ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เจอเรื่องหลอนที่โรงแรมใน จ.อยุธยา (เรื่องเล่าจากPANTIP)


ประสบการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม 59 ที่ผ่านมานี่เองค่ะ และบอกเลยค่ะว่า โดนกันทั้งครอบครัว" ครอบครัวของเราขับรถมารับเราจากจังหวัดพิษณุโลกที่นวนครแต่กว่าจะถึงก็ราวๆเกือบ 1 ทุ่มซึ่งน้องสาวเราเป็นคนขับและเป็นประสบการณ์การขับรถออกต่างจังหวัดครั้งแรกคุณแม่เกรงว่าถ้าจะขับกลับเลยก็กลัวว่าน้องจะไม่ไหว ( ตอนนั้นเรามีปัญหาทางจิตใจอยู่ค่ะคุณแม่เลยห้ามขับรถเพราะกลัวจะเหม่อพาแหกกันทั้งคัน )

เลยตัดสินใจพากันไปหาที่พักที่อยุธยา ขับรถหาโรงแรมอยู่ นานพอสมควรจนเกือบราวๆ 20.30 น. ก็เจอโรงแรมเล็กๆที่หนึ่งจึงตัดสินใจเอาที่นี่แหละเพราะน้องสาว เหนื่อยมากแล้วและอยากพักรถ พอลงจากรถได้ความรู้สึกแรกคือขนลุกอาจเพราะเป็นโรงแรมค่อนข้างเก่าในความคิดตอนแรก คุณแม่เข้าไป C/N ส่วนคุณพ่อเดินไปซื้อของด้านนอก หลังจาก C/N เสร็จคุณแม่และน้องสาวลงไปขนกระเป๋าส่วนเรากับพ่อรอหน้าห้องซึ่งระหว่างรอนั้น

คุณพ่อถามเราว่า ใช่ห้องนี้แน่เหรอทำไมเหมือนมีคนกำลังอยู่ในห้อง เพราะมีเสียง TV ออกมาจากห้อง เราเองก็ได้ยินแต่ไม่คิดไรบอกไปว่าสงสัยเป็นเสียงข้างๆห้องมั้งพ่อ คุณพ่อไม่แน่ใจเลยเอาหูไปแนบประตู 2 ครั้งยังบอกเหมือนเดิมว่าได้ยินเสียง TV ระหว่างนั้นคุณแม่และน้องสาวเดินมาพอดี ประตูห้องนั้นเปิดยากมาก ต้องใช้แรงดึงพอสมควรเลยค่ะ ก้าวแรกที่เดินเข้าห้อง เป็นเตียงคู่ คุณแม่ทักคนแรกเลยค่ะว่ามีกลิ่นเหม็นแปลกๆ ( คุณแม่ได้กลิ่นคนเดียว ) คุณพ่อถามว่าย้ายห้องไหม ?

คุณแม่ว่าไม่เพราะกลิ่นหายไปแล้วและเหนื่อยกันมาก หลังจากจัดแจงเอาของออกจากกระเป๋าเราอาบน้ำคนแรก ห้องน้ำเก่ามากระหว่างอาบน้ำกระจกตรงอ่างล้างมืออยู่ดีๆก็เอนลงดังเอี๊ยดเบาๆ เราก็ยังไม่คิดอะไรมากอาบจนเสร็จ น้องสาวเราอาบคนสุดท้ายตอนที่กำลังจะอาบจู่ๆไฟในห้องน้ำก็ดับเหมือนไฟตกเลยค่ะ หลังจากปิดไฟนอนกันแล้ว น้องเราบ่นว่าร้อนมากเหงื่อออกทั้งๆที่ในห้องเปิดแอร์อยู่และเตียงที่เรานอนอยู่กับน้องเป็นจุดแอร์ตกถึงพอดี

