ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เจอดีตอนร่องแก่ง PANTIP


สวัสดีครับ วันนี้ผมมีประสบกรณ์มาเล่าให้ฟังครับ (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน หากผิดพลาดประการขออภัยด้วยนะครับ) (ภ ช จ ม ท ด ต นี่คือชื่อแทนของเพื่อนและพี่ของผมครับ)

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วครับ ไอ้ ภ. ได้มาชวนผมและเพื่อนๆไปเที่ยวแกร่งกระจานกลับแม่ของมัน ก็นัดกันว่าจะไปโดยรถตู้ครับ ก่อนวันไป 1 วัน ผมได้ไปนอนบ้านไอ้ ท. ครับ แล้วพี่ ด. ไปค้างบ้าน ไอ้ ช. ครับ พี่ ม. ไปค้างบ้านไอ้ ภ. ครับ คืนนั้นผมไม่ได้นอนเลย คืนนั้นผมกับไอ้ ท. ไม่ได้นอนเลย ก็ชวนกันเล่นเกมส์ พอเล่นกันเสร็จก็ชวนกันออกไปสูบบุหรี่ที่ระเบียงข้างนอก ตอนที่กำลังจะไปสูบบุหรี่ ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลย เรื่องผีๆที่บ้านไอ้ ท. มันก็มีเยอะ สงสัยผมจะคิดมาก แต่ผมก็ไม่ได้บอกอะไรมันนะ พอดูดเสร็จมันก็เล่นเกม ส่วนผมก็คุยกะแฟนครับ ผมได้บอกแฟนไปว่า มาค้างบ้านเพื่อนนะอยู่กัน2คน ผมนอนอยู่บนเตียงที่ติดกะกำแพงบ้าน ส่วนมันนั่งเล่นอยู่หน้าโต๊ะคอมใกล้ๆห้องน้ำครับ (ลักษณะห้อง เปิดประตูห้องเข้ามา มองตรงไปจะเห็นโต๊ะคอม ทางขวาจะเป็นห้องน้ำ และจะมีกระจกบานใหญ่ติดอยู่ข้างกำแพงห้องน้ำ มองทางขวาจะเป็นเตียงนอน3เตียงครับ) คุยไปคุยมาผมกะแฟนก็เปิดกล้องกัน สักพักนึงก็มีเสียงเคาะประตู 3 ครั้ง ผมก็เดินไปเปิดแล้วผมก็หันหลังจะเดินไปที่เตียง แล้วพูดว่าเข้ามาเลย แต่ไม่มีใครเข้ามา เลยไปปิดประตู ผมหันไปมองหน้าไอ้ ท. มันก็มองก็หันมามองเหมือนกัน ผมก็กับมาคุยกะแฟนต่อ ก็มีเสียงเคาะอีกเหมือนเดิมเลยครับ ผมก็เดินไปเปิดก็ไม่เจอใคร ผมก็ปิดประตูแต่ยังปิดไม่สนิท ก็เหมือนมีคนดึงออกไปครับ ผมตกใจมากเลยวิ่งมากลางห้อง
ท : เป็นไรว้ะ
ผม : ตอนไปปิดประตูมันเหมือนมีคนดึงประตูออกไปหว่ะ
ท : เองคิดไปเองอะดิ บ้าาา
ผม : ก็ขอให้เป็นแบบนั้นอะ

