ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ปากว่าดีแล้ว เจอของดีกว่าปาก..เรื่องหลอนจากถนนพหลโยธิน


ช่วงต้นเดือนตุลา มหกรรมชิงที่นั่งจากแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ที่ ม.เกษตร ถามว่าอีนี่อยากชิงกับเขาด้วยมั้ย .. อยากจ่ะ ! 55555555555 เลยนัดกับเพื่อนว่าไปยังไง ที่ไหน นอนไหน สรุป ได้พักแถวๆ เมเจอร์รัชโยฯ

ไป 5 คนค่ะตอนนั้น ล่วงหน้าไป 3 คนในวันที่ 2 ตุลาคม ตามไป 2 ในวันที่ 3 ตุลาคม ซึ่งเราตามไปวันที่3 เพราะอยากประหยัดเงินค่าที่พัก 5555555 ก่อนจะไปก็ดูรีวิวที่พักว่าเป็นยังไง ห้องสวยดีค่ะ โอเคเลยกับราคา 800 (ย้ำ 800ต่อ1ห้อง ) เลื่อนรีวิวเจอพี่ผู้หญิงคนหนึ่งโพสต์ทำนองว่า “ ไม่ใช่ผีหรอก กูตาฝาด 555 “ นี่แหละค่ะ จุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด...คืนวันที่2 เพื่อนสร้อยพระขาด เราก็ทักไปถามเพราะเห็นเพื่อนโพสต์ลงเฟส เราก็แกล้งๆเพื่อนขำๆ สนุกสนาน แต่เพื่อนเราไม่ได้นอนเลยคืนนั้น จนวันที่3 เราตามมา  พอถึงที่พัก ได้ห้อง 404 เพื่อนได้ 403 (ถ้าจำไม่ผิด) แบ่งนอนค่ะ 3 คน/ห้อง และก็ 2คน/ห้อง ตอนแรกเข้าไปเราก็ยังสนุก ไม่ได้คิดอะไร กำลังเห่อห้องสวยๆ ก็นอนเล่นกับเพื่อน มีเพื่อนอยู่ที่ กทม. แล้ว 1 คน ซึ่ง รวมในที่พักตอนนี้ 6 คน  เพื่อน 2 คนยังอยู่ในห้อง 403 แต่เหลือมานอนคลุกคลีในห้องเราค่ะ เราก็เล่นสนุกสนาน คุยนู้นนี่นั่น

จนเพื่อนออกไปห้องของเพื่อนอีกคนไปทำไรสักอย่างซึ่งเราจำไม่ได้ แต่เราอยู่ห้องนั้นคนเดียว ได้มีเสียงมาจากประตูห้องน้ำ เราก็ด้วยความปากดี เพราะเราจึงพูดในใจว่า “ กล้าก็ลองดิ “  เพื่อนกลับมาเลยนัดจะลงไปกินชาบูกัน ก่อนจะลงเราเงยหน้าขึ้นไปมองประตูทางเข้า ขอบอกก่อนนะคะ ที่พักเราได้ชั้น4 แล้วมันเป็นที่พักแบบทางเดินขึ้นแคบๆ ชั้น4มีห้องประมาณ 5-6 ห้อง แต่วันที่เรานอนคือมีพักแค่2ห้อง คือเพื่อนกับห้องเรา ก่อนจะเข้าถึงห้องพัก มันจะเป็นทางเข้าที่พอเดินขึ้นบันไดมาเป็นประตูใหญ่ๆ ก่อนจะแยกเข้าไปเป็นห้องๆ แล้วต้องเอาคีย์การ์ดแตะก่อนถึงจะเข้าไปได้

เราเงยหน้าขึ้นมองประตูใหญ่ มียันต์ท้าวเวสสุวัณ แปะอยู่ เราเลยสะกิดเพื่อนที่สร้อยพระขาดให้ดู เพราะมันกลัวผีมากกกกกกก เราเลยบอกเห้ยดูดิ 5555 มันก็กลัวแล้วบอกว่าอย่าแกล้งมัน จนถึงร้านชาบูเรานั่งกินกันไปสักพักเราเลยพูดขึ้นว่า ลองไปดูชั้น3 มั้ย ถ้าไม่มียันต์แสดงว่าใช่ ! หลังจากที่อิ่มท้อง เลยไปเดินเล่นตลาดข้างเมเจอร์ จนซื้อของแล้วเดินขึ้นห้อง เดินถึงชั้น3เพื่อนเรามองหน้าเรา เรามองหน้ากัน ไม่มีใครกล้าเข้าไป

เราเลยวิ่งเข้าไปผลักประตู แล้วมองขึ้นไปค่ะ ... สตั้น3 วิ ไม่มียันต์ !! 😳 เราเก็บอาการเก่งมาก เวลาเราเจออะไรแบบนี้ เราจะมีสติพอสมควร เราก็ยิ้มแล้วพยักหน้าเชิงประมาณว่า ขึ้นห้องเหอะ อย่าอยู่นานเลย กูขอร้อง ประมาณนี้ 5555555 เราชวนเพื่อนที่อยู่ กทม. อยู่แล้วนอนนี่มันก็เออออห่อหมกว่านอน แต่ท่าไหนไม่รู้ค่ะ อยู่ดีๆ มันก็นอนลงไปที่เตียงแล้วหัวเราะ เราเลยถามว่าเป็นอะไร มันบอกว่าป่าวแล้วก็ขำ แต่สีหน้ามันแสดงออกชัดเจน เราก็เลยเฉยๆ กลบเกลื่อนความกลัวของตัวเอง