เรานอนไม่หลับเพราะมีเสียงคนเดินไปมาหน้าห้องแทบตลอดเวลา ( เสียงเหมือนคนใส่รองเท้าแตะเดินลากเท้า ) จนตี 1 ครึ่งดูจากนาฬิกาโทรศัพท์ก็ยังไม่เลิกเดินสักทีเราตัดสินใจจะออกไปขอพนักงานนอนตรงโซฟาหน้าล็อบบี้ แต่พอเดินถึงไม่มีพนักงานอยู่ประจำดึกไฟเปิดแค่พอสว่างก็ไม่กล้านอนเลยเดินกลับมานอนที่ห้องเหมือนเดิม เกือบตีสามก็ยังนอนไม่หลับอยู่ๆ TV ในห้องก็เปิดเราคิดว่าคุณพ่อคงเปิดดูเรายังนอนดูด้วยเงียบๆเปลี่ยนช่องอยู่ 2 3 ช่องแล้วปิดไปจนเราเผลอหลับ ตอนเช้าหลังจาก C/O น้องสาวบอกว่าอยากยืนไหว้รถก่อนออกเพราะอะไร ไม่ทราบ พอขับรถถึงแยกไฟแดงน้องเราอยู่ๆก็จะเลี้ยวซ้ายตอนนั้นขับอยู่เลน 2 ถูกรถตู้โดยสารจากเลนในชนเข้าที่ประตู

ด้านผู้โดยสารหลังซ้ายแต่โชคดีที่รถตู้เบรคทันพอดีคนในรถจึงไม่เป็นอะไร แต่ประตูรถเรายุบไปเกือบทั้งบาน เนื่องจากไม่อยากเสียเวลารอประกันและตำรวจจึงยอมจ่ายค่าเสียหายไปเป็นจำนวนเงิน 5 พันบาทเพราะทาง เราเป็นคนผิดไปเลี้ยวตัดหน้ารถตู้ พอขับรถมาถึงจุดพักรถพากันแวะทานอาหารเช้าและน้องสาวก็เปิดประเด็น เมื่อคืนในโรงแรม...น้องสาวเราก็ได้ยินเสียงคนเดินลากเท้าไปมาหน้าห้องเกือบทั้งคืนเหมือนกันและหลังจากเราออกไป

กลับเข้ามาช่วง TV เปิด (ที่เราคิดว่าคุณพ่อเปิด ) น้องสาวเห็นเงาดำๆของผู้ชายร่างใหญ่นั่งอยู่ปลายเตียงคุณพ่อคุณแม่ หันหน้าไปทาง TV น้องเรากลัวมากแต่ก็หันหนีไม่ได้ตัวแข็งไปหมดจน TV ดับแสง TV หายไปเงานั้นก็หายไปด้วย ถามคุณพ่อคุณแม่ไม่มีใครเปิด TV เลยหลับกันทั้งสองคนตอนเช้าน้องสาวไม่กล้าพูดอะไรเพราะยังไม่ออกจากโรงแรม ก่อนออกเดินไปไหว้รถเพราะกลัวจะมีอันตรายแต่ระหว่างที่กำลังไหว้เหมือนมีคนมาแตะๆที่ไหล่ พอคุณพ่อถามว่า ทำไมอยู่ๆเลี้ยวน้องสาวบอกว่ามองไม่เห็นรถตู้ที่ขับมาจากเลนในจริงๆเลยเลี้ยว เราถามว่าให้เราขับรถดีมั้ยกลัวว่า


น้องจะเสียขวัญแล้ว คุณแม่ยังยืนยันห้ามขับเพราะยังได้รับผลกระทบจากการบอบช้ำทางจิตใจ ( กลัวเหม่อ ) T^T พอถึงบ้านราวๆ 4 โมงเย็น คุณแม่ให้น้องไปไหว้พระในบ้านและเช้าวันที่ 23 ก็พากันไปทำบุญกันทั้งบ้านเลยค่ะนี่คือประสบการณ์ครั้งแรกที่เจอในโรงแรมเลยค่ะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