ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เรื่องเล่าจากทหารพราน - คุณคิง THESHOCK


เมื่อก่อน คุณคิงเป็นทหาร ประจำการอยู่ที่ชายแดนจังหวัดตาก มีคุณลุงท่านนึงที่บ้านอยู่แถวๆนั้น แกเห็นพวกของคุณคิงบ่อยๆเข้าก็ได้มานั่งคุยด้วย แกบอกว่า แกเคยเป็นทหารพรานอยู่ทางภาคอีสาน

แล้วแกก็ถามว่า "อยู่ในป่าแบบเนี้ย เคยเจอผีบ้างหรือเปล่า" คุณคิงก็ตอบว่า "ลุงมาพูดอะไรกลางค่ำกลางคืนแบบนี้ พวกผมเข้าเวรกันอยู่" แกก็พูดขึ้นว่า "มีเรื่องเล่าให้ฟัง" คุณคิงและคนอื่นๆก็ตั้งใจฟังด้วยความสนใจ สมัยที่แกเป็นทหารพรานเมื่อก่อน ยังเป็นแค่การรับจ้าง ไม่มีสวัสดิการอะไรมากมาย แล้วแกก็ค่อนข้างจะเป็นคนที่เกเร แกมีเพื่อนอยู่คนนึงที่เป็นบัดดี้ เวลาออกตรวจพื้นที่ หรือลาดตะเวนตามแนวตะเข็บก็มักจะไปด้วยกัน แต่จริงๆก็ไปด้วยกันหลายคน แต่จะสนิทกับเพื่อนคนนี้เป็นพิเศษ เพื่อนคนนี้ชื่อลุงเทียน เวลาลาดตะเวน บางทีคุณลุงแกก็นำ บางทีลุงเทียนก็นำ แต่ส่วนมากลุงเทียนจะนำมากกว่า

เวลาประจำตามจุดต่างๆ คุณลุงแกก็จะแอบเอาเหล้าเข้าไปให้ หลังๆมา โดนคนที่มียศสูงกว่าจับแยกกัน เพราะว่าทั้งสองคนเมาด้วยกันบ่อยเกิน จนเสียการเสียงาน ไม่ยอมเข้าเวร มีอยู่วันนึง หลังจากโดนจับแยกแล้ว คุณลุงกับลุงเทียนก็ต้องเข้าเวรคนละจุด แต่ด้วยความที่คุณลุงอยากเหล้า แกก็นึกถึงลุงเทียน ว่าเวลานี้ลุงเทียนเป็นยังไงบ้าง จะอยากเหล้าเหมือนกันมั้ย ระหว่างที่แกคิด หูก็ได้ยินเสียงเหมือนคนวิ่งผ่านไปแถวๆข้างหน้า ตรงจุดที่แกเข้าเวรอยู่ แกก็หยุดนิ่งแล้วฟังเสียงต่างๆ สักพักก็ได้ยินเสียงมาจากด้านหน้าอีกครั้ง "ตุบๆๆๆ" แกรีบเปิดสปอร์ตไลท์ส่องเข้าไปในความมืดหน้าป้อม

แกก็เงาคนแวบๆ ลักษณะคล้ายลุงเทียน แกคิดว่าลุงเทียนคงจะแอบเอาเหล้ามาให้ ก็เลยตะโกนไปว่า "เฮ้ย เอามาดิ รออยู่เนี่ย กำลังอยากเลยมือสั่นหมดแล้ว" แต่เงานั่นยังคงวิ่งผ่านหน้าป้อมไปมาด้วยความเร็ว คุณลุงแกก็คิดในใจว่า ลุงเทียนเป็นอะไร หลอกให้อยากเฉยๆแล้วไม่เอามาให้ คืนที่สอง ก็เห็นลักษณะเงาคนวิ่งผ่านหน้าป้อมไปมาอีกเหมือนเดิม ด้วยความที่อยากเหล้า ก็เลยตะโกนด่าคำหยาบออกไป ประมาณว่า "ถ้าไม่เอามาให้ก็ไม่ต้องมาเล่นแบบนี้" แต่ก็มีเพียงเสียงหัวเราะเย็นๆดังขึ้นในความมืดแถวๆหน้าป้อม คุณลุงเก็บความหงุดหงิดนี้ไว้ในใจ คิดว่าเพื่อนคนนี้มันยังไง จนคืนที่สาม ก็ยังเห็นลุงเทียนวิ่งผ่านไปมาที่หน้าป้อมในความมืด

