ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

หอพักพิศวง คุณเอิก THESHOCK


เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หอพักแห่งหนึ่ง ในจังหวัดราชบุรี เมื่อประมาณสี่ปีที่แล้ว คุณเอิกได้เรียนอยู่ปีหนึ่ง ทางมหาลัยได้มีกฎว่า นักศึกษาปีหนึ่งจะต้องพักที่หอพักของทางมหาลัย หอพักแห่งนี้มีทั้งหมดสามชั้น คุณเอิกได้ห้องชั้นล่างกับเพื่อนอีกหนึ่งคน ห้องอยู่ติดกับริมถนน

ภายในห้องจะมีเตียงสองชั้นอยู่สองหลัง จึงได้แบ่งเตียงนอนกับเพื่อนคนละหลัง และมีตู้เสียงผ้าคนละตู้ แต่ว่าคุณเอิกกับเพื่อนขนเสื้อผ้ามาเยอะมาก จนไม่พอใส่ตู้ บนชั้นสามของหอพัก จะมีห้องซักรีดอยู่ และมีตู้เสื้อผ้าอยู่ในห้องนั้นหลายตู้ คุณเอิกก็เลยคุยกับเพื่อนว่า ถ้าวันไหนปลอดคนเมื่อไหร่ เดี๋ยวขึ้นไปช่วยกันยกตู้เสื้อผ้าลงมาอีกคนละตู้ ช่วงพักเที่ยงของอีกวัน คุณเอิกกับเพื่อนก็ได้กลับมาที่หอพัก และได้ไปช่วยกันยกตู้เสื้อผ้าลงมาอีกตู้หนึ่ง เสร็จแล้วก็กลับไปเรียนตามเดิม จนถึงตอนเย็น รุ่นพี่ได้พาไปไว้ศาลพระภูมิหน้าหอพัก แล้วก็กลับมาพักผ่อนกัน

จนเวลาประมาณตีหนึ่ง คุณเอิกได้ยินเสียง กึกๆ ออกมากจากตู้เสียงผ้า คุณเอิกคิดว่าคงจะเป็นหนูวิ่งไล่กัน แต่ก็คิดอีกว่าตู้เสียงผ้าพึ่งจะยกลงมา จะมีหนูเข้าไปอยู่ได้ยังไง คุณเอิกจึงเดินเข้าไปดู ก็เห็นประตูตู้เสื้อผ้ามันเปิดอยู่ เลยเอาโซ่เล็กๆมาคล้องไว้ คืนที่สองเวลาประมาณตีหนึ่ง เกือบตีสอง คุณเอิกก็ได้ยินเสียงอีกแล้ว แต่เสียงมันถี่ขึ้นกว่าคืนแรก ดังแบบรัวๆ คุณเอิกก็งง เพราะว่าได้ล็อกตู้เสื้อผ้าแล้ว ก็เลยลุกไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้าทิ้งไว้ แล้วเสียงก็ไม่ดังอีก คุณเอิกงงมากว่ามันเป็นอะไร อยากเรียกให้เพื่อนมาช่วยกันดู แต่เพื่อนก็หลับไปแล้ว

จนคืนที่สาม คุณเอิกได้เปิดตู้ทิ้งไว้เลย เสียงนั้นก็ไม่ดังขึ้นอีก จนเวลาประมาณตีสาม เกือบๆตีสี่ คุณเอิกรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา จึงได้พยายามหลับต่อ แล้วนอนตะแคงหันหน้าไปทางเตียงของเพื่อน ซึ่งอยู่อีกฝั่งของห้อง เพื่อนจะนอนอยู่ชั้นสองของเตียง ในห้องมืดมาก คุณเอิกเหมือนจะเห็นอะไรบางอย่าง อยู่บนเตียงของเพื่อนตรงชั้นหนึ่ง ลักษณะขาวๆมัวๆ จึงพยายามเพ่งมอง พอจังหวะรถสวนมาที่ถนน แล้วสาดแสงไฟหน้ารถเข้ามาในห้อง คุณเอิกเห็นเป็นผู้หญิงผมยาวไม่สวมเสื้อผ้า นั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงของเพื่อน
ซึ่งเป็นช่วงจังหวะแค่แปบเดียวที่เห็น เพราะแสงไฟหน้ารถจากถนน คุณเอิกหยุดหายใจไปชั่วขณะหนึ่ง แล้วหันหลังเข้ากำแพง คลุมโปงจนถึงเช้า เวลาแปดโมง เพื่อนก็ได้มาปลุก แล้วถามว่าไม่ไปเรียนหรือไง คุณเอิกก็ได้ถามเพื่อนว่าเมื่อคืนเห็นอะไรมั้ย เพื่อนก็บอกว่าไม่ได้เห็นอะไร

