ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ถูกผีสาวหลงรัก - PANTIP


เรื่องมีอยู่ว่า … “เปิ้ล” ได้ไปพักอาศัยอยู่กับครอบครัวหนึ่งที่สนิทกันระหว่างตนที่ไปเรียนทำขนม ครอบครัวดังกล่าวทำกิจการร้านประดับยนต์ ระหว่างที่พักอาศัยอยู่กับครอบครัวนั้น “เปิ้ล” ก็สนิทกับ “แก็ป” ซึ่งเป็นลูกชายของบ้านหลังดังกล่าว “แก็ป” มักจะแซว “เปิ้ล” และบอกว่า “ถ้าต้องตื่นแต่เช้าบอกผมได้นะ ผมตื่นแต่เช้าทุกวันแหละ ผมไม่ค่อยได้นอนหรอก”

พอได้ยินดังนั้น “เปิ้ล” ก็เลยถามกลับไปว่าตอนกลางคืนน่ะ “แก็ป” คุยกับใครเพราะ “เปิ้ล” ได้ยินเสียงเหมือนคนคุย ตอนนั้น “แก็ป” ก็คิดว่าโดน “เปิ้ล” อำ แต่พอ “ก๊ิ๊ก” ซึ่งเป็นน้องสาวได้ยินที่ “เปิ้ล” พูดเลยถาม “เปิ้ล” ว่าได้ยินเสียงอะไร เพราะ “กิ๊ก” เองก็ได้ยินทุกคืนแต่ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าแล้ว  “กิ๊ก” ก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับคนงานของร้านให้ฟังว่า คนงานของร้านต้องขึ้นไปตัดฟิล์มที่ชั้นลอย แล้วมักจะโดนดึงตกจากโต๊ะ ส่วนคนใช้ที่นอนอยู่ห้องด้านหลังห้องนอนของ “แก็ป” ก็มักจะอยู่ได้ไม่นาน ทำให้ที่บ้านต้องเปลี่ยนคนใช้ค่อนข้างบ่อย

อยู่มาวันหนึ่ง ด้วยความสงสัย “เปิ้ล” จึงไปเคาะประตูห้องของ “แก็ป” พอประตูเปิดออก “เปิ้ล” ก็ขอเข้าไปในห้องเพื่อดูว่า “แก็ป” คุยกับใคร ก็ปรากฏว่าไม่มีใครนอกจาก “แก็ป” แต่ “เปิ้ล” กลับรู้สึกเหมือนมีคนเดินสวนตรงประตูออกไป ต่อมา “เปิ้ล” ก็แอบเข้าไปในห้องของคนใช้ ภายในห้องนั้น  “เปิ้ล” เจอเข้ากับกระจกโบราณที่มีรอยร้าวบานหนึ่ง พอ “เปิ้ล” เอามือไปสัมผัสรอยร้าวนั้น “เปิ้ล” ก็รู้สึกเหมือนโดนไฟดูด “เปิ้ล” เลยต้องดึงมืออกและวิ่งออกมาจากห้อง ด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า “เปิ้ล” ก็เคลิ้มหลับและรู้สึกเหมือนมีคนมายืนอยู่ปลายเตียง

ทันใดนั้นก็มีเสียงพูดขึ้นมาว่า “ให้มาอยู่เฉยๆ อย่ายุ่ง ! … กูรักเด็กผู้ชายคนนี้มาสี่ปีแล้ว ปีหน้ากูจะเอาไปอยู่ด้วย … ถ้ายังไม่หยุดจะได้เห็นดีกัน” ซักพัก “เปิ้ล” ก็ลุกขึ้นได้แล้ววิ่งไปหยิบพระจากในห้องมา แล้ว “เปิ้ล” ก็ตัดสินใจว่า วันนี้เป็นไงเป็นกัน ! ว่าแล้ว “เปิ้ล” ก็เดินขึ้นไปห้องนอนของ “แก็ป” ระหว่างที่กำลังเดินขึ้นบันได “เปิ้ล” ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้าไปให้ห้องพร้อมกับ “แก็ป” และหันมามองที่เปิ้ล ทันใดนั้น “เปิ้ล” ก็เห็นเด็กไม่มีหัวคนหนึ่งวิ่งมาผลักตนให้ตกจากบันได แต่ด้วยความที่ “เปิ้ล” มีสติดีจึงจับราวบันไดเอาไว้ได้ แต่ “เปิ้ล” ก็ยังไม่สามารถเดินขึ้นบันไดเพื่อไปที่ห้องของ “แก็ป” ได้เนื่องจาก “เปิ้ล” รู้สึกว่ามีคนมาดึงขาของตนเอาไว้ ! “เปิ้ล” เลยเริ่มสวดคาถาชินบัญชรจนสามารถหลุดจากตรงบันไดและเข้าไปในห้องของ “แก็ป” ได้ ทันทีที่ “แก๊ป” เห็น “เปิ้ล” เข้าไปในห้องก็ตกใจ

ขณะนั้นเองไฟในห้องก็ดับลง ซักพักพอ “เปิ้ล” หาสวิตซ์ไฟเจอและเปิดไฟในห้อง “เปิ้ล” ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นไปนอนคร่อม “แก็ป” ! พอเห็นดังนั้น “เปิ้ล” เลยโยนสร้อยพระออกไปแล้วผู้หญิงคนนั้นก็หายไป ต่อมา “เปิ้ล” ก็พา “แก็ป” ไปปลุกพ่อ-แม่ แล้วพากันไปนั่งรวมกันอยู่ที่ห้องๆ หนึ่ง เพื่อถามรายละเอียดของเรืองราวทั้งหมด “แก็ป” จึงเล่าทุกอย่างให้ฟังว่า เขารู้จักกับผู้หญิงคนนี้มา 4-5 ปีแล้ว ตั้งแต่ที่พ่อของเขาเอากระจกใบนั้นมาจากจังหวัดสุพรรณบุรี ! เช้าวันต่อมาทางครอบครัวได้นิมนต์พระมาจากจังหวัดสุพรรณบุรีเพื่อทำพิธี ทันทีที่พระมาถึงบ้านก็พูดขึ้นว่าเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งวิ่งหนีจากประตูบ้านขึ้นไปที่บันได พระได้บอกวิธีแก้ปัญหา คือ ต้องทำลายกระจกโบราณบานนั้นทิ้ง แล้ว “แก็ป” จะต้องไปบวชไม่งั้นผู้หญิงคนนั้นจะมาเอาไปอยู่ด้วย



และต้องย้ายบ้านเพราะบ้านหลังนี้ไม่สามารถอยู่อาศัยได้แล้วเนื่องจากผีผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมไป สามวันหลังจากนั้นครอบครัวนี้จึงต้องประกาศขายบ้านและย้ายไปอยู่ที่อื่น !

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...