ที่คุณลุงแน่ใจว่าเป็นลุงเทียน เพราะตอนฉายไฟเข้าไปในความมืดหน้าป้อม แสงไฟมันไปกระทบเข้ากับร่างผู้ชายคนนึง ซึ่งก็คือลุงเทียน แล้วลุงเทียนก็รีบวิ่งหลบเข้าไปในป่าข้างทาง เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง
คุณลุงก็เลยตะโกนออกไปว่า "ถ้าเอ็งจะมาทำแบบนี้นะ ข้าขอตัดเพื่อนกับเอ็งว่ะไอ้เทียน" สักพักลุงเทียนก็เดินโผล่ออกมาจากในความมืด แล้ววางถุงเหล้าลงข้างๆคุณลุง แล้วพูดว่า "เล่นแค่นี้ก็ไม่ได้เนอะ ต้องโกรธ" ด้วยความที่คุณลุงอยากเหล้าจนเต็มประดา รีบคว้าถุงเหล้าขึ้นมากระดกจนหมดถุง พอเหล้าไหลลงคอก็เริ่มอารมณ์ดีขึ้นบ้าง จึงได้นั่งคุยกับลุงเทียน แต่คุณลุงจับสังเกตได้อย่างนึง คือลุงเทียนจะพูดพึมพัมเบาๆอยู่คนเดียวทุกๆห้านาทีว่า "ยังไม่ไป...ยังไม่ไป"

คุณลุงจึงถามออกไปว่า "เป็นอะไรว่ะ" ลุงเทียนก็ตอบว่า "เออๆ ไม่มีอะไรหรอก กินไปเหอะ เดี๋ยวข้ากลับก่อน" แล้วลุงเทียนก็หันหลัง เดินกลับเข้าไปในความมืด คุณลุงก็พูดตามหลังว่า "อ่าวไอ้นี่ เออเดี๋ยวพรุ่งนี้ออกเวรแล้วเจอกัน" แต่คุณลุงก็ยังคงสงสัยไม่หาย เพราะจุดที่ลุงเทียนเข้าเวรอยู่ มันห่างจากจุดที่คุณลุงอยู่หลายกิโลเมตร ลุงเทียนเดินเอาเหล้ามาให้ได้ยังไง แล้วคืนก่อนๆหน้านี้มาวิ่งเล่นแถวๆหน้าป้อมทำไม

หลังออกจากเวร คุณลุงก็เข้าไปอาบน้ำ ด้วยความที่อยากเหล้ามาก แกคิดว่าตอนนี้ลุงเทียนคงจะนั่งรอดื่มเหล้าอยู่ตรงที่ประจำ แถวๆถังเก็บน้ำ จึงชวนเพื่อนอีกสองคนไปด้วย พอไปถึงก็เจอลุงเทียนนั่งอยู่คนเดียว คุณลุงและเพื่อนอีกสองคนก็เข้าไปนั่งดื่มด้วย ในระหว่างที่นั่งดื่มกันอยู่ คุณลุงกับเพื่อนจับสังเกตได้ว่า ลุงเทียนแกจะนั่งนิ่งไม่ขยับตัว เอามือประคองหัวไว้ตลอดเวลา ปากก็พึมพำคนเดียวว่า "เบาว่ะ...เบาเว้ย" นานๆทีก็จะหลุดพึมพำออกมาว่า "ยังไม่ไปๆ" เน้นๆบ้าง เบาๆบ้าง คุณลุงก็ถามออกไปว่า "พูดอะไรของเอ็งวะ" ลุงเทียนก็มองคุณลุงทางหางตา ปากก็ยังพึมพำเบาๆ "ยังไม่ไปๆ" แล้วลุงเทียนก็พูดขึ้นมาว่า "เอ็งจำที่ข้าเคยเล่าเรื่องนึงให้เอ็งฟังได้มั้ย ว่าข้าเห็นคนน่ะ ตอกไม้มาจากต้นไม้" คือลุงเทียนเคยเล่าให้คุณลุงฟังว่า เคยเจอคนปีนอยู่บนต้นไม้ แล้วตอกไม้กระดาน ตอกมาเรื่อยๆ วันละสองแผ่นสามแผ่น