ตอนนั้นผมลืมไปเลยครับว่าผมคุยกับแฟนค้างเอาไว้ แต่พอไปหยิบมือถือที่วางไว้บนเตียง แฟนผมก็วางสายไปแล้วครับ ผมโทรไปแฟนผมก็ไม่รับสาย ผมก็ทักแชทไปว่า วางสายทำไมแล้วโทรไปก็ไม่รับ งอนอะไรหรือป่าว แฟนผมก็บอกว่า อะแกล้งกู ขยับตุ๊กตาทำไม แล้วเอาตุ๊กตามาหน้ากล้องทำไม ผมงงมากครับ แล้วบอกแฟนว่า ป่าวนะไม่ได้ทำ แล้วก็ลองเปิดกล้องกันใหม่ ตอนนั้นผมไม่กล้านั่งคนเดียวเลยมานั่งข้างๆเพื่อน (ลักษณะจะเป็นหันหลังให้ประตู ข้าวขวาเป็นห้องน้ำ) ก็คุยกันปกติครับ สักพักนึงแฟนก็บอกว่าไหนอยู่กัน2คนไงแค่นี้ต้องโกหกเหลอ เมื่อกี๊กุเห็นคนเดินเข้าห้องน้ำ ผมกะไอ้ ท. หันมามองหน้ากันแล้วหันขวาไปทางห้องน้ำก็ไม่มีใคร ผมก็เลยตัดสินใจถือกล้องเข้าไปในห้องน้ำให้แฟนดู มันก็ตกใจเลยครับ มันบอกว่าเห็นจริงๆ แล้วผมก็เลยบอกให้แฟนผมนอนเพราะมันก็ดึกมากแล้ว สักพักก็ชวนไปดูดบุหรี่ครับ ก็ได้คุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่มันบอกให้ไปตอนเช้าเถอะ กับมาในห้องก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก พอถึงเช้าปุ๊บประมาณเกือบ 6 โมงเช้า ก็มีคนมาเคาะประตู ปัง ปัง ปัง ผมคิดในใจเอาอีกแล้วเหลอ แต่เช้าเลย ผมกะไอ้ ท. เดินไปเปิดประตูด้วยกันครับ เปิดไปไม่เจออะไรเลยครับ พอกำลังจะปิด ก็มีเสียงแฮ่ พร้อมหน้าพี่ ต. มาโผล่ตรงประตู ผมกะไอ้ ท. สะดุ้งเลยครับ

แล้วก็มาโวยวายใส่พี่ ต. ว่าจะมาแกล้งทำไมเนี่ยใจหายหมด สักพักนึงไอ้ ภ. โทรมาบอกว่าเห้ยเตรียมตัวได้แล้ว ผมกับไอ้ ท. ก็ผลัดกันอาบน้ำเสร็จสับเรียบร้อย ก็โทรไปหา พี่ ด. กะไอ้ ช. แต่ไม่รับสาย ซึ่งผมโทรไปหลายรอบมาครับ จนตัดสินใจว่าไปปลุกมันที่บ้านเลยล้ะกัน แต่ระยะทางจากบ้านไอ้ ท. ไปบ้าน ไอ้ ช. มันไกลมากครับ แต่ก็ไปกันโดยจะมีรถ2คันครับ พอไปถึงบ้านไอ้ ช. ก็ประมาณ 7 โมงครึ่งแล้วครับ รอมันอาบน้ำแต่งตัวก็ประมาณ 8 โมง แล้วไอ้ ภ. โทรมา มันบอกว่าให้มารอตรงปั๊มแถวๆบ้านไอ้ ท. เลย ผมไอ้ ช. และพี่ ด. นั่งรถผมอัด3ไป ส่วนอีกคันนึงก็จะมี พี่ ต. กับไอ้ ท. ได้ขับนำไปก่อนแล้ว ผมและพี่ ต. ได้นำรถไปจอดไว้ที่บ้านของ ไอ้ ท. พอไปถึงปั๊มที่นัดกันไว้ ก็รอกันแปปนึง ไอ้ จ. ก็เดินมาหาพวกผม แล้วก็บ่นมันว่ามาสายเนอะ รถตู้แม่ของเพื่อนก็ขับมาจอดข้างๆพอดีก็ขึ้นรถกัน บนรถก็จะมี แม่ พี่ ไอ้ ภ. และพี่ ม. ผมก็ได้พูดคุยถึงเรื่องเมื่อคืนกันครับ แต่เพื่อนๆที่ผมเล่าให้ฟังกับไม่เชื่อผม (เพราะผมเป็นคนชอบปั่น) คุยไปคุยมาผมก็เผลอหลับไป จำลางๆได้ว่าผมฝันว่าถึงแกร่งกระจานแล้ว ผมและเพื่อนๆก็เล่นน้ำกัน แล้วเหมือมมีคนมาดึงขาผม จนผมจมน้ำ และก็สดุ้งตื่นขึ้นมา เจอหน้าเพื่อนๆที่กำลังมองมาที่ผม

