ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

'คนหนองเสือ' เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากถนนธัญบุรี


บ้านผมอยู่ธัญบุรี ปทุมธานี เขตปริมณฑลของกรุงเทพฯ นี่เอง มีคลองรังสิตเป็นสายเลือดเส้นใหญ่ของพวกเรา...ตั้งแต่ เปิดคลองในพ.ศ.2435 ร.5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่าคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ย่านนี้ก็กลายเป็นถิ่นเจริญ ดินดำน้ำชุ่ม คลองไปถึงไหน ไร่นาที่นั่นก็อุดมสมบูรณ์ ผู้คนเข้าไปทำมาหากินกันหนาตาขึ้นทุกที


น่าสงสารแต่ บรรดา'คุณหูทิพย์' หรือโขลงช้างป่าที่ถือว่าเป็นเจ้าถิ่นตัวจริงเสียงจริง เคยอยู่กินสุขสบายมานับร้อยปีก็จำเป็นต้องถอยร่น หลบเข้าป่าลึกไปทุกทีจนถึงเขาเขียว นครนายก ปราจีนบุรีโน่น

ทุ่ง รังสิตเคยรกร้างในอดีตก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นเมืองธัญบุรี ในปี 2444 อีก 30 ปีต่อมาก็กลายเป็นอำเภอธัญบุรี ขึ้นต่อจังหวัดปทุมธานี ในปี 2474 มาจนถึงทุกวันนี้ หนองเสือ ธัญบุรีบ้านผมนี่ แหม...เขาลือกันว่าผีดุบรรลัยเลยละครับ!

ช่วงนั้นบ้านเรือนชักจะหนาตา บ้านจัดสรรก็ผุดขึ้นหลายแห่ง ผู้คนและรถราคึกคักขึ้นทุกที แม้ว่าด้านหลังจะมีสวนส้มเขียวหวานอยู่นับร้อยไร่ เห็นว่าหนีน้ำเค็มจากบางมดมาปักหลักที่นี่ ต่อมาก็ต้องอพยพไปอยู่สิงห์บุรีบ้าง พิจิตรบ้าง เมื่อดินจืดกับความเจริญจากเมืองหลวงแผ่ขยายมาถึงรวดเร็วแทบตั้งตัวไม่ติด

ถนน เลียบคลองจากรังสิต กลายเป็นทางลัดไปนครนายก เสาร์-อาทิตย์มีรถนักท่องเที่ยวผ่านไปมาขวักไขว่ อุบัติเหตุทางถนนก็เกิดขึ้นเป็นเงาตามตัว

ชนโครมเข้าถ้าไม่ตายก็คางเหลืองไปตามๆกัน! น่าขนพองสยองเกล้ากว่านั้น คือพวกที่ขับรถพุ่งชนต้นไม้เสียงเหมือนฟ้าผ่า หรือไม่ก็พุ่งลงคลอง ส่วนมากกลายเป็นศพทั้งนั้น ผมเคยเห็นพวกมูลนิธิเขางมศพขึ้นมา มีทั้งผู้หญิงผู้ชาย แม้แต่เด็กๆ ก็ต้องพลอยจบชีวิตอย่างน่าเศร้าใจ เรื่องผีดุก็ชักจะหนาหูขึ้นทุกที! ไม่ใช่เรื่องราวที่พูดกันลอยๆ นะครับ แต่มีคนหวิดจับไข้หัวโกร๋นมาหลายรายแล้ว ตอนแรกเป็นผีในทุ่งนา คนเดินผ่านได้ยินเสียงท่องน้ำจ๋อมๆ พอหันไปดูก็เงียบ แต่เดินต่อเมื่อไหร่เป็นได้ยินเสียงจ๋อมๆ เมื่อนั้น ในที่สุดก็ต้องวิ่งหนีล้มลุกคลุกคลานแทบเสียสติไปเลย


บางคน เล่าว่าขับรถกลับบ้านตอนกลางคืน เห็นคนกลุ่มหนึ่งยกโขยงมาจากสวนส้ม เดินตัวแข็งทื่อเหมือนหุ่นยนต์ บางคนบอกว่าเด็กๆ เดินแก้ผ้าล่อนจ้อนข้างทาง พอนึกได้ว่าเด็กเล็กๆ ที่ไหนจะมาเดินคนเดียวตอนดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้? คุณพระช่วย! เด็กเจ้ากรรมนั่นก็หายไปแล้ว! ต่อให้ใจแข็งเป็นเหล็กเป็นไหลแค่ไหน แต่เรื่องกลัวผีนี่ไม่เข้าใครออกใครนะครับ นึกขึ้นได้ก็เผ่นอ้าวจนออกหูหึ่งๆ เรียบร้อยแล้ว

ยิ่ง มีรถเกิดอุบัติเหตุคนตายบ่อยๆ ภูตผีปีศาจก็ยิ่งเฮี้ยนจัดขึ้นทุกที ก็มีคนเห็นร่างดำๆ เดินไปมาอยู่ข้างถนน บ้างก็นั่งร้องไห้อยู่ริมคลอง...ชะลอรถดูก็เห็นตัวเปียกโชกเชียว!

คนที่ขับรถกลับบ้านดึกๆ เห็นใครวิ่งตัดหน้าหายวูบลงไปในคลอง บางทีเห็นผู้หญิงยืนโบกรถ แต่พอจอดดูก็เห็นร่างเหวอะหวะ หน้าตาเนื้อตัวเปรอะด้วยเลือดสดๆ เล่นเอาแทบสติแตกไปเลยก็มี ผมเคยเจอเข้ากับตัวเองจังๆ เมื่อขับรถมากับพี่น้องอีกสองคน กลับจากงานศพที่วัดพระศรีมหาธาตุ กำลังจะเลี้ยวเข้าซอยบ้านอยู่แล้ว พอดีเห็นแสงไฟพุ่งจ้าสวนมา แถมใช้ไฟสูงอีกต่างหาก เกือบจะร้องด่าอยู่แล้วเชียว แต่ก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นรถเจ้ากรรมนั่นก็หักพรวดลงคลองไปดื้อๆ เสียงตูมสนั่น! ขณะนั้นรถราบางตาแล้ว แต่ไม่มีใครแยแสหรือจอดถามไถ่เหตุการณ์เลย พวกเราผู้ชายล้วนๆ รีบลงจากรถไปดูเพื่อช่วยเหลือ ท่ามกลางอากาศเย็นยะเยือกในฤดูฝน...แต่มองเท่าไหร่ก็ไม่เห็นรถคันนั้น...ไม่เห็นแม้แต่วงน้ำกระเพื่อมที่น่าจะปรากฏให้เห็นในแสงไฟ นอกจากสายลมพัดวูบจนหนาวสะท้านไปทั้งตัว!


เผ่น กันขึ้นรถแทบไม่ทัน ต่างคนต่างนั่งตัวแข็ง ไม่มีใครกล้าปริปากอะไรตลอดทางจนถึงบ้าน รีบเอาน้ำมนต์มาแจกกันล้างหน้าที่ยังซีดเซียวเป็นไก่ต้มอยู่ไม่หาย...ขอให้ ไปที่ชอบๆ เถอะ เจ้าประคุณเอ๋ย...



แค่นี้ก็ขนหัวลุกซู่ซ่าไปตามๆ กันแล้วครับ! บรื๋อออ....ขอบคุณ ขนหัวลุก ใบหนาด

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...