม่ชอบชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ ตั้งชื่อตัวเองใหม่ว่าพิม สาวพิมอายุ 18 ปีพอดิบพอดี เจ้าหล่อนตัวเล็กบอบบาง น่าเอ็นดูเหมือนตุ๊กตา ผู้ชายติดเกรียวทั้งบาง หนูพิมมักจะได้ทั้งเงินทั้งทอง และของใช้จากหนุ่มๆ ที่มาก้อร่อก้อติกอยู่เสมอ เป็นที่อิจฉาของน้องอ๋อ-สาวใช้วัย 20 ปีของเรา...อ๋อกับพิมสนิทกันมากเหมือนพี่เหมือนน้อง คุยกันได้ทั้งวันเมื่อเดือนก่อน ผู้พันกับคุณนายพาลูกๆ ไปเที่ยวต่างประเทศ นัยว่าเป็นรางวัลของบริษัทประกันน่ะครับ หนูพิมดูระริกระรี้เป็นพิเศษเชียว น้องอ๋อบอกว่า มันต้องมีอะไรเด็ดๆ แน่เลย มีอย่างที่ไหน โดนอยู่โยงเฝ้าบ้านคนเดียวยังมีความสุข ระรื่นเกินเหตุถึงปานนี้ น้องอ๋ออาสาจะไปนอนเป็นเพื่อนมันก็ไม่ยอม บอกว่านอนคนเดียวได้ มันชอบ

เรื่องสยองขวัญเกิดขึ้นในคืนแรกที่ผู้พันพาลูกเมียเหาะไปเมืองจีนนั่นเลยละครับ...ราวตีสอง นังหนูพิมมันวิ่งลนลานมากดออดบ้านผม มันกดซะถี่ยิบ ดีนะตอนนั้นภรรยาผมอบขนมเปี๊ยะไป แอบดูน้องน้ำตาล น้องจุ้มจิ้ม น้องซีแนมนอนหลับปุ๋ยอยู่ทางช่อง 34 รายการแอ็คคาเดมี่ แฟนเตเซีย และมีน้องอ๋อตาแป๋วร่วมดูอยู่ด้วย ส่วนผมกำลังสบายอยู่กับลูกๆ ถึงกับผวา หวิดตกเตียง หนูพิมร้องไห้โฮๆ ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า บอกให้รีบแจ้งตำรวจด่วนจี๋ เพราะเธอเจอศพ 5 ศพนอนสงบเรียงเคียงกันอยู่บนเตียงในห้องนอนท่านผู้พัน!พวกเราตาหูเหลือก โทร. แจ้ง191 แป๊บเดียวตำรวจก็มาเลยครับ เรายกขบวนไปบ้านผู้พัน ผมละใจคอหายหมด พยายามนับนิ้วว่ามีผู้พัน ภรรยา ลูก 2 คน รวมเป็น 4 อีกคน..ใครล่ะ?

หนูพิมกลัวจนสั่น และให้ปากคำกับตำรวจว่าเธอขึ้นไปเจอศพนอนอยู่ เธอเห็นเต็มตา เพราะเปิดไฟสว่างจ้าก็เห็นเลยละ..เป็นศพคนแก่ผู้ชาย 1 ผู้หญิง 3 และเด็กผู้หญิงใส่ชุดสีชมพูอีกคน นอนตายอยู่อย่างเรียบร้อย คุณตำรวจ 2 คนเดินขึ้นไปดู แล้วกลับลงมาบอกว่าไม่มีอะไรเลย ทุกอย่างเป็นปกติ เตียงนอนขนาดคิงไซซ์ก็ยังมีผ้าคลุมอยู่อย่างดี สรุปว่า หลังจากปลอบหนูพิมแล้ว ตำรวจก็อำลาไป โดยสงสัยว่านังนี่ท่าจะบ้า!!...หนูพิมอยู่บ้านนั้นไม่ได้ ต้องมานอนกับน้องอ๋อ ความจึงแตกว่า..คืนนั้นน้องหนูดันพาผู้ชายเข้าบ้าน หลังจากไปคาราโอเกะกันและดื่มเบียร์นิดหน่อย เธอกะจะใช้ห้องนอนของเจ้านายเป็นวิมานสีชมพู แต่พอเปิดเข้าไปกดสวิตช์ไฟ เธอก็แผดเสียงกรี๊ดๆ ขนาดตัวเองยังตกใจ..ส่วนไอ้หนุ่มไม่รู้อีโหน่อีเหน่ได้ยินเข้าก็เผ่นหายไปป่านนี้ยังไม่กลับ!

4 วันต่อมา ผู้พันกับครอบครัวกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ หนูพิมขอลาออก..ก็ดีแล้วละครับ ทั้งที่มันน่าจะถูกไล่ออกมากกว่านะ ผู้พันฟังเรื่อง 5 ศพบนเตียงแล้วไม่มีท่าแปลกใจเลยครับ เขายกมือไหว้แล้วบอกถึงความเชื่อว่า พวกนั้นคือ คุณปู่ คุณย่า คุณป้า คุณยาย และลูกสาวคนแรกที่เป็นไข้เลือดออก 4 ขวบ..ลงโลงด้วยชุดสีชมพู ฟังแล้วเป็นยังไงล่ะครับ? คือผู้พันดีใจมากกว่ากลัว เขาชื่นใจด้วยซ้ำว่าวิญญาณของผู้เป็นที่รักยังอยู่และคอยคุ้มครอง ที่สำคัญ หวงเตียงนอนของเขาไม่ให้ใครมาทำอุบาทว์จัญไรบนนั้นได้

สำหรับนังหนูพิมนี่ผมไม่รู้ว่าจะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี..ที่แน่ๆ คือหัวไม่โกร๋นก็บุญแล้ว คงเข็ดไปเลยละชาตินี้น่ะ จริงไหมครับ?

ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก ใบหนาด ข่าวสด หน้า 38 - ฉบับวันที่ 30 สิงหาคม 2547

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...