ลุงเทียนแกพูดต่อว่า "แต่คนที่ตอกอ่ะ ข้าจำได้ว่าเป็นเพื่อนทหารพรานที่ตายไปแล้ว" คุณลุงก็เลยบอกว่า "สงสัยเอ็งจะเมาจนเพี้ยน" ลุงเทียนพูดต่อว่า "มันตอกใกล้เข้ามาเรื่อยๆเลยนะเว้ย" คุณลุงก็ถามออกไปว่า "ทำไม คราวนี้เอ็งเห็นอีกแล้วเหรอ" ลุงเทียนแกก็ยิ้มที่มุมปากบางๆแล้วพูดว่า "คราวนี้ไม่ได้เห็นอย่างเดียวนะเว้ย เอ็งรักข้ามั้ย" คุณลุงตอบว่า "รักดิ เพื่อนกันไม่รักได้ไง แต่สามวันที่ผ่านมาเนี่ย เอ็งเล่นซะข้าโกรธเลยนะ" ลุงเทียนก็พูดแค่ว่า "อืมๆๆ ไม่มีไรหรอก" แล้วพึมพำเบาๆว่า "ยังไม่ไปๆ" แล้วก็เอามือคลำๆแถวใบหน้าและลำคอ พร้อมกับพึมพำว่า "เบาเว้ย...มันเบาเว้ย" คุณลุงเริ่มรำคาญ ก็เลยลุกขึ้นแล้วพูดว่า "เอ็งเป็นอะไรนักหนาวะ อย่าคุยกันเลย ถ้าคุยแล้วเดี๋ยวจะวงแตก" แล้วก็หันหลังเดินออกไป

เพื่อนที่ตามมาอีกสองคนก็รู้สึกรำคาญลุงเทียนเหมือนกัน ก็เลยลุกขึ้นเดินตามคุณลุงไป ลุงเทียนก็พูดตามหลังว่า "เอ็งจะไปแล้วเหรอ ถ้าเอ็งไป งั้นข้าไปบ้างนะ" คุณลุงหันมาพูดว่า "เอ็งจะไปไหนเอ็งก็ไปเหอะ ข้าเห็นเอ็งพูดอยู่นานละ ยังไม่ไปๆเนี่ย" คุณลุงก็หันกลับ แล้วเดินออกไป ลุงเทียนก็พูดเสียงเย็นๆว่า "งั้นข้าไปจริงๆแล้วนะ ไอ่พวกนั้นมันตอกกระดานมารับข้าแล้ว แต่ข้ายังไม่ไป ข้าแค่รอเอ็ง เพื่อน" คุณลุงกับเพื่อนอีกสองคนก็หันกลับมามองลุงเทียนด้วยความสงสัย แต่ก็ต้องตกใจสุดขีด ภาพที่เห็นคือเบ้าตาข้างซ้ายหายไปจนทะลุไปข้างหลัง ที่คอข้างซ้ายเป็นรอยแยก เห็นเส้นเอ็นเงาวับห้อยลงมาเป็นลิ่วๆ เลือดทะลักลงมาอาบเสื้อสีเขียวจนเห็นเป็นสีดำเข้ม

คุณลุงมารู้สึกตัวอีกทีตอนเช้า ทุกคนที่อยู่แถวๆนั้นก็เข้ามาถามคุณลุงว่าเป็นอะไร คุณลุงตอบว่า "เจอผี ไอ้เทียนมันเป็นผี" ทหารนายหนึ่งก็พูดว่า "อ่าวนี่ไม่รู้เหรอ ไอ่เทียนมันโดนยิงตายตั้งแต่วันที่พวกเอ็งแยกกันเข้าเวรคนละจุดแล้ว" คุณลุงแกจึงนึกย้อนไปถึงเรื่องที่ลุงเทียนชอบเล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆว่า ทุกครั้งที่ลุงเทียนนั่งอยู่ในหลุมตอนเข้าเวร ในช่วงที่กำลังเมา ลุงเทียนมักจะเจอเพื่อนที่ตายไปแล้ว ตอกไม้กระดานอยู่บนต้นไม้ ใกล้เข้ามาหาแกเรื่อยๆ คุณลุงก็เลยขอลาออก แต่ผู้พันบอกว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะอยู่มาหลายปีแล้ว ยังไม่เคยเจอเลย คุณลุงก็เลยจำเป็นต้องอยู่ต่อ ตกเวลากลางคืน คุณลุงจะไม่อยู่ที่พักลองตัวเอง เพราะว่าเวลาเมา คุณลุงกับลุงเทียนจะนอนในที่พักด้วยกันบ่อยๆ