เพื่อน : เป็นไรว้ะ หน้าซืดๆ แล้วก็ทำท่าทางเหมือนหายใจไม่ออกเลย
ผม : ผมก็มันเรื่องที่ผมฝันว่าถึงแกร่งกระจานแล้ว ก็เล่นน้ำกันปกติ จนมีเหมือนมีคนมาดึงขาแล้วจมน้ำ
เพื่อน : แล้วไป เป็นแค่ฝันก็ดีละ (มันพูดมาทำนองนี้)
จนไปถึงแกร่งกระจาน ประมาณ10โมงกว่าได้ ก็จอดรถขนของไปหาที่พักของญาติที่จองไว้ ซึ่งเขามาถึงก่อนแล้ว ผมและเพื่อนไปเช่าชูชีพ และเตรียมตัวเล่นน้ำกัน แต่เพื่อนก็พูดขึ้นมาว่า มาถ่ายรูปกันก่อนค่อยไปเล่น พอถ่ายเสร็จก็เดินไปเล่นสไลเดอร์กันครับ เล่นอย่างเมามัน ผมและเพื่อนเล่นน้ำกันนานมาก จนหมดแรง เลยจะไปหาอะไรกินกัน พอกินเสร็จแล้ว แม่ของเพื่อนก็พูดขึ้นมาว่า ล่องแกร่งกันมั้ย ไปกัน7คนนี่แหละ ก็ตกลงกันว่าไป ระหว่างที่รอนั้น ผมกับเพื่อนก็ไปเล่นสไลเดอร์อีกที่นึง (ลักษณะจะเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ครับ)

และแล้ว แม่ก็เดินมาบอกว่า เรือมาแล้ว พวกผมเลยขึ้นออกจากสระแล้วเดินไปที่เรือ ตอนนั้นผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลย มันอึดอัดยังไงไม่รู้อธิบายไม่ถูก แล้วผมกับเพื่อนก็ขึ้นเรือกันหมด บนเรือก็จะมีเพื่อนผม และคนพายเรือ รวมกัน8คน ระหว่างที่ล่องแกร่งอยู่นั้น ข้างทางจะเป็นป่าทึบหมด มีต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย จนสายตาผมเหลือบไปเห็นผู้หญิงคนนึง ยืนเอาแขนเกาะต้นไม้อยู่ ผมก็พูดคนเฮียอะไรว้ะมายืนตรงนี้ มีแต่ต้นไม้แล้วแถวนี้ก็ไม่มีใครเลยเพื่อนๆก็หันมาทำหน้างงๆ ผมก็ชี้ให้มันดูครับ แต่พอมองไปอีกทีก็ไม่มีแล้ว เพื่อนผมคนนึงก็ถามคนพายเรือขึ้นมาว่า แถวนี้มีผีมั้ยพี่ เขาก็บอกว่ามีสิ เยอะด้วยนะโดนมาหลายคนแล้ว มันก็ถามต่อว่ามีตรงไหนเหลอครับ คนพายเรือก็ชี้เลยครับผม มองหันหลังมาทางผมแล้วชี้ไปแถวๆที่ผมเห็นผู้หญิงคนนั้น ผมใจสั่นเลยครับตกใจมาก แต่ผมก็เงียบไปไม่พูดอะไร เพื่อนๆผมเหวอกันหมด (ตอนที่ผมเจอผู้หญิงคนนั้นแล้วผมพูดอะคนพายเรือไม่ได้หันมามองที่ผมเลย) แต่ก็ช่วยกันพายเรือไปเลื่อยๆก็มีการกลั่นแกล้งกันเกิดขึ้นในหมู่เพื่อน โดนถีบโดนผลักตกน้ำมั่ง แกล้งกันขำๆเล่นๆกัน ตกน้ำกัน4คน และลอยตามน้ำไปเลื่อยๆ จนผมและเพื่อนๆมองเห็นศาลเล็กๆตั้งอยู่กลางป่าเลยครับ ผมอุทานขึ้นมาว่า ศาลไรว้ะทำไมมาตั้งตรงนี้ (แต่ตรงศาลที่ผมเห็นของไหว้เต็มเลยครับ)

