ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เรื่องแปลก ที่บ้านพักโรงเรียน - PANTIP


เรื่องมันผ่านมาหลายปีแล้ว เพิ่งจะมีสติมานึกถึงเรื่องราวตอนเด็ก...ย้อนกลับไปตอนช่วงเรียนประถมต้น จำได้ว่าพ่อ มีอาชีพเป็นนักการภารโรง เฝ้าโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือตอนล่าง ก็อาศัยอยู่บ้านพักครูในโรงเรียนนั่นแหละ เราก็เล่นกับพี่ๆนักเรียนในโรงเรียนมาตลอด บางครั้งพี่ๆในโรงเรียนก็มาอุ้มเราไปกินข้าวด้วย พ่อเราเก่งเรื่องงานฝีมือ เด็กนักเรียนบางคนก็มีฝึกอาชีพกับพ่อ หรือบางครั้งพ่อก็เป็นโ้ค้ชกีฬา ดูแลพานักเรียนไปแข่งขัน พูดง่ายๆคือ ค่อนข้างมีความสนิทสนมผูกพันกับนักเรียนมาก

เราอยู่บ้านพักครูมาตั้งแต่เกิด จนถึง ป.4 พ่อก็ลาออก เราก็เลยมาสร้างบ้านแถวบ้านของยาย แต่ทุกครั้งที่ฝัน จะฝันว่าเราอยู่บ้านหลังนั้นทุกครั้ง จนแม่กังวลว่า หรือจิตเราจะยังอยู่ที่นั่น แม่เลยกลับไปบ้านหลังนั้น แล้วเรียกชื่อเรา บอกว่าให้กลับบ้านด้วยกัน ไม่อยู่ที่นี่แล้ว ซึ่งดูจะไม่ได้ผลเท่าไหร่ เรายังฝันว่าอยู่ทีบ้านหลังนั้นทุกครั้ง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร มันรู้สึกคิดถึง และผูกพันด้วยซ้ำ...มีช่วงหนึ่งเดือนพฤษภาคม มีน้ำป่าไหลหลากดินสไลด์ ทำให้มีคนล้มตาย สูญหาย หมู่บ้านถูกพัดหายไปหมด เหลือแค่เศษปูนของบ้านผู้ใหญ่แค่หลังเดียว. พ่อฝันเห็นนักเรียนมานั่งอยู่ใต้ถุนบ้านพักเต็มไปหมด ร้องไห้ระงม พ่อตกใจตื่น พอเช้าน้ำลดลงไปแล้ว เรากับพ่อก็ขับรถไปแถวโรงเรียนที่เคยอยู่ ไปแวะตามหมู่บ้านที่เราเคยไป ผลคือนักเรียนที่พ่อเห็นในฝัน ทุกคนเสียชีวิตหมดแล้ว โดนน้ำพัดไปบ้าง หายไปบ้าง เราก็ได้แต่เสียใจ พ่อมาเล่าให้ฟังทีหลังขนลุกมาก

