ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

นางในภาพ - คุณตั้ม


เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ร้านขายผ้าแห่งหนึ่ง ในจังหวัดลพบุรี เหตุการณ์นี้พึ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน ช่วงนั้นพี่ชายได้ชวนคุณตั้มไปงานวัดเกิดของเพื่อนพี่ชาย ซึ่งคุณตั่มก็สนิทด้วย อยู่ที่จังหวัดลพบุรี

ลักษณะบ้านจะเป็นตึกพาณิชย์สามชั้น ชั้นล่างจะเปิดร้านขายผ้า มีทั้งผ้าที่เป็นเมตร ผ้าทอ และผ้าเก่า ลักษณะภายในร้านจะแบ่งเป็นล็อคๆ กว้างประมาณห้าเมตร ลึกประมาณสิบเมตร ห้องน้ำจะอยู่ด้านหลัง
คุณตั้มและคนอื่นๆนั่งดื่มกันอยู่ที่หน้าร้าน สักพักใหญ่ๆ พอคุณตั้มเริ่มเมาได้ที ก็รู้สึกปวดท้องเบา จึงได้ถามพี่เจ้าของบ้านว่า "ห้องน้ำอยู่ไหน" พี่เจ้าของบ้านบอกว่า "เดินไปข้างในสุดแล้วเลี้ยวขวา" คุณตั้มจึงลุกเดินเข้าไปในร้าน ภายในร้านจะปิดไฟหมดแล้ว เปิดไว้แค่ตรงทางโค้งเข้าห้องน้ำ คุณตั้มเดินไปจนถึงทางโค้ง สังเกตเห็นว่าด้านซ้ายมือ มีรูปที่ทำจากผ้าอยู่ผืนหนึ่ง กว้างเมตรครึ่ง สูงสามเมตร ติดอยู่ข้างฝา
เป็นภาพวาดของผู้หญิงเกล้าผมสูง ใส่ชุดคอเต่าสีดำ คุณตั้มรู้สึกขนลุกแบบแปลกๆเมื่อได้มองภาพนี้ แล้วก็เดินเลี้ยวไปเข้าห้องน้ำ หลังจากเสร็จธุระก็เดินออกจากห้องน้ำ สายตาก็จ้องไปที่รูปภาพ เพราะมันจะอยู่ตรงกับห้องน้ำพอดี

คุณตั้มรู้สึกว่าสเกลรูปมันดูแปลกไปกว่าเดิม จากที่มันเป็นภาพติดผนัง แต่คราวนี้มันเหมือนกับว่านูนออกมา คุณตั้มพยายามเพ่งมอง คิดในใจว่าหรืออาจจะเพราะกำลังเมา แต่ยิ่งมอง คนในภาพวาดก็เหมือนกับยิ่งโน้มตัวออกมาเรื่อยๆ จากใบหน้าขาวๆ เหมือนมีรอยแตกค่อยๆปรากฏขึ้นเรื่อยๆ แล้วเลือดก็ค่อยๆซึมออกมาจากรอยแตกบนใบหน้า คุณตั้มคิดว่านี่คงไม่ได้เกิดจากอาการเมาแน่นอน เพราะว่าตอนนี้รู้สึกตาสว่างเต็มที่ รู้ได้ทันทีว่าอาการขนหัวลุกมันเป็นยังไง รีบถอยหลังเข้าห้องน้ำแล้วปิดประตู ขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำทันที ในหัวสับสนจนรู้สึกอยากจะอาเจียน ได้แต่คิดว่าสิ่งที่เห็นมันคืออะไร แล้วจะหนีออกไปได้ยังไง คุณตั้มยืนตัวแข็งอยู่ในห้องน้ำเป็นเวลานานมาก พยายามตะโกนเรียกให้คนอื่นๆมาช่วย แต่ก็ไม่มีใครได้ยิน คว้าดูมือถือในกระเป๋า ก็รู้สึกโกรธตัวเอง เพราะวางมันทิ้งไว้บนโต๊ะข้างนอก คิดในใจอยู่ตลอดว่าเมื่อไหร่จะมีคนมาเข้าห้องน้ำสักที