พูดจบปุ๊บก็โดนตบเลยครับ ต่างคนต่างกระโจนขึ้นเรือกันยกใหญ่ ล่องเรือไปตามทางก็จะเจอต้มไม่ใหญ่ผูกผ้า3สีบ้าง เจอบ้านล้างบ้าง แต่นานๆทีก็จะเจอรีสอร์ทบ้าง ผมและเพื่อนเฮฮากันสนุกมากครับ จนล่องเรือมาเกือบถึงที่พัก ผมก็กระโดดลงจากเรือแล้วล่องไปตามน้ำครับ ก็มีเพื่อนกระโดดตามมา 2 คน แล้วผมก็รู้สึกว่าที่ขาเนี่ยมันเหมือนไปโดนพวกหญ้าใต้น้ำพวกตะไคร่น้ำครับ ก็ไม่ได้สนใจอะไร ล่องไปจนเกือบถึงฝั่งล้ะ มันมีคนมาจับขาผม แล้วกระตุกขาอะครับ ผมเอาหน้าจุ่มลงไปในน้ำเพื่อมองดู ก็ไม่เห็นอะไร คิดในใจอาจจะคิดไปเองหรือป่าวโดนหญ้าหรือป่าว แล้วผมก็ว่ายน้ำขึ้นฝั่งพร้อมเพื่อนๆที่อยู่บนเรือครับ แล้วต่างคนต่างแยกย้ายไปเล่นน้ำบ้าง ไปสไลเดอร์บ้าง จนเย็นมากแล้วครับ แม่ก็บอกว่าแม่ไปอาบน้ำก่อนนะ ไปเล่นกันก่อนใกล้จะกลับแล้ว ผมบอกเพื่อนว่าไปเล่นสไลเดอร์ที่สระทิ้งท้าย ก็ไปกัน สลับกันเล่น ในสระก็มีคนเยอะมากไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ต่างคนต่างเล่นกัน ตอนนั้นผมและพี่ ม. ได้ขึ้นไปเล่นกัน ผมจะเป็นคนไหลลงมาก่อนแล้วผมก็ลอยอยู่ในน้ำแหละครับ แล้วพี่ ม. ก็หันหลังลงมาอะครับ แผ่นหลังของเขาเข้าดั้งจมูกผมหัก น๊อคคาสระน้ำ เลือดไหลเต็มสระ (เพื่อนมาเล่าให้ฟัง) จนผมสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา ตอนนั้นผมอยู่ข้างสระแล้วครับ มีคนมามุงดูหลายคนมาก แล้วก็มีเสียงเรียกชื่ผม ตอนนั้นผมมึนหัวและปวดหัวมาก แล้วเสียงพี่ ม. เขาพูดขึ้นมาว่า ถ้ารู้สึกตัวให้บีบมือพี่ไว้ ผมก็บีบครับ แต่ที่ผมเห็นเนี่ยพี่แกยืนปรบมืออยู่ แต่แกเอาเท้ามาให้ผมบีบ-..- รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ที่ รพ. แล้วครับ มีไอ้ ภ. กะพี่ ม. นี่แหละครับที่เฝ้าผม

(ต่อไปนี้คือเรื่องที่เพื่อนผมเล่าให้ฟังนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)
เพื่อนผมเล่าว่า ตอนที่ผมนอนอยู่แล้วนั่งรถมาหาหมอเนี่ยผมส่ายหัวตลอดเวลาเลย แล้วพอถึงมือหมอ หมอก็บอกว่าเคสแบบนี้เจอมาหลายลายแล้ว ไปรบหลู่เขามาล่ะสิ ถึงได้โดนมาขนาดนี้ ดีนะที่น้ำไม่เข้าสมองไม่งั้นก็ความจำเสื่อมไปแล้ว ส่วนแม่และเพื่อนๆที่เหลือก็กลับบ้านกันไปครับ เพื่อนที่เฝ้าผมเล่าอีกว่า ตอนที่แม่กลับไปบ้าน เขาไปจุดธูปไหว้ศาลที่บ้าน ขอให้ปกปักรักษาผมที ขอให้ผมตื่น พอแม่พูดเสร็จก็ปักธูปครับ แต่ไม่ลง พยายามอยู่นาน สุดท้ายคนที่บ้านแม่เขามาท่องคาถาอะไรไม่รู้แล้วปักธูปลง แล้วแม่ก็โทรไปบอกเพื่อนที่เฝ้าผมว่าแม่จุดธูปบอกสิ่งศักสิทธิ์แล้ว แม่ยังไม่ทันพูดจบ ลมที่จู่ๆก็พัดแรงขึ้นมาพร้อมเสียงต้นไม้กระทบกัน ไฟที่ รพ. ดับเลยวุ่นวายกันใหญ่ แล้วมันก็เห็นผู้หญิงที่นั่งอยู่บนกิ่งไม่ชี้มาทางห้องที่ผมนอนอยู่ แล้วไฟก็ติด ผมก็ลืมตาขึ้นมา (นี่คือเรื่องที่เพื่อนผมเล่านะครับ)