เท่านั้นยังไม่พอ อยู่ๆพ่อก็พูดมาว่า ที่โรงเรียนหนะผีเยอะจะตาย แต่พ่อไม่ได้กลัวหรอก ตอนกลางวันก็ลากโต๊ะนักเรียนครืดคราด ทั้งๆที่ช่วงนั้นโรงเรียนปิด ไม่มีเด็กมาเรียน พ่อคิดว่าเด็กแอบงัดห้องมาขโมยของ พอไปดูก็ไม่มี หน้าต่างทุกบานล๊อคหมด ก็เลยกลับมาบ้าน ไม่ได้ใส่ใจอะไร เราก็มานึกได้ว่าจริง แต่ตอนนั้นเรายังเด็กเลยจำได้ว่าได้ยินเสียงลากโต๊ะ บ่อยมากด้วย แต่ไม่ได้สนใจ เพราะชินเสียงลากโต๊ะตอนที่พี่ๆมาเรียน เลยไม่กลัวอะ...เริ่มคุยกันติดลมเลยระรึกชาติกันทีละเรื่องว่า ตอนนั้นพ่อกับแม่ งอนกันเรื่องแย่งทีวี แม่จะดูหนังช่องนั้น พ่อจะดูช่องนี้ พ่อเลยโมโหคว้ากุญแจห้องพักครูไปเปิดทีวีดูซะเลย เราก็ตามไปด้วยไง ทีนี้เราปวดท้อง เลยเข้าห้องน้ำในห้องพักครูนั่นแหละ สักพักพ่อปิดทีวีแล้วเรียกเราให้ออกมาได้แล้วจะไปแล้ว เราก็งง เลยรีบทำธุระ แล้วออกไป เจอพ่อรอหน้าห้องแล้ว ปิดทีวีพร้อม เตรียมปิดไฟตรงประตู เราก็วิ่งออกไปไม่ได้ถามอะไร พ่อมาเล่าทีหลังว่าตอนที่เราเข้าห้องน้ำ แกก็ดูทีวีแปบนึง สักพักได้ยินเสียงลูบผนัง (อาคารเรียนเป็นไม้ ยกใต้ถุนค่ะ) ครืด...ครืด...สักพักประตูตูที่เก็บลูกบาสก็เปิดออก ลูกบาสก็กลิ้งออกมา แกเลยทำเฉยๆ ปิดทีวี แล้วเรียกเรา ดีนะตอนนั้นไม่รู้เรื่องอะไร

ทุกคืนเราจะนอนกันสามคนพ่อ แม่ เรา พอดึกๆจะได้ยินเสียงดนตรีไทยแทบทุกคืน หมาที่เราเลี้ยงไว้ก็หอนน่ากลัวมาก เรากลัวนะ ก็ทำได้แค่นอนเบียดแม่ จนแม่บอกว่า ไม่เป็นไร อยู่ใกล้ๆแม่ไม่มีใครมาทำอะไรได้หรอก เราเลยอุ่นใจ นอนหลับได้ทุกคืน เรากลัวแค่เสียงหมาหอนอะตอนนั้น เสียงดนตรีไทยเราคิดว่ามีงานวัดเฉยๆ พอมาคิดตอนนี้ งานวัดไหนเปิดเพลงตอนตี1ตี2ฟะ?...บ้านเราไม่มีเพื่อนบ้านนะคะ โรงเรียนอยู่บนดอยโดดๆเลย บ้านคนอื่นเราต้องเดินลงดอยไปถึงจะเจอ หลังบ้านเป็นสวนทุเรียนสูงๆ วังเวงดี วันไหนกลับบ้านดึก นี่มืดตื๋อไปเลยค่ะ

เวลาหมาหอนเนี่ยจะหอนรับกันมาเป็นทอดๆค่ะ จากบ้านข้างล่างแล้วค่อยๆมาจบที่หมาที่เราเลี้ยง ขนลุกดีค่ะ..พ่อเล่าอีกว่า คืนแรกที่ไปนอนบ้านพักกับแม่ ได้ยินเสียงหลอดไฟห้องนั่งเล่นแตกเพล้ง ดังมาก คิดว่าหลอดไฟคงเก่า แต่ตื่นมาไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย พ่อบอกน่าจะเป็นการรับน้อง เป็นเราคงไม่ตลกอะ
ตอนนั้นเรากลัวพ่อมาก เพราะพ่อชอบละเมอตอนกลางคืน บางทีก็โดนอำ ขยับตัวไม่ได้ หายใจไม่ออก เราไม่ชอบตอนนั้นเลย. กลัวมาก. แม่ต้องคอยเขย่าตัวตลอด...เราเพิ่งรู้หลังจากที่พ่อลาออกว่า ก่อนที่พ่อจะมาบรรจุที่นี่มีนักเรียนหนีตำรวจจับมาแถวโรงเรียน แล้วเค้าขัดขืนตำรวจเลยยิงขู่ แต่ไปขาดใจตายที่โรงพยาบาล ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ หรือเราคิดกันไปเองก็ได้ ผ่านมาหลายปีเราก็ได้แต่คุยกับพ่อว่าเคยเกิดขึ้นจริงๆนะแต่ตอนนั้นไม่คิดว่าเป็นผี เลยไม่ได้กลัวจนอยู่ไม่ได้