สุดท้ายคุณตั้มทนความกดดันนี้ไม่ไหว คิดว่ายังไงก็ต้องออกไปข้างนอก จึงลองส่องดูที่ช่องระบายอากาศของประตูห้องน้ำ พอไม่เห็นว่ามีใครยืนอยู่แถวๆหน้าห้องน้ำ ก็ตัดสินใจเปิดประตูออกไปทันที
รูปภาพด้านหน้ายังคงเป็นรูปภาพปกติทั่วไป คุณตั้มรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง จึงพยายามเดินช้าๆ จนไปถึงทางโค้ง แต่อยู่ๆประตูห้องน้ำก็ดีดปิดเองดังลั่น "ปั้ง!!!" คุณตั้มสะดุ้งจนตัวเกร็ง รีบหันกลับไปดู ปรากฏว่าผู้หญิงในภาพวาด โผล่หน้าขึ้นมาจากช่องโล่งๆเหนือประตูห้องน้ำ ใบหน้าขาวแห้งแตก มีเลือดซึมไหลออกมาตามลอยแตก ยิ้มปากกว้างจนเห็นเลือดที่กองอยู่ในปากเป็นลิ่มๆ คุณตั้มตกใจสุดขีด พึ่งเคยเห็นสิ่งที่เรียกว่าผีแบบจะๆก็วันนี้ ขามันกระโดดออกจากจุดนั้นเอง รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่นั่งอยู่กลางวงดื่มของพวกพี่ๆ ทุกคนต่างลุมถามกันว่าเป็นอะไร คุณตั้มนั่งนิ่ง รู้สึกช็อกต่อภาพที่เห็น จนได้สติก็ตอนที่พวกพี่ๆตะโกนใส่หู คุณตั้มจึงได้เล่าสิ่งที่เห็นมาให้พวกพี่ๆฟัง แต่ทุกคนไม่เชื่อ คิดว่าคุณตั้มเมา คุณตั้มจึงลุกไปนั่งคนเดียว คิดทบทวนว่าสิ่งนั้นมันคืออะไรกันแน่

สักพักพี่เจ้าของบ้านก็เดินมาหาคุณตั้ม แล้วพูดว่า "ตั้ม ถือว่าเอ็งโชคดีมากเลยนะ น้อยคนนะที่จะได้เห็นผู้หญิงในรูปนั่นน่ะ" คุณตั้มถามว่า "แล้วมันดียังไงครับพี่" พี่ก็เล่าต่อว่า "รูปอันนั้น ได้มาตั้งแต่สมัยพ่อแล้ว พ่อไปซื้อขายผ้าตามต่างจังหวัด แล้วไปเห็นรูปนี้มา มันมีเรื่องเล่าต่อๆกันมาว่า ใครที่ได้รูปนี้แล้วดูแลดีๆเลี้ยงดีๆ จะทำมาค้าขึ้น แต่ต้องแลกด้วยสิ่งที่ทัดเทียมกัน พ่อแลกเปลี่ยนมาโดยที่เสียขาไปข้างนึง จากอุบัติเหตุ หลังจากนั้นกิจการก็ดีขึ้นเรื่อยๆจนไม่น่าเชื่อ แสดงว่าผู้หญิงในภาพเนี่ยเค้าชอบเอ็งนะ ถึงได้ออกมาให้เอ็งเห็น" คุณตั้มก็ได้ถามต่อว่า "ในตระกูลพี่มีใครเห็นมั้ย" พี่ก็ตอบว่า "มีนะ พี่ชายคนโต เห็นเดินออกมาจากในรูป แล้ววิ่งไล่ เหมือนอยากเข้ามาเล่นด้วย จนพี่ชายอยู่บ้านหลังนี้ไม่ได้" คุณตั้มจึงถามถึงสาเหตุที่คุณพ่อต้องเสียขา พี่ก็เล่าให้ฟังว่า "วันนั้นพ่อได้เดินทางไปกับพี่ชายคนกลาง พ่อเป็นคนขับ ปกติพ่อพี่ถ้าแกง่วง แกจะจอดรถนอนทันที ไม่เคยฝืนขับต่อ แต่วันนั้นอยู่ดีๆพ่อก็หลับใน จนเกิดอุบัติเหตุ พ่อต้องตัดขาทิ้ง ส่วนพี่ชายคนกลางไม่เป็นอะไรเลย"

พี่เจ้าของบ้านก็เล่าประวัติในส่วนของภาพวาดนั้นให้ฟังว่า คนเขียนเป็นหมอผี ก่อนที่จะเสียชีวิต ได้ใช้เลือดของตัวเอง ผสมไปกับหมึกวาด แล้วท่องคาถาอะไรสักอย่างพร้อมกับวาดภาพไปด้วย ภาดวาดนี้ก็ตกเป็นมรดกสืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น แล้วตกไปอยู่ที่อื่น จนคุณพ่อของพี่เจ้าของบ้านไปเจอเข้า และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...