ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ห้องสามสองศูนย์ - คุณผึ้ง


เริ่องราวเกิดขึ้นที่หอพักแห่งนึง เมื่อประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา คุณผึ้งมีเหตุให้ต้องย้ายห้องด่วน แล้วไปเจออพาร์ทเม้นแห่งหนึ่งมีห้องว่าง แถวบางพลี สมุทรปราการ

คุณผึ้งจึงได้เข้าไปดูห้อง เบอร์ห้องคือสามสองศูนย์ อยู่ห้องริมสุด สภาพห้องเก่ามาก แล้วชั้นที่คุณผึ้งอยู่ มีคนอาศัยอยู่ประมาณสิบห้อง จากยี่สิบห้อง และห้องข้างๆห้องของคุณผึ้งจะไม่มีคนเช่าอยู่ คุณผึ้งได้ย้ายของเข้าอาศัยและจัดห้องเสร็จเรียบร้อย จนประมาณห้าทุ่ม คุณผึ้งนึกขึ้นได้ว่าลืมไหว้เจ้าที่ จึงได้จุดธูปไหว้เก้าดอก สักพักไฟดับ คุณผึ้งคิดในใจว่าไฟคงจะตก แล้วไฟมันก็ติด คุณผึ้งผิดสังเกตุที่ธูปที่พึ่งจุดไหว้ไปเมื่อสักครู่ ตอนจุด จุดไปเก้าดอก ห้าดอกไหม้ปกติ แต่อีกสี่ดอกกลับไหม้จากตรงกลางขึ้นข้างบน ทั้งๆที่จุดจากข้างบนทั้งเก้าดอก แล้วลมพัดเข้ามาในห้องอ่อยๆ คุณผึ้งจึงคิดในใจว่า ลูกมาดีนะ ลูกมาขออาศัย

จากนั้นคุณผึ้งจึงอาบน้ำแล้วเข้านอน ตอนนอนคุณผึ้งได้เปิดประตูระเบียงและหน้าต่างบานเกล็ดเอาไว้เพราะอากาศร้อน ระหว่างที่นอนก็ได้ยินเสียงคนสวดอะไรสักอย่าง แต่ว่าดังมาก จนนอนไม่ได้ คุณผึ้งจึงได้พูดออกมาว่า ใครมาสวดบ้าอะไรตอนนี้ว๊ะ คนกำลังจะหลับจะนอน นอนไม่ได้เลยหวะ แล้วก็นอนต่อ ประมาณเที่ยงคืน คุณผึ้งรู้สึกว่ามันเย็นๆเท้า จึงหันไปดูที่ปลายเท้า ปรากฎว่า มีผู้ชาย ร่างใหญ่ เห็นเป็นเงา นั่งยองๆมองหน้าคุณผึ้ง แล้วเค้าก็เอามือทั้งสองข้างจับที่ขาของคุณผึ้ง คุณผึ้งตกใจมากและขยับตัวไม่ได้เลย คิดในใจว่ามาขออาศัยนะ ถ้าทำอะไรผิดพลาดไปก็ขอโทษขออภัยไว้ ณ ที่นี้

แต่ก็ยังขยับตัวไม่ได้ คุณผึ้งได้แต่นอนมองหน้าชายคนนั้นเฉยๆ เค้าก็จ้องมาที่หน้าคุณผึ้ง พักนึงเค้าค่อยๆคลานเข้ามาใกล้คุณผึ้ง เหมือนจะเข้ามานอนกับคุณผึ้ง คุณผึ้งไม่รู้จะทำยังไง แล้วที่คอของคุณผึ้งคล้องพระอยู่ คุณผึ้งจึงขอให้ช่วย แต่เงานั้นก็ยังค่อยๆคลานเข้ามา พักนึงเสียงประตูหลังห้องมันตีกลับมาปิดเองดัง ปั้ง คุณผึ้งก็เริ่มขยับตัวได้ แล้วเค้าก็หายไป แต่มันแปลกตรงที่ว่า ลมไม่ได้พัด แล้วด้านหลังประตูมันจะมีตัวล็อกประตูไม่ให้ประตูมันตีกลับ แล้วประตูมันปิดเองได้ยังไง

หลังจากที่คุณผึ้งขยับตัวได้ จึงรีบลุกขึ้นมาจับพระ แล้วหันไปมองที่ประตูหลัง เงานั้นยืนอยู่หน้าประตูแล้วมองมาทางคุณผึ้ง คุณผึ้งรีบจับพระแล้วคิดในใจว่า หนูขอโทษ ถ้าหนูทำอะไรผิดไปหรือพูดอะไรที่มันไม่ดี สักพักนึงเงานั้นก็หายไป เสียงลมพัดที่หลังห้องดัง หวีดหวิว น่าขนลุก คุณผึ้งคิดในใจว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะทำบุญไปให้ แล้วก็ไม่ได้นอนต่อทั้งคืน

เหตุการณ์นี้คือคืนแรกที่เข้าพัก วันต่อมา คุณผึ้งจึงปิดประตูและหน้าต่างทุกบาน และซื้อพวงมาลัยมาไหว้ แล้วตอนกลางคืน คุณผึ้งก็เข้านอนปกติ ได้ยินเสียง ปึ้งปั้งๆ มาจากด้านบน อีกสักพักต่อมา เสียงเหมือนของหล่น จนคุณผึ้งสะดุ้งตื่น และรู้สึกว่าทำไมมันเหมือนมีคนมานอนข้างๆ แล้วเค้าก็เข้ามากอดคุณผึ้ง คุณผึ้งคิดในใจว่าแบบนี้มันอยู่ไม่ได้แล้ว

เช้ามาคุณผึ้งรีบย้ายออกไปห้องใหม่ทันที แต่ก็ยังเจออยู่เหมือนเดิม เลยลองถามป้าคนที่ดูแลตึกอยู่ว่า ห้องนั้นมีอะไรหรือป่าว ป้าตอบกลับมาว่ามันก็มีทุกห้องแหละ จะเอาอะไรมากมาย อพาร์ทเม้นเก่าๆ คุณผึ้งได้ยินแบบนั้นจึงรีบย้ายออกทันที และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