    ผมตื่นมากลางดึก เพื่อนและพี่ที่เฝ้าผมก็รีบวิ่งเข้ามาหา ผมก็ถามว่าผมเป็นไรมากมั้ย เขาก็ไม่ตอบ จนผมนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้คุยกับแฟนเลย ผมก็ขอมือถือเพื่อนมายืมคุยกะแฟนหน่อย มันไม่ให้ แล้วบอกให้พักไป (ในห้องที่ผมพักอยู่จะเป็นห้องรวมครับ ไม่ใหญ่มาก มีคนไข้อีก 3 คน นอนอยู่ฝั่งตรงข้ามผม) จังหวะที่ผมกำลังจะลุกขึ้นมานั่งบนเตียง ผมเห็นผู้หญิงคนนึงยืนอยู่หน้าประตูห้องแล้วมองมาทางผมและเพื่อนๆ ผู้หญิงคนนั้นเหมือนคนที่ผมเจอตอนล่องเรือมาก ซึ่งระยะทางระหว่างเตียงผมกับที่ที่ผู้หญิงคนนั้นยืน ห่างกันไม่กี่เมตร ผมไม่ได้ตาฝาดแน่นอน ผมหันหน้ากับมา เพื่อนก็ถามว่าเป็นไรหน้าซืดๆ ผมก็บอกว่าป่าว พอพูดจบแล้วเลือดที่จมูกผมก็ไหลออกมาเยอะมาก ก็เรียกหมอมาดูครับ หมอก็พูดว่าเลือดน่าจะหยุดไหลไปแล้วนี่นา ผมก็คิดว่าเพราะผมลุกมานั่งหรือป่าว หมอก็ได้เอาผ้าเย็นมาประคบที่จมูก พอเลือดเริ่มหยุดแล้วผมก็เอาผ้าออกครับ แล้วก็นอนหลับไป

ผมจำได้ว่าผมฝันเห็นผู้หญิงคนนั้นมายืนชี้หน้าผมที่หน้าห้องที่ผมนอนอยู่ ผมตกใจมากเขาชี้แล้วเดิมมาเลื่อยๆ แล้วมาหยุดที่ระหว่างกลางพี่และเพื่อนผมที่นั่งคุยกันอยู่ แล้วก็สะดุ้งตื่น พอผมตื่นพี่ที่เฝ้าผมก็เดินไปเข้าห้องน้ำ สักพักนึงพี่ก็วิ่งออกมาแล้วบอกว่า พี่เจอหว่ะ ตอนพี่ไปเข้าห้องน้ำมีคนเดินตามมาด้วยพี่ก็นึกว่าไอ้ ภ. พี่ก็เปิดประตูเข้าไปจู๊ดๆๆอยู่ แล้วมีเสียงปิดประตูดังมาก ดังมาจากห้องข้างๆเลย แล้วมีเสียงเหมือนท่องอะไรสักอย่างแปลไม่ออก พี่ตกใจเลยรีบวิ่งออกมาเนี่ย ผมและเพื่อนก็มองไปที่ห้องน้ำ มันมีห้องที่ปิดประตูไว้ห้องนึง ผมกะเพื่อนหันมามองหน้ากัน แล้วบอกพี่ว่า พี่เข้าไปคนเดียวนะ ไม่มีใครตามไปเลย พี่กะไอ ภ. เดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วผลักประตูออกไป ก็ไม่มีใครอยู่ คืนนั้นก็ไม่ได้มีใครนอนเลย หมอก็เดินมาดูอาการเลื่อยๆจนตอนเช้า น้าผมก็ขับมารับที่ รพ. ขากลับก็จะมา พี่ ม. ไอ้ ภ. ผม แล้วก็น้า น้าผมก็ถามเพื่อนว่าบ้านอยู่ไหนเดี๋ยวไปส่ง

พอไปส่งปุ๊บ คนที่บ้านก็มาสวัสดีน้าผมที่กำลังจับพวงมาลัยรถอยู่แล้วหันไปสวัสดีเบาะหลังคนขับ ผมก็งง หันไปมองน้าเขาไม่พูดอะไร จนมาถึงบ้าน คนที่บ้านก็ทักขึ้นมาว่า แล้วผู้หญิงคนนั้นไม่ลงมาเรอะ เห็นกันหลายคนเลยครับ ผมก็เดินก้มหน้าเข้าบ้านไม่สนใจอะไรเลย จนน้าผมไปบอกคนที่ทักว่ามากันแค่ 2 คน พอผมหายดีไปซ่อมดั้งใหม่ ผมก็เข้าวัดบ่อยๆ ก็ไม่ได้เจออะไรอีกเลย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