จนเวลาผ่านไปประมาณสองอาทิตย์ คุณลุงก็เริ่มลืมเรื่องนี้ไป มีอยู่คืนนึง แกปวดท้องหนัก จึงรีบเข้าไปในห้องน้ำ ลักษณะห้องน้ำของทหารพราน คือขุดหลุมลึกลงไป แล้วเอาไม้กระดานปิด ใช้ผ้าขึงสี่ด้าน
ในขณะที่กำลังนั่งทำธุระอยู่ คุณลุงได้ยินเสียงลุงเทียนพูดเบาๆมาจากข้างหลังว่า "ข้าจะไปจะมาอยู่อย่างงี้แหละ" ด้วยความตกใจ คุณลุงรีบหันไปมอง ปรากฏว่าเห็นลุงเทียนนั่งยองๆคอพับอยู่ข้างหลัง เลือดสีดำข้นไหลทะลักออกมาจากรูโหว่ที่ตาซ้าย ตั้งแต่วันนั้นมา คุณลุงขอลาออกทันที และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงแรมหลอนรูปตัวL ที่เชียงใหม่

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าในเดอะช๊อค เพราะเป็นเรื่องที่ดังมาก น่ากลัวมาก เป็นโรงแรมที่มีอาณาบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เชียงใหม่ บอกไว้เลยว่า มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น .. เพื่อนๆก็ลองเดา กันเอาน่ะครับ เรื่องคือคนเล่าไปเที่ยวช่วงปีใหม่ โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม 5 ดาวของเชียงใหม่แล้วก็จองห้องไว้ แต่มาถึงเช้าแขกยังไม่เช็คอินห้องที่จะพักออก เลยขอเปลี่ยนห้องที่ว่างได้ห้องใหม่ที่ไม่ได้จองไว้ ซึ่งคนเล่ามากับเพื่อนทั้งหมดรวมตัวเองเป็นสามคนเพื่อนคนนึงก็เปิดหน้าต่างห้อง เห็นว่าหน้าต่างตรงกับดาดฟ้าโรงพยาบาลพอดี...แล้วเพื่อนคนนี้ปกติเป็นคนปากเร็ว เลยพูดไม่คิดว่า "โห เห็นดาดฟ้าโรงพยาบาลเลยหรอนี่ อัปมงคลสุดๆ"แต่ก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ก็ออกไปเที่ยวกัน กลับมา เพื่อนคนเดิมก็ไปเปิดหน้าต่าง เห็นผู้หญิงอยู่บนดาดฟ้าก็เลยพูดว่า "คนบ้าอะไรว่ะ ไปนั่งอยู่คนเดียว" คนที่นั่งเป็นผู้หญิง ใส่ชุดโรงบาล คนเล่าก็คิดว่าสงสัยเค้าออกมานั่งเคาว์ดาวน์มั้ง ก็เลยออกไปเที่ยวกันตอนกลางคืน หลังเคาว์ดาวน์เสร็จกลับมา ก็นอนได้ยินเสียงเหมือนคนใช้เล็บกรีดกระจก ซึ่งมีหน้าต่างอยู่ตรงข้างเตียง และบนหัวเตียงของห้องด้วย

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ

เรื่องสยอง ณ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"

ขึ้นชื่อว่า "มหาวิทยาลัย" นอกจากการศึกษาเล่าเรียนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไปเสียมิได้ นั้นคือ "เรื่องผี" อันเป็นตำนานและเรื่องขานจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันมายาวนาน บางเรื่องก็ถูกปรุงแต่งขึ้น บางเรื่องก็พอมีพยานและหลักฐานประกอบ Hatyai Focus ก็ขอนำเรื่องเล่าสยองขวัญมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เราจะนำเรื่องราวมาถ่ายทอด ได้แก่ "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" หรือ "ม.อ." ที่เราๆ พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่แปลกที่อาจจะมีพลังงานบางอย่างสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็-เป็น-ได้ 1. ตำนานอาจารย์ใหญ่ มีเรื่องเล่ากันต่างๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ (อาจารย์ใหญ่ หมายถึงศพที่นักศึกษาแพทย์ใช้ทำการเรียนการสอนเกี่ยวกับกายวิภาค) โดยศพของอาจารย์ใหญ่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรุ่นพี่เคยเล่าว่า ในสมัยก่อนบริเวณตึกแห่งนี้ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าที่จะ