ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เดลิเวอรี่หลอน!!...เรื่องเล่าจากเด็กส่งพิซซ่า "เพิ่งมาส่งล่ะสิ บ้านนั้นเค้าสั่งประจำ"


เริ่มจากร้านพิซซ่าร้านหนึ่ง เป็นร้านสาขาย่อยที่เป็นร้านสำหรับการส่งเดลิเวอร์รี่ตามบ้านเท่านั้น บอยเป็นพนักงานส่งพิซซ่าใหม่เพิ่งเริ่มทำงานที่นี่ได้ไม่ถึงอาทิตย์ วันที่เกิดเรื่องบอยก็มาทำงานตามปกติเป็นรอบเย็นจนถึงร้านปิด บอยก็รับส่งของไปจนถึงกระทั่งเวลาโพล้เพล้บอยก็ได้รับคำสั่งจากรุ่นพี่ให้ไปส่งพิซซ่าตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าเจ้าประจำได้เข้ามาสั่งและจ่ายเงินค่าพิซซ่าเรียบร้อยแล้ว 

โดยที่บอยก็รู้ว่าลูกค้าคนนี้ไม่ใช่คิวของบอยแต่รุ่นพี่ก็ย้ำว่าบอยเพิ่งมาทำงานใหม่ไปส่งให้เจ้าประจำนี้ซะจะได้รู้จักที่ทาง เพราะลูกค้าคนนี้สั่งพิซซ่าที่ร้านบ่อย บอยจึงจำใจหยิบพิซซ่าขึ้นรถแล้วก็ขับมอเตอร์ไซต์ไปตามสถานที่ที่ลูกค้าได้แจ้งเอาไว้ สถานที่ส่งที่บอยได้รับนั้นเป็นหมู้บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง แต่บอยไม่พบรปภ.ที่ป้อมยามหน้าหมู่บ้านจึงได้ขับรถวนไปหาเลขที่บ้านเอง เวลาตอนนั้นประมาณ 1 ทุ่มเศษๆ ฟ้าก็เริ่มจะมืดแล้ว บอยขับรถอยู่ซักพักก็เห็นป้ายเลขที่บ้านเรียงๆกับเป็นซอยๆจึงค่อยๆขับรถเข้าไปในซอยเพื่อหาบ้านที่สั่งพิซซ่า ขับรถไปจนสุดซอยก็ยังไม่พบบ้านที่สั่ง บอยก็ไม่รู้จะทำยังไงจนพบชายวัยกลางคนคนหนึ่ง เดินออกมาหน้าบ้านพร้อมกับคีบบุหรี่มาด้วย บอยจึงเข้าไปถามชายคนนั้นว่าบ้านที่เขากำลังจะมาส่งพิซซ่าอยู่หลังไหน ชายคนนั้นมองหน้าบอยแล้วหันไปมองรถที่ส่งพิซซ่าจากนั้นตอบมาว่า "หลังนั้นไง ถัดออกไปสี่หลัง เพิ่งมาส่งล่ะสิ บ้านนั้นเค้าสั่งประจำ" พร้อมกับชี้มือไปที่บ้านหลังนั้น บอยขอบคุณชายคนนั้นแล้วเดินกลับไปหยิบพิซซ่าจากรถ ซึ่งให้บังเอิญว่ารถมอเตอร์ไซต์ของบอยนั้นจอดอยู่หน้าบ้านที่สั่งพิซซ่าพอดี