จนมันบอกว่า เดี๋ยวกลับไปนอนห้องเพื่อนเราก็ลงไปส่งมัน จนเหลืออยู่ในห้องเรา 2 คน คือเรากับเพื่อนที่เหลือ นอนเล่นสักพักได้ยินเสียงมาจากหัวนอน “ ปึ้ง ! “ เรากับเพื่อนมองหน้ากันค่ะ เป็นสัญญาณว่า เออ กูได้ยินละ ประมาณนี้ 555 หลังจากเพื่อนขึ้นมาเราก็นั่งแกะของกิน กินนั้นนี่ไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาอันสมควรที่ต้องนอน เวลาเที่ยงคืนเห็นจะได้ เพื่อนที่สร้อยพระขาดมันมานอนกับเราค่ะ สรุป 403 นอน2คน 404 นอน3คนค่ะ เรานอนริมขวา ฝั่งประตู

เพื่อนที่สร้อยพระขาดหลับ เหลือเรากับเพื่อน เราก็พยายามบอกเพื่อนว่าอย่าหลับนะ อยู่เป็นเพื่อนกูก่อน !! สรุปคือ มันหลับค่ะ 😫 ตอนนั้นเราหิวน้ำมาก เราเลยเดินไปครัวข้างห้องน้ำ แต่น้ำหมดเหลือแต่น้ำแข็งเราเลยเอาน้ำแข็งใส่แก้วไว้คิดว่าพรุ่งนี้ค่อยกิน รอมันละลาย ตั้งไว้ห่างจากโคมไฟประมาณหนึ่งเพราะกลัวน้ำหก เหตุการณ์แปลกๆ คืนนั้นมันเริ่มรุนแรงชัดเจน เราพยายามคุมโปงนอนเบียดกับเพื่อน ค่ะ ! เตียงตรงขาข้างซ้ายค่อยๆยุบ เสียงเริ่มมาจากหัวเตียงบ้าง ห้องน้ำบ้าง คืนนั้นเราไม่ได้นอนทั้งคืน เราไม่ได้คิดไปเองแน่ๆ เราตั้งนาฬิกาปลุกตอนตี4  ตอนนั้นเรานอนหลับตาเฉยๆจนเวลาถึงตี3:59 พอนาฬิกาตี4ปุ๊ป เราปลุกเพื่อนเลยค่ะ !! ลุกขึ้นอาบน้ำ  เก็บของ เตรียมย้ายที่พักให้ไว ก่อนลงจากเตียงหิวน้ำ หันจะไปกินน้ำ แก้วจากที่วางไว้ห่างประมาณหนึ่ง กับอยู่ชิดที่ตั้งโคมไฟ จ้าาา เผ่นจ้าาา

หลังจากเก็บของเรียบร้อยเราเลยลงไปที่ล็อบบี้แล้วแจ้งเหตุการ์ณทั้งหมดให้เขาฟังเพื่อขอเงินที่จ่ายล่วงหน้าคืน เราเล่าถึงตรงที่ว่ามียันต์แปะ พี่พนักงานบอกว่า มันก็อาจมีลมทำให้ยันต์หลุดบ้างอะน้อง ขุ่นพระ !!! ใครเคยนอนที่พักนั้นจะรู้ดีกว่าไม่มีช่องลมที่ให้เข้าผ่านได้เลย พอได้ที่พักใหม่เราก็มานั่งเล่าเหตุการณ์ว่าเจอไรบ้าง เพื่อนที่ไปก่อนคืนแรกนอกจากสร้อยพระจะขาด อีกคนมันก็ได้ยินเสียงมาจากหัวเตียง ตอนที่มันนอนมีแค่ห้องมันห้องเดียว มันเจอเหตุการณ์คล้ายที่เราเจอ สรุปวันนั้นไม่ได้ไปติวแบรนด์ หลับเป็นตาย

แล้วเราก็มานั่งเอะใจกับเพื่อนว่า “ จำประตูใหญ่ได้ปะ มันมีคีย์การ์ดแตะถึงจะเปิดได้ ตอนนั้นกูผลักเข้าไป ทำไมเข้าไปได้วะ หรือ เขาอยากให้กูรู้ กูเห็น “ ขนลุกซู่เลยค่ะ !!


ปล. พิมพ์เพื่อเก็บไว้เตือนเฉยๆว่าอย่าปากดี 555
ปล.2 ทักเฟสพี่ที่โพสต์ว่า ไม่หรอก กูตาฝาด 555 พี่เขาก็บอกว่าเขาก็เจอ ชั้น3 เสียงมาจากห้องน้ำ แมวก็พยายามข่วนประตูจะเข้าห้องตลอด
ปล.3 พี่เขาบอกก่อนหน้านั้นค่าพักแพง แต่พี่ได้ในราคา 1000 บาท จ่ะ .. กูได้ 800 !!!
ปล.4 จำเพื่อนที่บอกว่าจะนอนด้วยแต่ก็ไม่นอนได้มั้ย มันเห็นประตูตู้รองเท้าค่อยๆเปิดออก มันเลยเก็บอาการซึ่งเก็บไม่เก่ง ลงไปนอนหัวเราะ ตอนนั้นมันเห็น 2 คน แต่อีกคนเงียบกริบ !!
ปล.5 (เยอะจางเลยยยย) โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน #มีภาพปลากรอบประตูตู้รองเท้า #แต่ไม่สามารถลงได้เพราะไฟล์เกินกว่ากำหนด

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