พิมพ์ในมือถือนะคะผิดถูกบ้างต้องขออภัยภาษาอาจจะวกวนบ้าง ขอโทษค่ะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คืนบวงสรวง มหาวิทยาลัยพะเยา

เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายเรื่อง หลายวาระ แต่ละปีก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เสริมจากเรื่องที่เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ ต้องขอบอกก่อนว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม” เราได้รวบรวมมา จากหลายๆ ที่ จะหลอนขนาดไหน ไปสั่นประสาทกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า ที่มอเราจะมี 1 คืนที่ต้องเก็บของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิด เพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพของพระนเรศวรออกมาเดินผ่านบริเวณหอใน รุ่นพี่ก็เล่าๆ สู่กันฟังบ้างว่าเคยเจอ บ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพ บ้างก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆ คนพอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล่าหลอกให้เด็กปี 1 กลัว แต่เมทเราบอกว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เราเลยจำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน (เพราะเป็นสีแดง) และเก็บกล่องห่อข้าวของเราที่เป็นสีแดงมาจากหลังห้อง พอตะวันตกดินความน่ากลัวมันก็เริ่มขึ้น ปกติแล้วที่หอในจะคึกคักมาก โดยเฉพาะหน้ามินิมาร์ทและลานดาว ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มานั่งเล่น หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่อ...

บ้านเก็บศพ!!ย่านบางแวก จรัญ13...เรื่องจริง!!เมื่อหนุ่มวินเข้าไปส่งของแล้วดันเจอดี

ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ... ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "เรือนหอคนตาย" ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "ตีสาม" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้... สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์ บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กัน ส่วนวันนี้ก็ขอนำประสบการณ์จริง จากคุณมาร์ค ที่ได้เล่าเรื่องราวสุดสยองผ่านรายการเดอะช็อค เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา... ให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน...โดยคุณมาร์ค ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะๆ ให้ฟังว่า... ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณ...

โรงหนังผีย่านสมุทรปราการ

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงภาพยนต์แห่งนึงในจังหวัดสมุทรปราการ และเหตุการณ์นี้พึงจะเกิดขึ้นกับคุณโอ๋แบบสดๆร้อนๆ โรงหนังแห่งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว คนจะเยอะมาก แต่ปัจจุบันโรงหนังแห่งนี้ดูเล็กลงไปเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆในปัจจุบัน จนตอนกลางวันแทบนับคนได้เลย แต่ด้วยความที่คุณโอ๋เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว พอดีคุณโอ๋ไปบ้านเพื่อน แล้วอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง คุณโอ๋จึงได้เข้าไปซื้อตั๋ว และตั้งใจว่าจะดูก่อนรอบสุดท้าย แต่มันเลยเวลามาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เลยได้ซื้อตั๋วดูรอบสุดท้ายแทน ประมาณสี่ทุ่ม...คนน้อยมาก คุณโอ๋เลือกนั่งแถวหลังสุด ที่นั่งห้าเอ ก่อนหนังฉายคุณโอ๋ได้เดินเข้าห้องน้ำก่อน ห้องน้ำเก่าและน่ากลัวมาก ใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีคนเลย คุณโอ๋เลือกเข้าห้องตรงกลาง พอคุณโอ๋เสร็จกิจและเปิดประตูออกมา พอจะหวังที่กำลังเปิดประตู คุณโอ๋ได้ยินเสียงกดชักโครกของห้องข้างๆ ซึ่งตอนที่คุณโอ๋เดินเข้ามา ทุกห้องจะเปิดประตูหมดและไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คุณโอ๋พยายามไม่ใส่ใจ และเดินออกไปซื้อขนม และกลับเข้ามานั่งที่นั่ง มีคนดูน้อยมาก แถวที่คุณโอ๋นั่งจะไม่มีคนนั่งเ...