บอยพยายามมองเข้าไปในตัวบ้าน บ้านหลังนั้นมีหญ้าและต้นไม้รกครึ้มรั้วหน้าบ้านมีต้นไม้ออกมาบังบ้านเลขที่บ้านไว้ ทำให้บอยหาไม่เจอในตอนแรก ในโรงจอดรถมีรถเก่าๆคันหนึ่งจอดอยู่ ภายในบ้านปิดไฟมืดสนิท บอยหยิบพิซซ่าลงจากรถแล้วเดินไปที่หน้าประตูบ้าน แต่เมื่อกดกริ่งก็พบว่ากริ่งหน้าบ้านนั้นเสีย ทำให้ไม่มีเสียงใดๆ บอยพยายามกดกริ่งซ้ำๆอีกหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล ระหว่างนั้นก็ยังคงเห็นชายวัยกลางคนนั้นยืนสูบบุหรี่อยู่ แต่มองมาทางบอยเหมือนจะดูว่าจะีอะไรเกิดขึ้น เมื่อบอยพยายามมองเข้าไปในตัวบ้านก็เห็นมีเงาของผู้ชายคนหนึ่งเดินวนไปมาในบ้าน บอยไม่รู้จะทำอย่างไรก็เลยเดินกลับไปหาชายวัยกลางคนอีกครั้งแล้วก็ถามว่า "น้าๆ ผมเห็นมีคนเดินอยู่ในบ้านแต่กดกริ่งแล้วเค้าไม่ได้ยินหรือไง" ชายคนนั้นมองหน้าบอยแบบเรียบๆ แล้วก็ตอบว่า"เอางี้ไอ่น้อง แกเปิดถาดพิซซ่าแล้วก็วางลอดใต้รั้วเข้าไปเลย แกลองเดินกลับไปดูที่พื้นบ้านอีกทีสิ" บอยได้รับคำตอบแบบนั้นก็งงแต่ก็เดินกลับไป มองไปที่พื้นที่มีรถเก่าๆจอดอยู่แล้วก็ต้องตกใจ เพราะมันมีถาพพิซซ่าวางอยู่หลายสิบกล่อง แต่ละกล่องก็เปิดฝาเอาไว้ทั้ง แต่ตอนแรกบอยไม่ได้สังเกตเพราะบ้านนั้นปิดไฟมือมองแทบไม่เห็น

บอยหลังไปมองหน้าชายวัยกลางคนคนนั้น ชายคนนั้นพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่า ทำตามที่บอกสิ บอยจึงค่อยเปิดฝาถาดพิซซ่าแล้วก้มวางถาดพิซซ่าลอดเข้าไปใต้รั้ว หลังจากนั้นก็มองกลับไปที่ชายวัยกลางคนคนนั้นแต่เขารีบเดินเข้าบ้านตัวเองไปแล้ว บอยก็เลยคิดว่าลูกค้าก็จ่ายเงินแล้วและเราก็ส่งตามที่น้าคนนั้นบอก รีบกลับร้านเลยน่าจะดีกว่า บอยจึงลุกไปขึ้นมอเตอร์ไซต์ที่อยู่หน้าบ้านหลังนั้นพอดีเตรียมตัวจะกลับร้าน แต่เมื่อบอยบิดกุญแจเพื่อสตาร์ทรถ บอยก็ต้องตกใจทันที ไฟจากรถของบอยก็สาดเข้าไปในบ้านหลังที่บอยเพิ่งจะส่งพิซซ่ามา บอยมองเห็นชายคนหนึ่งกำลังนั่งยองๆ หยิบพิซซ่าจากกล่องขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อย บ้านยังคงปิดไฟมืด ประตูยังคงปิดสนิท แล้วชายคนนี้มาจากไหน บอยรู้สึกไม่ดีแล้วจึงรีบขับรถกลับร้านทันที เมื่อมาถึงร้านก็เห็นรุ่นพี่หลายคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ บอยยังไม่ทันจะปริปากพูด รุ่นพี่ก็ทักขึ้นมาก่อน "เป็นไง ลูกค้าขาประจำ" แล้วต่างคนก็ต่างหัวเราะ บอยพอจะเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น บอยก็เลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้รุ่นพี่พวกนั้นฟัง พอเล่าจบ รุ่นพี่คนหนึ่งก็พูดขึ้นว่า "เจอแค่นี้ยังน้อยไป แกรู้มั้ยตอนไปส่งครั้งแรก ข้าเจอยังไง" แล้วแกก็เล่าว่า วันที่แกไปส่งนั้นก็เวลาใกล้เคียงกับบอยนี่แหละ มีคนเข้ามาสั่งพร้อมจ่ายเงิน บอกให้มาส่งที่บ้านหลังนั้น 