คุณเอิกจึงรีบลุกไปอาบน้ำ แล้วไปเรียน วันนั้นทั้งวัน คุณเอิกพยายามคิดว่า สิ่งที่เห็นมันคืออะไร เราตาฝาด หรือว่ากำลังฝันอยู่ จนถึงตอนกลางคืน และคืนนั้น คุณเอิกนอนไม่หลับ จนถึงเวลาประมาณตีหนึ่ง เสียงจากตู้เสื่อผ้าก็ดังขึ้นอีก คุณเอิกคิดว่า วันนี้เป็นไงเป็นกัน จะไม่หลับเด็ดขาด จึงได้ลองพยายามมองดูที่เตียงของเพื่อน พอไปรถจากถนนฉายเข้ามา ก็เห็นผู้หญิงคนเดิม ท่าเดิม นั่งอยู่บนเตียงของเพื่อน คุณเอิกแน่ใจแล้วว่าไม่ได้ตาฝาด จึงกระโดดลงจากเตียงชั้นสอง แล้ววิ่งออกจากห้องไปนอนห้องของเพื่อนข้างๆ เพื่อนห้องข้างๆก็งง แล้วถามว่าทำไมไม่นอนที่ห้อง คุณเอิกบอกว่าเดี๋ยวค่อยเล่าตอนเช้า
ตอนเช้ามาเพื่อนที่นอนห้องเดียวกับคุณเอิกก็เดินมาถามว่าทำไมเมื่อคืนถึงไม่นอนในห้อง คุณเอิกก็เลยเล่าสิ่งที่เจอมาให้เพื่อนฟัง เพื่อนได้ฟังแล้วก็เงียบไปสักพัก แล้วก็บอกว่า เค้าก็เจอเหมือนกัน แล้วก็อยากวิ่งหนีเหมือนกัน แต่มันวิ่งไม่ได้ เพราะผู้หญิงคนนั้นดึงขาไว้อยู่

ก็เลยมาคุยกันว่าที่เจอนั่นมันคืออะไร จึงตัดสินใจไปถามแม่บ้าน แม่บ้านก็เลยขอเข้าไปดูในห้อง พอแม่บ้านเห็นตู้เสื้อผ้า ก็ถามออกมาว่าไปยกตู้นี้มาจากไหน คุณเอิกก็บอกว่ายกมาจากชั้นสาม แม่บ้านก็เลยบอกให้ขยับตู้ออกมา คุณเอิกกับเพื่อนจึงช่วยกันลากตู้ออกมา แล้วปรากฏว่าเจอผ้ายันต์สีแดงติดอยู่ที่หลังตู้ ทั้งๆที่ตอนยกลงมาจากชั้นสาม ก็ไม่เห็นจะมีของแบบนี้ติดอยู่ แม่บ้านเล่าว่า ตู้เสื้อผ้าตู้นี้ ถูกยกออกมาจากหอหญิงเมื่อยี่สิบปีก่อน มีนักศึกษาหญิงเข้าไปผู้คอตายในตู้นี้ เพราะโดนนักศึกษาชายจากหอพักแห่งนี้ แอบเข้าไปข่มขืนในตอนที่เค้าอยู่ห้องคนเดียว จนผ่านไปหลายวัน รูมเมทของเค้าก็สงสัยว่าเค้าหายตัวไปไหน และได้กลิ่นออกมาจากในตู้เสื้อผ้า แต่ก็เปิดไม่ออก จึงเรียกคนมาช่วยกันงัด พองัดออกมาก็พบศพของผู้หญิงผูกคอตายในนั้น ทางมหาลัยจึงได้ให้ภารโรงยกตู้เสื้อผ้าตู้นี้ไปทิ้ง

แม่บ้านก็ถามคุณเอิกว่าไปยกตู้นี้มาจากไหน คุณเอิกก็ตอบว่า ยกมาจากชั้นสาม เพราะเห็นบนนั้นมีตู้อยู่หลายใบ จึงได้ยกลงมาสองตู้ แม่บ้านก็หน้างงๆ แล้วบอกว่า ชั้นสามมันไม่มีตู้เสื้อผ้า คุณเอิกก็เลยพาแม่บ้านขึ้นไปดูที่ชั้นสาม พอขึ้นมาถึงชั้นสามกัน คุณเอิกรู้สึกจุกที่ท้องขึ้นมาทันที ตู้ที่ก่อนหน้านี้ คุณเอิกและเพื่อนเห็นว่ามันตั้งเรียงกันอยู่หลายใบ ตอนนี้มีแต่พื้นที่โล่งๆ แม่บ้านก็บอกว่าตู้ถูกยกเอาไปใช้ในห้องหมดแล้ว ก่อนที่จะมีนักศึกษาเข้ามาอยู่เสียอีก



หลังจากนั้นแม่บ้านก็ได้ขอตู้เสื้อผ้าที่คุณเอิกกันเพื่อนไปยกลงมาคืน แล้วก็แจ้งไปทางมหาลัย ทางมหาลัยจึงได้เอาตู้ใบนี้ไปบริจาคที่ไหนต่อก็ไม่ทราบ และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