ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ...พนักงานโรงหนังพูดว่า"ผมจะอยู่แค่ข้างล่าง จะไม่ขึ้นไปเหยียบชั้นที่นั่งบนๆเด็ดขาด!!"


เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน


จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย


คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเลย พอหนังเริ่มฉายไปได้สักพัก ประมาณครึ่งเรื่อง ขนมเริ่มหมด และหางตาของคุณโอ๋เห็นเหมือนมีคนนั่งอยู่แถวเดียวกัน ประมาณสองถึงสามคน ถัดจากที่นั่งของคุณโอ๋ไปสองที่นั่ง คุณโอ๋ก็งงว่ามาตอนไหน แต่คุณโอ๋ไม่ได้หันไปมองตรงๆเพราะกลัวจะเป็นการเสียมารยาท...หลังจากนั้นอีกประมาณสิบห้านาที ขนมของคุณโอ๋หมด คุณโอ๋ก็เลยจะเอากล่องใส่ขนมวางไว้ข้างล่าง พอจังหวะที่คุณโอ๋ก้มตัววางกล่องขนมไว้ข้างล่าง คุณโอ๋สังเกตเห็นหัวคนโผล่ออกมาจากเบาะที่นั่งถัดจากคุณโอ๋ไปหนึ่งที่ คุณโอ๋เลยรีบเงยหน้าขึ้นมา แต่คนที่นั่งอยู่แถวเดียวกับคุณโอ๋สองถึงสามคนที่คุณโอ๋เห็นเมื่อก่อนหน้านี้ บัดนี้ไม่มีใครเลย คุณโอ๋ตกใจมาก เลยรีบย้ายที่นั่งไปนั่งในแถวที่มีคนกำลังนั่งอยู่


และนั่งคิดทบทวนว่าสิ่งที่เจอมันคืออะไร แต่คุณโอ๋มั่นใจว่ามันคือหัวคนแน่ๆ จนกระทั่งหนังจบ คุณโอ๋รีบลุกขึ้นเตรียมที่จะออกจากโรงหนัง จังหวะที่กำลังเดินออกจากที่นั่ง คุณโอ๋สังเกตุเห็นเงาคนสองถึงสามคนตรงที่นั่งในแถวที่คุณโอ๋นั่งดูก่อนที่จะย้ายมานั่งที่ใหม่...เป็นลักษณะเงาดำๆแล้วก็ค่อยๆหายเข้าไปในเบาะที่นั่ง คุณโอ๋เห็นแบบนั้นจึงรีบเดินออกจากโรงหนังทันที และก่อนจะออก คุณโอ๋ได้ลองถามน้องพนักงานว่า “โรงเนี่ยมันมีชัวๆใช่มั้ย แล้วมีโรงไหนอีกที่มันมี” พนักงานก็บอกกับคุณโอ๋ได้แค่ว่า “ผมจะอยู่แค่ข้างล่าง จะไม่ขึ้นไปเหยียบชั้นที่นั่งบนๆเด็ดขาด และไม่สามารถบอกได้ว่าโรงไหนมีบ้าง แต่ผมจะอยู่แค่ตรงประตู”


พอคุณโอ๋ได้ยินแบบนั้นก็เข้าใจทุกอย่าง ซึ่งก่อนหน้านี้ เพื่อนของคุณโอ๋ก็ได้เล่าให้ฟังว่า ตัวเค้าเองก็ได้มาดูหนังในโรงหนังแห่งนี้ และนั่งที่นั่งแถวบนเหมือนกัน และก็เจอคล้ายๆกับที่คุณโอ๋เจอ คือตอนแรกแถวที่เพื่อนของคุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนเลย พอหนังฉายไปได้ครึ่งเรื่อง ก็มีคนโผล่ออกมานั่งเต็มทุกแถวที่นั่งที่อยู่ชั้นบนๆ แล้วทุกคนก็หันมามองหน้าเพื่อนคุณโอ๋กันเป็นสายตาเดียว และพอหนังจบตอนที่ออกจากโรงหนัง กลับไม่มีคนเลย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