พอแกไปส่งก็เจอน้าผู้ชายสูบบุหรี่คนเดียวกับที่บอยเจอเหมือนกัน รุ่นพี่กดกริ่งเรียกคนในบ้านแต่พบว่ากริ่งเสีย  พอมองเข้าไปในบ้านก็เห็นมีเงาคนเดินไปๆมาๆ แกก็เลยตะโกนเข้าไปว่า"พี่ๆ มารับของหน่อยครับ" ชายวัยรุ่นคนหนึ่งใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น ผลักประตูออกมาแล้วยืนที่หน้าบ้าน รุ่นพี่ของบอยจึงบอกว่าเอาพิซซ่ามาส่ง ชายคนนั้นพูดว่า"เปิดฝา แล้วเอาลอดใต้ประตูเข้ามา" รุ่นพี่งงแตกแล้วทวนคำของชายคนนั้นอีกครั้ง "เปิดฝา แล้วลอดใต้ประตูเนี่ยนะ" ชายคนนั้นก็ยังคงตอบว่าให้เปิดฝาแล้วก็ลอดใต้รั้วเข้ามา ระหว่างที่รุ่นพี่กำลังจะถามชายคนนั้น น้าข้างบ้านก็ตะโกนบอกมาว่า "ทำตามที่เค้าบอกเถอะ" รุ่นพี่ก็เลยเปิดฝาแล้ววางลอดเข้าไป ชายวัยรุ่นคนนั้น ก็ค่อยๆนั่งลงกินพิซซ่า ทีละชิ้นๆ รุ่นพี่รีบกระโดดขึ้นรถแล้วขี่ออกมาทันที จนมาพบน้าคนที่สูบบุหรี่กำลังจะเดินเข้าบ้าน 

รุ่นพี่รีบเรียกน้าคนนั้นไว้แล้วขับรถไปจอดหน้าบ้านของน้าคนนั้น "น้าๆ ทำไมเข้าให้ส่งแบบนั้นหล่ะ นั่นของกินนะ แล้วทำไมนั่งกินหน้าบ้าน ไม่เอาเข้าไปกินในบ้าน" น้าคนนั้นเดินเข้าไปพูดในบ้านตัวเอง "บ้านหลังนั้นหน่ะ ไม่มีคนอยู่หรอก เจ้าของบ้านย้ายออกไปนานแล้ว ลูกชายเค้าชอบกินพิซซ่ามากแต่ว่าประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปแล้ว พ่อแม่ของแกชอบสั่งพิซซ่าให้ลูกแบบนี้เป็นประจำ แต่ว่าเฮี้ยน อยู่กันไม่ได้ น้าเห็นมาหลายคนแล้วหล่ะ" แล้วก็เดินเข้าบ้านไป นี่เป็นเหตุการณ์ที่รุ่นพี่ได้เจอ ไม่ต้องถามเลยว่าบอยจะทำงานที่นี่อยู่หรือไม่เพราะลูกค้าคนนี้ เป็นลูกค้าประจำ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...

เรื่องหลอนบนเกาะเสม็ด!! PANTIP

สุดสัปดาห์ไปเที่ยวเกาะเสม็ดมา ได้ฟังเรื่องผี บนเกาะเสม็ดมาบ้างพอสมควร เลยอยากเอามาแบ่งให้เพื่อน ๆ ได้รับรู้บ้าง  ออกตัวไว้ก่อนเลยไม่ได้เอามาเล่าเพื่อดิสเครดิต หรือ ทำลายการท่องเที่ยว บนเกาะเสม็ด ฟังเอาไว้เพลิน ๆ สนุก ๆ เท่านั้น   เพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องที่ได้ยินมาจริงไม่จริง แต่เรื่องแบบนี้มันมีอยู่ทุกที่ฟังเล่นๆ สนุกๆก็พอ บอกแล้วนะ... เรื่องแรกที่ได้ยิน คือเรื่องอ่าวลูกโยน พี่ที่เป็นเจ้าหน้าที่บนเรือตกหมึก บอกว่าอ่าวลูกโยน เมื่อก่อนเป็นสุสาน มีศพฝังบริเวณนี้เยอะแยะ แต่ตอนนี้พื้นที่แถวนั้น เลิกใช้เป็นสุสานแล้ว  นอกจากนี้ยังมีตำนานเกี่ยวกับพระฤาษี ในเรื่องพระอภัยมณี พี่คนเดิมบอกว่า พระฤาษี จริง ๆ และคือ ปู่ดำ ที่อยู่ตรงหน้าด่านแถว ๆ ทางไปหาดทรายแก้ว และยังมีเจ้าแม่ทับทิม อีก 2 แห่ง บนเกาะเสม็ด และช่วงสงกรานต์ จะมีงานประเพณี ให้กับปู่ดำ ด้วย ขึ้นเกาะควรแวะกราบ-ไหว้ เพื่อสิริมงคล  ถ้าใครที่เดินทางไปเสม็ดบ่อย ๆ จะต้องจำได้ว่าทางไปหาดวงเดือน  บนทางที่จะต้องนั่งรถ หรือขับมอเตอร์ไซด์ จะมีจุดนึงที่มีศาลพระภูมิเยอะ ๆ แถว ๆ นั้นจะมีป่า และต้นไม้เยอะ ๆ ก่อน...